กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สนพ.
กระทรวงพลังงาน จัดสัมมนาหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจร่วมใจประหยัดพลังงาน มอบหมายสนพ.เป็นองค์กรกลางเก็บข้อมูลใช้พลังงานหน่วยงานรัฐ และจะปรับเปลี่ยนปีฐานข้อมูล เปรียบเทียบการใช้พลังงาน เพื่อความเสมอภาคแก่หน่วยงานตั้งใหม่ ด้านสผ.รับโล่รางวัลประหยัดไฟฟ้าสูงสุดปี 2546 โดยลดค่าไฟได้ 927,500 บาท/ปี ส่วนกรมประมงรับโล่รางวัลยกย่องผู้นำลดใช้น้ำมันมากสุด 65,774 ลิตร/ปี
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจร่วมใจประหยัดพลังงาน” ว่า นโยบายเรื่องการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ ที่มีความสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ให้หันมาร่วมมือ ร่วมใจลดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจจะต้องเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นตัวอย่างให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนเกิดความตระหนักในการประหยัดพลังงาน และใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ซึ่งส่งผลถึงการช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
“รัฐบาลได้ส่งสัญญาณให้รู้แล้วว่าการประหยัดพลังงานเป็นวาระแห่งชาติ ถึงเวลาแล้วที่ทุกหน่วยงานและทุกฝ่ายต้องช่วยกันประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ส่วนได้จะผลมากน้อยแค่ไหนไม่เป็นไร ขอเพียงให้ร่วมมือร่วมใจและทำกันอย่างเต็มที่ ” รมว.พน. กล่าว
รมว.พน. กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นหน่วยงานกลางดำเนินการรวบรวมและสรุปสถิติการใช้ไฟฟ้าหน่วยงานต่างๆ จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงการประสานงานกับกรมบัญชีกลางเพื่อขอใบเสร็จยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของแต่ละหน่วยงาน เพื่อเก็บเป็นข้อมูลเปรียบเทียบปริมาณการใช้พลังงานส่วนอาคารสำนักงานในแต่ละปี และเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับวางแผนการใช้พลังงานต่อไป
โดยในปี 2547 กระทรวงพลังงานได้กำหนดแนวทางการประหยัดพลังงานในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น โดยจะปรับเปลี่ยนปีฐานข้อมูลในการเปรียบเทียบใหม่ ซึ่งจากเดิมที่ใช้ฐานข้อมูลเปรียบเทียบปี 2544 เปลี่ยนมาใช้ฐานข้อมูลพลังงานปีงบประมาณ 2546 เพื่อเกิดความเสมอภาคแก่หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานให้จัดทำแผนการประหยัดพลังงานและจัดส่งรายงานการใช้พลังงาน รวมถึงชี้แจงเหตุผลกรณีที่ไม่สามารถลดการใช้พลังงานได้มายัง สนพ.เป็นรายไตรมาส
ด้าน นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลการใช้พลังงานในปีงบประมาณ 2546 มีหน่วยงานราชการส่งข้อมูลการใช้ไฟฟ้า 186 หน่วยงาน และการใช้น้ำมัน 175 หน่วยงาน โดย 3 อันดับแรกของหน่วยงานที่สามารถลดการใช้ไฟฟ้า ได้สูงสุด คือ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมควบคุมโรค และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ส่วน 3 อันดับแรกของหน่วยงานที่สามารถประหยัดการใช้น้ำมัน คือ กรมประมง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และสำนักปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบโล่รางวัลประหยัดพลังงานดีเยี่ยมประจำปี 2546 เพื่อเชิดชูเกียรติในการลดใช้พลังงานให้กับหน่วยงานดังกล่าว
รวมทั้ง ได้มอบโล่รางวัลเพื่อขอบคุณภาคเอกชนที่ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐลดใช้พลังงาน อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ที่ให้ความร่วมมือปิดสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันหลังเที่ยงคืน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย บริษัท คอสโมออยล์ จำกัด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็ม.พี.ปิโตรเลียม จำกัด บริษัท สยามสหบริการ จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน และสมาคมผู้ผลิตป้ายโฆษณา ซึ่งให้ความร่วมมือปิดไฟส่องป้ายโฆษณาหลัง 22.00 น.ด้วย
สำหรับ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ลดใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 29.51% เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2544) จาก 1,257,000 หน่วย ลดลงเหลือ 886,000 หน่วย หรือประหยัดไฟฟ้าในปี 2546 ได้ 371,000 หน่วย เป็นเงิน 927,500 บาท โดยมีวิธีการประหยัด ไฟฟ้าในหน่วยงาน คือ ไม่เปิดไฟทิ้งไว้เกิน 10 นาที หากไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไม่ติดสวิตซ์ควบคุมหลอดแสงสว่างหลายจุด ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศนอกเวลา ราชการ ปิดสวิตซ์คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ผล เมื่อไม่ได้ใช้งานติดต่อกัน 1 ชั่วโมง ใช้ลิฟท์ขึ้นลง ด้วยกัน เพราะกด 1 ครั้งเสียค่าไฟ 7 บาท เป็นต้น
ส่วน กรมประมง สามารถลดใช้น้ำมันมากที่สุดถึง 19.82% เมื่อเทียบกับปีฐาน จาก 331,878 ลิตร ลดลงเหลือ 266,104 ลิตร หรือประหยัดน้ำมันในปี 2546 ได้ 65,774 ลิตร โดยผู้บริหารระดับสูงปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างประหยัด และกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเบนซิน 91 แทน เบนซิน 95 ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ วางแผนการใช้รถร่วมกันกรณีใช้เส้นทางเดียวกัน กำหนดเวลาส่งเอกสาร เพื่อรวบรวมเอกสารจัดส่งพร้อมกัน ใช้เครื่องโทรสารส่งเอกสารแทนการเดินทางไปส่งโดยตรง
“หน่วยงานที่สามารถลดการใช้พลังงานสูงสุดในปีงบประมาณ 2546 ควรได้รับการยกย่องให้เป็นตัวอย่าง และเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงานแก่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ได้ศึกษาแนวทาง วิธีการประหยัดพลังงาน เพื่อนำไปปฏิบัติในหน่วยงานของตนเองให้การประหยัดพลังงานมีประสิทธิผล ยิ่งขึ้น และการสัมมนาหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจร่วมใจประหยัดพลังงาน ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 700 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในระดับกรม 231 หน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด 75 จังหวัด นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ร่วมใจกัน เพื่อนำพาให้หน่วยงาน ราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงานสำเร็จผล ” ผอ.สนพ. กล่าว--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--