กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--ยิปซีกรุ๊ป
นายคธาวุฒิ เกนุ้ย กรรมการผู้จัดการ บจก.ยิปซีกรุ๊ป เปิดเผยว่า “ด้วยภาวะของการสนับสนุนและส่งเสริมการอ่านหนังสือในประเทศที่มีเพิ่มขึ้นในปัจจุบันนี้ รวมถึงกระแส “กรุงเทพฯเมืองหนังสือโลก” ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ทำให้ตลาดหนังสือเด็กมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากปกหนังสือเด็กออกใหม่ในตลาดที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นขณะนี้ บริษัท ยิปซีกรุ๊ป ได้ทำตลาดหนังสือเด็กมาระยะหนึ่ง ภายใต้ชื่อ สำนักพิมพ์คุณป้าใจดี เนื่องจากเห็นช่องทางตลาดที่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่มีส่วนผลักดันให้ตลาดหนังสือเด็กเติบโตอย่างรวดเร็วมาจาก พ่อแม่ที่เห็นประโยชน์ของการอ่านและการวางพื้นฐานด้านการพัฒนาความคิด ทั้งอารมณ์และปัญญา ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่สนับสนุนด้านการอ่านหนังสือ อีกทั้งหนังสือยังเป็นทางเลือกในการใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์สำหรับเยาวชนอีกด้วย , ความแตกต่างนี้เห็นได้จากแนวโน้มในการใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อหนังสือเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญปัจจุบันการซื้อหนังสือให้กับเด็กกลายเป็นเทรนด์ที่พ่อแม่รุ่นใหม่ให้ความใส่ใจมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องตื่นตัวที่จะพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ พฤติกรรมของครูและบรรณารักษ์ก็มีส่วนกระตุ้นให้เด็กรักการอ่านมากขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับกลุ่มหนังสือเด็กช่วงก่อนปฐมวัยนั้น (2 — 3 ปี) เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ปกครองต้องเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ให้กับเด็กก่อนโดยผ่านการอ่าน ย้ำซึ่งจะมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กรวมทั้งเสริมสร้างจินตนาการ รองลงมา คือ หนังสือเด็กเล็กที่เสริมความรู้จากแบบเรียน และสุดท้ายคือกลุ่มหนังสือสำหรับเยาวชน อายุ 12 — 13 ปี เช่น หนังสือแปล นวนิยาย การ์ตูนต่างๆ ซึ่งเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ สำหรับหนังสือที่ตรงกับความต้องการของเด็กนั้นต้องมีเนื้อหาสนุก ชวนอ่านแต่ขณะเดียวกันต้องแฝงด้วยสาระความรู้ มีความแปลกใหม่ ตัวหนังสืออ่านง่ายภาพประกอบสวย และราคาไม่แพง”
นายคธาวุฒิ กล่าวต่อไปว่า “การทำตลาดของสำนักพิมพ์คุณป้าใจดี ที่เน้นเจาะกลุ่มเด็กและเยาวชนนั้น มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะความรู้ควบคู่กับการส่งเสริมการอ่านไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น โรงเรียน , ศูนย์หนังสือ , ห้องสมุด ฯลฯ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถตัดสินใจซื้อหนังสือได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หนังสืออาจไม่ใช่ตัวเลือกอันดับ 1 ที่ผู้ปกครองจะซื้อให้บุตรหลาน เราจึงต้องปรับตัวในเรื่องราคาด้วยเช่นกัน ตลาดหนังสือเด็กยังมีช่องทางโตอีกมากเพียงแต่เราต้องก้าวให้ทันเทรนด์ใหม่ๆ ของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ซื้อ แต่สิ่งที่สำนักพิมพ์ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือเรื่องคุณภาพการผลิต เนื้อหา และภาพประกอบ ที่ไม่ส่อความรุนแรง แต่ต้องเสริมสร้างทักษะและจินตนาการของเด็กในทุกๆ ด้าน มั่นใจว่าจากการทำตลาดเชิงรุกด้วยการใช้กิจกรรมนำ ตั้งเป้าว่าในปีนี้รายได้จากกลุ่มหนังสือเด็กและเยาวชนจะโตจากปีก่อน 10%
ในงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 10 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 — 15 ก.ค. 2555 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นั้น ยิปซีกรุ๊ปเตรียมจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษเพื่อเอาใจลูกค้าไว้อย่างสุดคุ่ม ภายใต้ภายใต้ชื่อ โปรโมรชั่น “จูงมือแม่มาซื้อหนังสือ” โดยมีกติกาง่ายๆ ถ้าแม่พาลูกมาซื้อหนังสือ สำนักพิมพ์ของเราจะลดราคาเพิ่มจากที่ลดลงอีก 10% บูธที่ K04 โซน C2 เพลนารี 1
นายคธาวุฒิ แสดงความเห็นถึงตลาดอีบุ๊คส์กับกลุ่มหนังสือเด็กว่า “เป็นสิ่งเสริมสร้างความสุขและจินตนาการให้กับลูก เป็นองค์ประกอบใหม่ที่พ่อแม่รุ่นใหม่จะมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกับลูกได้มากยิ่งขึ้น เด็กสามารถสร้างจินตนาการได้อย่างหลากหลายเพราะหนังสือมาอยู่ในรูป Interactive แล้ว ในขณะได้เตรียมแผนพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับตลาดอีบุ๊คส์ไว้พร้อมแล้ว โดยอาจเริ่มจากกลุ่มหนังสือเด็กและเยาวชนก่อนเพราะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้มากจะเป็นส่วนเติมเต็มความสุขและจินตนาการให้กับลูกได้ สิ่งสำคัญคือต้องช่วยการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้น เริ่มต้นจากที่บ้าน พ่อแม่ต้องปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงหนังสือสำหรับเด็กชนบทและเด็กด้อยโอกาส ผมเชื่อว่าเป้าหมาย ที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ตั้งไว้ว่าให้คนไทยอ่านหนังสือเพิ่ม 4 เท่า ใน 2 ปี หรือเฉลี่ยเท่ากับ 20 เล่ม ต่อปีคงไม่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอน”