แอร์บัสนำเสนอ เครื่องบิน เอ330 พร้อมประสิทธิภาพด้านการบินพิสัยไกลและพิกัดบรรทุกที่มากยิ่งขึ้น

ข่าวท่องเที่ยว Monday July 16, 2012 14:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์ เพิ่มขีดความสามารถในการรับน้ำหนักระหว่างบินขึ้นเป็น 240 ตัน เพื่อครอบคลุมความต้องการของตลาดการบิน แอร์บัส บริษัทผลิตเครื่องบินชั้นนำตัดสินใจต่อยอดพัฒนาสมรรถนะเครื่องบินรุ่นยอดนิยม เอ330 โดยเพิ่มขีดความสามารถในการรับน้ำหนักระหว่างบินขึ้นเป็น 240 ตัน ซึ่งแอร์บัสจะนำไปใช้ครั้งแรกกับเครื่องบิน เอ330-300 ก่อนปรับใช้กับเครื่องบิน เอ330-200 และเอ330-200เอฟ เป็นลำดับถัดไป การพัฒนาสมรรถนะการทำงานของเครื่องบิน เอ330 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้: เครื่องบิน เอ330-300 สามารถบรรทุกน้ำหนักระหว่างบินขึ้นได้ 240 ตัน มีพิสัยการบินเพิ่มอีก 400 ไมล์ทะเล ทำให้บินได้ไกลถึง 5,950 ไมล์ทะเล หรือ 11,020 กิโลเมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 300 คนพร้อมพิกัดบรรทุกที่เพิ่มขึ้นเกือบ 5 ตัน (เครื่องบินปัจจุบันสามารถบรรทุกได้ 235 ตัน) ขณะที่เครื่องบิน เอ330-200 สามารถบรรทุกน้ำหนักระหว่างบินขึ้นได้ 240 ตัน มีพิสัยการบินเพิ่มอีก 270 ไมล์ทะเล ทำให้บินได้ไกลถึง 7,050 ไมล์ทะเล หรือ 13,060 กิโลเมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 246 คนพร้อมพิกัดบรรทุกที่เพิ่มขึ้น 2.5 ตัน (เครื่องบินปัจจุบันสามารถบรรทุกได้ 238 ตัน) ขอบคุณเทคโนโลยีทางอากาศพลศาสตร์และศักยภาพของเครื่องยนต์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานให้แก่เครื่องบินทั้งสองรุ่น อย่างไรก็ตาม เอ330-300 นี้มีแผนเข้าให้บริการช่วงกลางปี พ.ศ.2558 การบรรทุกน้ำหนักระหว่างบินขึ้นได้ 240 ตัน ถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้เครื่องบินตระกูล เอ330 สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดการบินได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เอ330-300 ทำให้สายการบินสามารถเปิดเส้นทางบินสู่จุดหมายปลายทางใหม่ อาทิ ลอนดอน-โตเกียว แฟรงเฟิร์ต-เคปทาวน์ ปักกิ่ง-เมลเบิร์น ปักกิ่ง-ซานฟรานซิสโก กัวลาลัมเปอร์-ปารีสและลอสแอนเจลิส-ดับลิน นอกจากนั้นเมื่อเทียบกับ เอ330-300 รุ่นแรก (พ.ศ.2535) เอ330-300 รูปโฉมใหม่สามารถบินได้ไกลกว่า 2,000 ไมล์ทะเลหรือ 3,700 กิโลเมตร โดยปัจจุบัน เอ330-300 ครอบคลุมตลาดการบินฮีทโธรว์ถึงร้อยละ 90 หรือกล่าวคือความครอบคลุมตลาดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51 จากร้อยละ 39 มร. จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัส กล่าว “ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเครื่องบิน เอ330 มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เรายินดีที่จะนำเหล่าสายการบินสัมผัสกับประโยชน์ที่มาพร้อมความเชื่อถือของ เอ330 ในตลาดการบินที่กว้างและครอบคลุมขึ้น นอกจากนั้น เอ330 ยังครองความนิยมสูงสุดในบรรดาเครื่องบินประเภทเดียวกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต” เมื่อเทียบกับโบอิ้ง บี777-200อีอาร์ เครื่องบิน เอ330-300 โฉมใหม่สามารถทำการบินระยะ 1,800 ไมล์ทะเล โดยมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงน้อยกว่าถึงร้อยละ 15 นอกจากนั้น เอ330 ยังเป็นเครื่องบินทางเลือกที่ช่วยสร้างผลกำไรอันยั่งยืนให้แก่สายการบิน โดยมีต้นทุนในการดำเนินการต่ำกว่า บี787 ถึงร้อยละ 5 ต่อเที่ยว และหลักสำคัญของการบรรทุกน้ำหนักระหว่างบินขึ้นได้ 240 ตัน คือ การเพิ่มพิสัยการบิน ทำให้ เอ330-300 สามารถเติมเต็มช่องว่างให้เครือข่าย เอ330-200 ได้ แล้วยังเพิ่มศักยภาพให้แก่สายการบินในการใช้งาน เอ330-200 เพื่อเปิดเส้นทางบินใหม่ รวมไปถึงการใช้ เอ330-300 เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร เครื่องบินตระกูล เอ330 มีที่นั่งตั้งแต่ 250 ถึง 300 ที่ ประกอบไปด้วย เครื่องบินขนส่งสินค้า เครื่องบินส่วนตัว เครื่องบินขนส่งทางการทหารและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ปัจจุบัน เอ330 มียอดสั่งซื้อถึง 1,200 ลำ โดยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ให้บริการกับ 90 สายการบินทั่วโลก ตั้งแต่ เอ330-300 รุ่นแรกเข้าให้บริการ ก็มีเสียงตอบรับเชิงบวกจากลูกค้ามากมายเพราะค่าดำเนินการต่อที่นั่งที่ต่ำ ต้องขอบคุณการวิจัยและพัฒนาของแอร์บัส ที่ทำให้ เอ330 ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาเครื่องบินประเภทเดียวกันและได้รับความความเชื่อถือเกินร้อยละ 99 ทั้งนี้แอร์บัสเป็นบริษัทในเครือ EADS มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส บรรยายภาพ: มร. จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัสประกาศต่อยอดพัฒนาเครื่องบินรุ่นยอดนิยม เอ330 ณ งาน 2012 Farnborough International Airshow ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์/ ธัญธิดา ธรรมครูปัตย์ + 66 2 260 5820 ต่อ 115/ 120

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