ททท.มองการณ์ไกลชูกิจกรรม “สีสันตะวันออก” นำร่องสร้างตลาดซื้อขายการท่องเที่ยว หนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อยกระจายงานแฟร์ ผู้ซื้อพบผู้ขายถึงถิ่นทุกภาค

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday July 14, 2004 14:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กันตนา กรุ๊ป
ททท. เดินหน้าใช้กิจกรรมท่องเที่ยว ปูพรมจัดงานแฟร์ ตามรายภาค สนองรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดของรัฐบาล กระจายเม็ดเงิน กระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางหมุนเวียนทั่วประเทศ หวังเป็นแรงส่งผลักดันสู่เป้าตัวเลขนักท่องเที่ยว 67 ล้านคน ในช่วงสิ้นปี ดึงสินค้าท่องเที่ยวไฮไลท์แต่ละภาคเป็นจุดขาย หนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อย เปิดตลาดผู้ซื้อพบผู้ขายโดยตรง ล่าสุด ชู “เทศกาลท่องเที่ยว สีสันตะวันออก” นำร่องเรียกน้ำย่อยก่อนลุยทุกภาค
นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า “เหตุผลที่ ททท. จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก ขึ้นมา ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้เดินทาง ท่องเที่ยวกันเอง และได้ซื้อสินค้าดีๆ ในราคาลดพิเศษ ที่ผู้ประกอบการนำมาขายภายในงาน ซึ่ง ททท. มุ่งหวังที่จะสร้างเป็นตลาดซื้อขายการท่องเที่ยวให้กระจายไปยังภาคต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยๆ เช่น โรงแรมขนาดเล็ก ร้านอาหาร สินค้าพื้นเมือง สินค้าโอทอป ฯลฯ สามารถนำสินค้ามาเสนอขายได้ เป็นการเปิดโอกาสและช่องทางการทำตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง จากที่ผ่านมา จะเห็นว่า แต่ละครั้งทาง ททท.จะจัดงานลักษณะคอนซูเมอร์แฟร์ เปิดขายให้นักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ อยู่บ่อยๆ หรือจัดในต่างประเทศ ซึ่งต่างจากครั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม ที่เราไปจัดที่ภาคตะวันออก ที่เมืองพัทยา และเดือนสิงหาคม ททท. ก็มีแผนจะไปจัดที่ภาคใต้ หมุนเวียนไปทุกภาคของไทย จากแผนงานตรงนี้ นอกจากจะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทั่วทุกภาคของไทยแล้ว ยังสามารถช่วยผู้ประกอบท่องเที่ยวรายย่อยได้อีกทางหนึ่ง ถือเป็นแนวทางต่อยอดของการทำธุรกิจ”
การจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออกครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น ไปพร้อมๆ กับการบูมท่องเที่ยวใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยมุ่ง ชูภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละจังหวัด ซึ่งนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่ ททท. ต้องการให้กระจายไปยังภาคตะวันออกแล้ว ยังหวังผลในระยะยาวจากรายได้ของประชาชนที่จะเพิ่มขึ้นจากธุรกิจ ท่องเที่ยว ธุรกิจเอสเอ็มอี และผลิตภัณฑ์โอทอป
จุดเด่นของงานครั้งนี้ นอกจากจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น งาน Pattaya International Beach Challenge ที่มุ่งสร้างภาพลักษณ์ให้พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวประเภทกีฬาชายหาด โดยจะมีการแข่งขันกีฬายอดฮิต 3 ประเภท ด้วยกัน คือ วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด และเอ็กซ์เกมส์ นอกจากนี้ยังมีการออกร้าน งานแสดงโชว์ของดี 4 จังหวัด ทั้งด้านวัฒนธรรม ศิลปะพื้นบ้าน สินค้าโอทอป รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ในส่วนของโรงแรม ที่พัก และทัวร์ต่างๆ ที่ร่วมกันมาจัดเป็นแพ็กเกจทัวร์ราคา
พิเศษ พร้อมทั้งนำกิจกรรมที่โดดเด่นของแต่ละจังหวัดมาปรับให้น่าสนใจเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยว เช่น กิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟ แรลลี่รถยนต์ ตกปลา เป็นต้น
สินค้าแม่เหล็กดูดนักท่องกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก
นายพิสิฐ เกตุผาสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี ได้กำหนดยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก โดยจังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติครบวงจร และเป็นเกตเวย์กระจายนักท่องเที่ยวไปยังภาคตะวันออก และในปี 2548 นี้ จังหวัดชลบุรียังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในอินดอร์ระดับนานาชาติ Asian Indoor Games ครั้งแรกของโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งจะเป็นการประกาศศักยภาพของจังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยาในการเป็นสนามแข่งขันกีฬาชายหาดและทางน้ำไปพร้อมกัน
