กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--Bangkok Public Relations
? ซีรี่ส์ชุดใหม่ของดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล ที่จะตีแผ่ศาสตร์ ทักษะ และการฝึกฝนวิธีการเดินบนเส้นลวด
นิก วอลเลนดา ไม่ใช่คนบ้าบิ่นที่อยากจะตาย แม้ว่าบางครั้งมันจะดูเหมือนว่าอยู่ดีไม่ว่าดี แต่เนื่องจากเขาเป็นคนรุ่นที่เจ็ดของตระกูล“วอลเลนดา” ซึ่งเป็นตระกูลนักกายกรรมที่กลายเป็นตำนาน เขาจึงมีภารกิจในการนำทักษะ และความสามารถในการแสดงไปถ่ายทอดสู่ผู้ชม ร่วมติดตามนิกและชาวคณะได้ในสารคดีชุดใหม่ความยาว 6 ตอนจบของดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล
DANGER BY DESIGN จะนำเสนอเรื่องราวประวัติของนิก และตระกูลอันลือลั่นของเขา และในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน นิกจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตระกูลของเขา ด้วยการเดินบนเส้นลวดข้ามน้ำตกไนแองการา และหากทำสำเร็จ เขาจะเป็นคนแรกในรอบเวลากว่า 100 ปี
DANGER BY DESIGN จะออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 20.00 น. เริ่มวันที่ 11 กรกฎาคมนี้
ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 20 และออกอากาศซ้ำในวันพฤหัสบดี เวลา 11.00 น. และวันจันทร์ เวลา 15.00 น.
DANGER BY DESIGN จะแสดงให้เห็นว่า ด้วยความช่วยเหลือจากสมาชิกทุกคนในครอบครัว
นิก สามารถสร้างสรรค์การแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ และท้าทายความตายได้อย่างไร เขาอาศัยศาสตร์ ทักษะและการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง ความสำเร็จของการแสดงทุกชุดของนิก และความสำเร็จในชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการเตรียมพร้อมอย่างพิถีพิถัน รวมถึงการวิเคราะห์ทางวิศวกรรม และความเร็วของลม โดยทีมงานของเขาประกอบด้วยหัวหน้าวิศวกร (ลุงไมค์) และผู้ประสานงานด้านความปลอดภัย (พ่อเทอรี่)
การกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างพ่อกับลูกชาย เนื่องจากเทอรี่ผู้เป็นพ่อค่อนข้างจะอนุรักษ์นิยมกว่าในเรื่องของความปลอดภัย และการติดตั้งอุปกรณ์
นิกกล่าวว่า “พ่อผมก็มีไอเดียของเขา ผมก็มีไอเดียของผม การที่ทำกันมาหลายชั่วอายุคน มันก็ไม่ได้หมายความว่าของใหม่จะช่วยให้งานง่ายกว่า หรือเร็วกว่าเดิมไม่ได้” เอเรนดิราภรรยาของนิก ก็เป็นคนรุ่นที่แปดของตระกูลนักแสดงกายกรรมเช่นกัน เธอกับลูกๆ ทั้งสามจะติดตามนิกในการออกทัวร์แสดงทั่วโลก
