กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--พม.
เมื่อวันที่ ๑๓ ก.ค.๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ศาลาร้อยปีปิยมหาราชานุสรณ์ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน พิธีกราบลาบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวเขา พร้อมมอบโอวาทแก่ชาวเขา จำนวน ๒๘๖ คน ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ที่เข้ากราบลาและขออโหสิกรรมตามประเพณีไทยที่พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดกันมา ก่อนเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ
นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า การจัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวเขา เกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (อดีตเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร) ที่ได้จัดส่งคณะพระธรรมจาริกขึ้นไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่บ้านชาวไทยภูเขาตามแนวชายแดนและถิ่นกันดารในภาคเหนือ ตั้งแต่ปี ๒๕๐๘ เป็นต้นมา และในปี ๒๕๑๔ มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ร่วมให้การอุปถัมภ์โครงการพระธรรมจาริกสืบมาจนถึงปัจจุบัน
นายเลิศปัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับ ในปีนี้ มีชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ จำนวน ๒๘๖ คน ขอเข้ารับการบรรพชา และอุปสมบท เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ สำหรับผู้ที่ขอเข้าบรรพชาอุปสมบทในครั้งนี้ เดินทางมาจาก ๑๐ จังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน , จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย , จังหวัดลำปาง , จังหวัดลำพูน , จังหวัดพะเยา , จังหวัดน่าน , จังหวัดตาก , จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดสุโขทัย โดยพิธีกราบลาบรรพชาอุปสมบทของชาวเขาที่จัดขึ้นวันนี้ เพื่อให้ชาวเขาทั้งสิ้นจำนวน ๒๘๖ คน ได้ทำพิธีขออโหสิกรรมตามประเพณีไทยที่พุทธศาสนิกชนได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา ก่อนที่จะเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ และเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาการต่างๆ ทั้งสายปริยัติธรรมและสายสามัญ ที่วัดศรีโสดา จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังเมื่อจบการศึกษาแล้ว หากต้องการ อยู่ในสมณเพศก็จะออกไปปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาร่วมกับพระธรรมจาริกตามหมู่บ้านชาวไทยภูเขา ส่วนผู้ที่ลาสิกขาบท ออกไป สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน , ประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ช่วยเหลือตนเองและครอบครัว อีกทั้งทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนของตนต่อไป
ทั้งนี้ “ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเป็นเจ้าภาพบวชชาวเขา รูปละ ๒,๕๐๐ บาท / บริจาค สร้างพระพุทธรูป องค์ละ ๙๙๙ บาท เพื่อมอบแก่ชาวเขาในถิ่นทุรกันดาร นำไปสักการะบูชา อันเป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนา / บริจาคเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าอาศรมพระธรรมจาริก อาศรมละ ๓๐,๐๐๐ บาท / บริจาคตั้งทุนมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนา แก่ชนถิ่นกันดาร ทุนละ ๑,๐๐๐ บาท และบริจาคร่วมสมทบเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ตามจิตศรัทธา” นายเลิศปัญญา กล่าว.