นายอุทัย สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีจุดเด่นของสินค้าประเภทอาหารทะเล และสวนผลไม้ ซึ่งตามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจไทย รัฐบาลมุ่งให้จังหวัดระยองเป็นพื้นที่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมหลักแห่งใหม่ของประเทศ และขณะนี้จังหวัดกำลังจะปรับเปลี่ยนให้โรงงานอุตสาหกรรมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงสวนผลไม้
นายยุทธศาสตร์ วิยาภรณ์ พัฒนาการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จุดขายของจันทบุรี คือ ราชันแห่งอัญมณี ราชินีแห่งผลไม้ จันทบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับมอบหมายให้เป็นครัวของโลกตามนโยบายของรัฐบาล ความหมายคือ ความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหาร มีผลไม้ที่มีการบริโภคในปีหนึ่งๆ มีปริมาณกว่าร้อยละ 50 ของประชาชนที่ต้องการบริโภคทั้งประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ สินค้าประเภทAgro Tourism ทัวร์สวนผลไม้ จะเป็นจุดขายที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว รวมไปถึง Eco Adventure การท่องเที่ยวแบบผจญภัยด้วย
นายสุเวช ตันติวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราดเป็นจังหวัดชายแดนมีศักยภาพในฐานะเกตเวย์ ผนวกการท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผืนป่า หรือทะเล เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ล่าสุด รัฐบาลได้จัดตั้ง องค์กรขึ้นมาดูแล เรียกว่า องค์กรบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีเกาะช้างเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวให้สะอาด บริสุทธิ์ อย่างยั่งยืน เพื่อที่จะรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศต่อไปในระยะยาว และแนวโน้มการขยายตัวทางการท่องเที่ยวในอนาคต เกาะช้างและหมู่เกาะต่างๆ ในจังหวัดตราด ยังคงเป็นจุดขายหลักของนักท่องเที่ยวที่ นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด และเชื่อว่า งานเทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นเพิ่มขึ้น 10-15% สอดรับกับโครงการ เที่ยววันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ของททท. ได้เป็นอย่างดี
การจัดงาน เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก (Unseen Season of The East) ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2547 ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในแผนการสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด จัดท่องเที่ยวภูมิภาค ทั้ง 5 ภาคของไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ต่อเนื่องจากการจัดงานท่องเที่ยวภาคเหนือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยนำเอกลักษณ์ของภาคตะวันออกมาเป็นจุดขาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับแหล่งท่องเที่ยวของภาคตะวันออกในช่วงโลว์ซีซั่น เป็นการสนับสนุนภาครัฐตามนโยบายด้านการท่องเที่ยวในโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ไปได้ทุกเดือน” กระตุ้นให้เกิดการเดินทาง ท่องเที่ยวตลอดทั้งปีในภูมิภาคต่างๆ ของไทย
ภาคตะวันออกของไทยในห้วงเวลานี้ จึงเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมแก่การผลักดัน ยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวภาคตะวันออก 4 จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และเมื่อผสานเข้ากับกิจกรรมกีฬาท้าทาย หลากหลายรูปแบบที่นำมาสร้างสีสัน ยิ่งช่วยเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเร้าใจนักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง และมั่นใจว่าจะเป็นจุดขายใหม่ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
สุขกมล งามสม , อัญชลี เชื้อน้อย โทรศัพท์ 0 2274 4961-2, 0 2691 6302-4--จบ--
--อินโฟเควสท์ (พห)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