นิกกับแม่ของเขาคือเดไลลาห์ เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จในการแสดงเดินบนเส้นลวดที่ขึงระหว่างตึกสูงในเปอร์โตริโก สถานที่แห่งนี้ ในปี 1978 เป็นสถานที่ที่คาร์ล ทวดของนิก เคยทำพลาด และต้องตกลงมาเสียชีวิต
“มีคนถามผมอยู่เรื่อยว่า ทำไมผมจึงทำอย่างนี้ ทำไมผมต้องเสี่ยงชีวิต ตระกูลของผมทำมาเจ็ดชั่วอายุคนแล้ว ผมเกิดมาในสิ่งแวดล้อมนี้ มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้จักดี มันอยู่ในสายเลือดของผม เป็นตัวตนของผม”
ในสารคดี DANGER BY DESIGN ตอนแรก เราจะได้เห็นความพยายามของนิกที่จะทำลายสถิติโลกสองสถิติในบาฮามาส ด้วยการเดินบนเส้นลวดระหว่างตึกสูงสองอาคารในแอตแลนติส รีสอร์ต แต่ความเครียดความกดดันของการวางแผน และปฏิบัติการเดินท้ามฤตยูสองครั้งท่ามกลางเปลวแดดร้อนระอุมันหนักหนาสาหัสเกินไปสำหรับสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาลกันไป นิกต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าจะเดินหน้าพยายามสร้างสถิติต่อไป หรือไปเฝ้าเป็นกำลังใจให้กับคนที่ตัวเองรักและหวงใยดี
อย่าพลาด ติดตามชมกายกรรมบรรลือโลก สัมผัสกับความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และดราม่า เมื่อนิกและสมาชิกในครอบครัวร่วมกันตีแผ่ชีวิตที่ “เลือกแล้ว” ในสารคดีทั้งหกตอน
ตอนที่ 1 นิก วอลเลนดา พยายามจะทำลายสถิติโลกสองสถิติที่แอตแลนตา รีสอร์ต บนเกาะพาราไดซ์ มันเป็นการเดินบนลวดที่ยาวที่สุด และสูงที่สุดตั้งแต่เขาเคยเดินมา แดดของบาฮามาส ร้อนเกินกว่าสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัววอลเลนดาจะทนไหว และนิกต้องพบกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก
ตอนที่ 2 นิกกับภรรยาเดินทางไปซานตาครูซ เพื่อแสดงการขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผน การแสดงนี้จะมีการผูก รถมอเตอร์ไซค์ไว้กับกรงที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งสองคนจะขี่มอเตอร์ไซค์เหาะขึ้นไปกลางอากาศ และ ต้องพยายามหมุนรอบเส้นลวด 360 องศา ถ้าคนใดคนหนึ่งหล่น ก็หมายถึงหล่นทั้งคู่
ตอนที่ 3 นิกกับทีมงานต้องสู้กับสภาพอากาศที่หนาวจัด และเปียกแฉะของแอตแลนติกซิตี้ ขณะพยายามแสดงโชว์กงล้อมรณะกลางอากาศสูงจากพื้น 250 ฟุต โดยแขวนอุปกรณ์การแสดงไว้บนหลังคาโรงแรมทรอปิกานา งานนี้ แค่ลื่นจากแกนหมุนยักษ์พรวดเดียว นิกก็ไปเฝ้าท่านยมแล้ว
ตอนที่ 4 นิกเดินทางไปเปอร์โตริโก ที่ซึ่งทวดของเขาเสียชีวิตจากการตกจากลวดขึงสูง พ่อลูกเกิดมีปากเสียงกัน เมื่อเทอรี่พยายามจะขอร้องให้นิกเลิกล้มแผนการท้ามฤตยู ด้วยการเดินบนลวดขึงอย่างที่ทวดของเขาเคยทำแล้วพลาด ส่วนเดไลลาห์ แม่ของนิก อยากจะขอเดินบนลวดด้วยเช่นกัน
