กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--กระทรวงพาณิชย์
นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการค้าต่างประเทศ แจ้งว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ ว่า กระทรวงการค้าของ สปป.ลาว ได้ออกประกาศที่ 0408/กค.ตปท. ลงวันที่ 30 เมษายน 2547 มอบอำนาจให้แผนกการค้าแขวงเป็นผู้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form D และ AISP) ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2547 เป็นต้นไป
การออกประกาศดังกล่าวจะมีผลให้การค้าและการลงทุนไทย-ลาวตามแขวงต่างๆ จำนวน 14 แขวง เกิดความคล่องตัว ไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form D และ AISP) ซึ่งเดิมจะออกได้เฉพาะที่นครหลวงเวียงจันทน์เท่านั้น ทั้งเป็นการลดเวลาดำเนินการและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ผู้ประกอบการด้วย
แขวงแต่ละแขวงมีอำนาจในการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่มีรายการแตกต่างกันตามลักษณะสินค้าที่ผลิตในแขวงนั้น เช่น แขวงจำปาศักดิ์ มีอำนาจออกใบรับรองฯ สินค้าถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ แพร์ ควินซ์ กาแฟ กระวาน ขิง ละหุ่ง ชัน แขวงสะหวันนะเขต มีอำนาจออกใบรับรองฯ ก็สามารถดำเนินการได้ โดยขอความเห็นชอบจากกรมการค้าต่างประเทศ (กระทรวงการค้าของลาว) เพื่อออกเป็นประกาศต่อไป
ในปี 2546 ที่ผ่านมา การค้าชายแดนไทย-ลาว มีมูลค่า 21,912 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 17,453 ล้านบาท นำเข้า 4,459 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า 12,993 ล้านบาท สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2547 นี้ การค้าชายแดนไทย-ลาว มีมูลค่า 8,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1% โดยไทยยังเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 5,639 ล้านบาท
อนึ่ง นอกจากการกระจายอำนาจการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าไปยังแขวงต่างๆ แล้ว ลาวยังมีท่าทีในการปรับปรุงระบบกฎหมายให้เอื้อประโยชน์ทางการค้าการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนในลักษณะ Contract Farmning โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจที่ประเทศไทยต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และการได้ประโยชน์จาก GSP ที่ลาวได้รับจากประเทศพัฒนาแล้วในการส่งสินค้าไปจำหน่าย เช่น ตลาดสหภาพยุโรป ถือว่าเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (กภ)--