กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ททท.
นายทรงศักดิ์ ทองศรี ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เผยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จากประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และประเทศฝรั่งเศส ร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือโดยการพายเรือคยัค จำนวน 8 ลำ เพื่อร่วมกันสร้างสถิติการนำร่องที่ยาวที่สุดของลุ่มแม่น้ำโขงผ่าน 6 ประเทศ (Mekong First Descent Project) และนำความงดงามของแผ่นดินที่พบเห็นนำไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่การอนุรักษ์ธรรมชาติ วัฒนธรรม และมรดกทางประวัติศาสตร์ของลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีสื่อมวลชนต่างประเทศหลายแขนงร่วมติดตามบันทึกภาพและข้อมูลเผยแพร่อย่างกว้างขวาง เช่น สารคดีโทรทัศน์ ชุด The Discovery , Lonely Planet NBC Sports, Paddler Productions เป็นต้น โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายนมาแล้ว เส้นทางการพายเรือคยัคเริ่มจากภาคเหนือของมณฑล ยูนาน ประเทศจีน ติดต่อกับประเทศธิเบต ซึ่งเป็นจุดกำหนดแม่น้ำโขง ผ่านประเทศสหภาพพม่า ประเทศไทย และลาวที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ผ่านหลวงพระบาง นครเวียงจันทน์ ผ่านประเทศกัมพูชา และไปสิ้นสุดจุดหมายปลายทางที่ทะเลจีนใต้ ประเทศสาธารณรัฐเวียดนาม สำหรับช่วงการเดินทางในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 29 สิงหาคม 2547 ตามเส้นทางแม่น้ำโขงที่คดเคี้ยวผ่านเมืองริมโขงที่จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี บางช่วงพักมีการไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และเมืองท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น ปางช้างแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (เชียงใหม่) ดอยแม่สลอง (เชียงราย) สะพานมิตรภาพไทย-ลาว พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง (อุบลราชธานี) โบสถ์คริสต์คาทอลิกหนองแสง หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก (นครพนม) นาหว้า พระตำหนักภูพาน พระธาตุเชิงชุม (สกลนครา) ปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำ (บุรีรัมย์) การพายเรือคยัคครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การล่องแม่น้ำอย่างต่อเนื่องตามเส้นทางธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ที่สุดและประโยชน์ที่ประเทศลุ่มน้ำโขงทั้ง 6 ประเทศจะได้รับก็คือการประชาสัมพันธ์ทางด้านท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของชุมชนสองฝั่งโขงได้ปรากฎสู่สายตาโลกอย่างแพร่หลาย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (พห/นห)--