ตอนที่ 5 นิกโชว์เสี่ยงตาย ด้วยการจุดไฟเผาตัวเอง ก่อนที่จะรูดตัวลงตามแนวซิป โดยที่เขาจะต้องตกจากระดับความสูง 30 ฟุต ลงไปในสระน้ำที่ลึก 3 ฟุต
ตอนที่ 6 นิกกับทีมงานเดินทางไปยังเมืองแบรนสัน รัฐมิสซูรี เพื่อแสดงโชว์เสี่ยงตาย ด้วยการห้อยตัวอยู่กับเฮลิคอปเตอร์ที่บินสูงอยู่กลางอากาศ โดยใช้เพียงปากเท่านั้น เป็นกายกรรมกลางเวหาที่นิกเพิ่งลองเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องลุ้นระทึกไปด้วย
DANGER BY DESIGN
ประวัติของนิก วอลเลนดา
นิก วอลเลนดา ทายาทรุ่นที่เจ็ดของ “วอลเลนดา” ตระกูลนักกายกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับตำนาน โดยวันที่ 15 ตุลาคม 2008 เขาเดินไต่ลวดที่ขึงไว้สูงถึง 150 ฟุต หรือเท่ากับตึก 20 ชั้นของอาคารพรูเดนเชียล ในเมือง เนวาร์ค รัฐนิวเจอร์ซีย์ เขาได้เดินไต่ลวดโดยไม่มีตาข่ายรองรับ หลังจากเดินข้ามแล้ว เขาก็ขี่จักรยานไต่ลวดกลับ ซึ่งเป็นการสร้างสถิติโลกขึ้นใหม่ที่หนังสือกินเนสได้บันทึกไว้ว่าเป็นการขี่จักรยานไต่ลวดที่ยาวที่สุดและสูงที่สุดในโลก
ความแม่นยำ ทักษะด้านกีฬา และความกล้าบ้าบิ่นที่อยู่ในสายเลือดของนิก ได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น นับย้อนไปถึงต้นตระกูลของเขาในปี 1780 ที่คาเฟ่ โอลด์ โบฮีเมีย ในอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี ต้นตระกูล วอลเลนดาเดินสายนำคณะละครสัตว์ออกแสดงไปทั่ว ในคณะมีทั้งนักกายกรรม จักเลอร์ ตัวตลก นักเหิรเวหา และผู้ฝึกสัตว์ และมีการทีมห้อยโหนโยนรับกลางอากาศเพิ่มเข้ามาในอีกสองชั่วอายุคนต่อมา
คาร์ล วอลเลนดา เกิดในปี 1905 ในเมืองมักเดบูร์ก ประเทศเยอรมนี ตัดสินใจนำครอบครัวเดินสายแสดงทั่วโลก โดยมีทีเด็ดอยู่ที่การต่อตัวเป็นปิรามิด 3 ชั้น 4 คน ในทศวรรษ 1920 พวกเขาได้ข้ามน้ำข้ามทะเลจากเยอรมนีสู่สหรัฐอเมริกา ตามคำเชิญของคณะริงกริง บราเธออร์ส และบาร์นัม แอนด์ เบลีย์ การแสดงเดินไต่ลวดขึงที่ริเริ่มโดยคาร์ลทำให้คณะละครสัตว์ของตระกูลวอลเลนดามีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้
ปี 1947 คาร์ลได้สร้างสรรค์โชว์ที่ถือเป็นความสำเร็จขั้นสุดยอด นั่นคือการต่อตัวเก้าอี้ปิรามิด 7 คน จากลวดที่ขึงสูงจากพื้น 35 ฟุต ผู้ชาย 4 คนยืนบนลวดเป็นฐาน สองคนกลางตัวเชื่อมกันด้วยอุปกรณ์ยึดไหล่ ผู้ชายสองคนยืนเป็นชั้นที่สอง ปิดท้ายด้วยผู้หญิงนั่งแล้วก็ยืนบนเก้าอี้เป็นยอดปิรามิด ตระกูลวอลเลนดาประสบความสำเร็จในการแสดงปิรามิดมาหลายทศวรรษ จนกระทั่งถึงวันที่ 30 มกราคม 1962 วันนั้น พวกเขาออกแสดงที่สเตทแฟร์โคลีเซียม เมืองดีทรอยต์ คนอยู่หน้าตกจากลวด ทำให้ปิรามิดถล่ม นักแสดงชาย 3 คนตกลงพื้นถึงแก่ความตาย
หลังเหตุโศกนาฏกรรมในดีทรอยต์ คาร์ลยังคงเปิดแสดง ”เดินเวหา” อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเดินระหว่างอาคารสูง เดินข้ามสนามกีฬา เช่น สนามบูช เวทเทอแรนส์ เจเอฟเค 3 ริเวอร์สเตเดียม และแอสโทรโดม เป็นต้น การเดินที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุด ได้แก่ การข้ามหุบเขาทัลลูลาห์ ฟอลส์ กอร์จ ในจอร์เจีย ระยะทาง 1,200 ฟุต ท่ามกลางสายตาคนดู 30,000 คน ในครั้งนั้น เฒ่าวัย 65 ปีได้สร้างตำนานด้วยการใช้หัวยืนแทนเท้า 2 ครั้ง ณ ระดับความสูงกว่า 700 ฟุต การเดินโปรโมตโชว์ที่เมืองซานโฮเซ เปอร์โตริโกเมื่อเดือนมีนาคม 1978 ถือเป็นโชว์ครั้งสุดท้ายของคาร์ล เขาพลาดตกจากลวดลงไปเสียชีวิตขณะอายุได้ 73 ปี อายุ ความสามารถ หรือกระแสลมไม่ใช่สาเหตุของโศกนาฏกรรมดังกล่าว หากแต่เป็นเพราะความบกพร่องในการติดตั้งอุปกรณ์ต่างหาก
มรดกของตระกูลวอลเลนดา ได้สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นคนรุ่นที่หก และเจ็ด โดยมีนิกกับลูก หลานและเหลนของคาร์ลเ ป็นกำลังสำคัญในการสานต่อตำนานอันยิ่งใหญ่นี้
นิกเกิดในเมืองซาราโซตา รัฐฟลอริดา เขาได้ร่วมแสดงโชว์กับครอบครัวตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยแต่งเป็นตัวตลก เขาเดินไต่ลวดครั้งแรกตอนอายุ 4 ขวบ และแสดงผาดโผนบนลวดแบบมืออาชีพเต็มตัวตอนอายุ 13 นิกเคยคิดจะประกอบอาชีพเป็นหมอ ตามอย่างทวดเจวาย เฮนเดอร์สันที่เป็นคนแรกของตระกูลที่เลือกเป็นสัตวแพทย์ทำงานให้คณะละครสัตว์ริงกลิง บราเธออร์สในยุคกลางศตวรรษที่ 20 แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจเป็นนักแสดงโชว์ตอนอายุ 19 ปี
“ตอนนั้นเป็นปี 1998 สมาชิกในครอบครังของผม รวมทั้งคุณพ่อเทอรี่ ทรอฟเฟอร์ และคุณแม่เดไลลาห์ วอลเลนดา ได้รือฟื้นการแสดงโชว์ต่อตัวปิรามิด 7 คนบนลวดขึงสูงในดีทรอยต์ มิชิแกน หลังจากที่เลิกแสดงไปนานหลายสิบปี ตอนนั้นแหละที่ผมรู้ว่า ผมเกิดมาเพื่อจะทำสิ่งนี้”
ปีต่อมา นิกแต่งงานกับเอเรนดิรา โดยการคุกเข่าบนลวดที่แขวนสูงจากพื้น 30 ฟุต ระหว่างการแสดงในเมืองมอนทรีอัล ประเทศแคนาดา ต่อหน้าคนดูกว่า 18,000 คน ทั้งคู่คือคู่รักนักกายกรรมขั้นเทพ เอเรนดิราเป็นนักแสดงละครสัตว์รุ่นที่แปด ถ้านับจากตระกูลข้างแม่ของเธอเป็นเจ้าของคณะละครสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดคณะหนึ่งในออสเตรเลีย ส่วนตระกูลข้างพ่อซึ่งมาจากเม็กซิโก เธอเป็นรุ่นที่เจ็ดของครอบครัวนักแสดง
ละครสัตว์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตระกูลแรกที่ประสบความสำเร็จในการตีลังกากลางอากาศสี่รอบในการแสดงกายกรรมห้อยโหนโยนรับ
นิกร่วมกับพ่อแม่ และพี่สาว ออกเดินสายแสดงกับสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลวอลเลนดามาตลอดระยะเวลาหลายปี และในปี 2001 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงที่เป็นครั้งแรกของวงการ ในการเปิดแสดงที่สวนสาธารณะคูราชิกิ ทิโวลีพาร์ค พวกเขาสร้างสถิติโลกลงหนังสือกินเนสได้สำเร็จ จากการต่อตัว ปิรามิด 8 คนบนลวดสูง ซึ่งเป็นโชว์ที่ต้องฝึกหนักกว่าห้าเดือน “มันเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในอาชีพของเรา ครอบครัวของเรา” เขาเล่า โดยบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากทวดคาร์ล
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นิกได้พัฒนางานโชว์พื้นๆ สำหรับจัดแสดงในสวนสนุก และสถานที่คล้ายๆ กันทั่วโลก โดยส่วนมากจะมีตัวเขาและเอเรนดิราเป็นตัวชูโรง แต่ก็มีโชว์เสี่ยงตายในน้ำ ดิ่งเวหาและโชว์ผาดโผนแรงๆอื่นๆ เป็นของแถมด้วยเช่นกัน พวกเขาทำงานด้วยกัน รวมทั้งร่วมงานกับครอบครัวของแต่ละฝ่ายในโชว์ประเภทต่างๆ เช่น เสาโยก ผาดโผนบนลวดแขวนสูง กงล้อมรณะ มอเตอร์ไซค์เหินเวหา เดินไต่ลวด การห้อยโหนโยนรับแบบต่างๆ มอเตอร์ไซค์ในกรง และมีอยู่ครั้งหนี่งที่นิกโชว์ dog act “เราโชว์ทุกอย่างที่มีในสารบบการแสดงของคณะละครสัตว์ ทุกทักษะผาดโผนเสี่ยงตาย” นิกยืนยัน “เรามีเส้นสายลวด สลิงสำหรับอุปกรณ์ทุกประเภทในโกดังเป็นหลักฐานยืนยัน”
ในการแสดง Bellobration กับคณะริงกลิง บราเธออร์ส นิกแสดงร่วมกับเบลโล น็อค ซึ่งเป็นเพื่อนตลอดกาล โชว์ที่พวกเขาแสดงร่วมกันคือ Wheel of Steel เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือกงล้อสองด้าน เขากับเบลโลเริ่มต้นจากด้านหนึ่ง ก่อนที่จะไปจบลงอีกด้านหนึ่ง นอกจากนั้น พวกเขายังวิ่งไล่กันทั้งในและนอกกงล้อ ตอนสุดท้าย ล้อจะแยกออกจากกันไปคนละทิศ แต่ยังเคียงคู่กันอยู่ สำหรับโชว์ใหม่นี้ นิกเล่าว่า “การคิดไอเดียใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนเป็นอะไรที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คุณมาจากตระกูลที่มีขึ้นชื่อในเรื่องการบุกเบิกโชว์ใหม่ๆ ผมรู้สึกว่าต้องสนองตอบต่อความคาดหวังของผู้คนอย่างมาก”
นิกกับเอเรนดิรามีลูกด้วยกัน 3 คน คือ ยานนี อมาดาโอส และเอวิตา ซึ่งสืบทอดดีเอ็นเอจากนักแสดงโชว์ละครสัตว์ 25 รุ่น ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของครอบครัวนี้ก็คือ นิกเดินไต่ลวดข้ามแกรนด์แคนยอน เพื่อรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของทวดคาร์ล และตอนนี้ นิกก็ได้รับใบอนุญาตแล้ว
ที่มา: nikwallenda.com