กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ ร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมโครงการ “ศรัทธาธรรมนำชีวิต” ประจำปี 2555 โดยจัดกิจกรรมบรรยายศาสนธรรมให้กับผู้ต้องขังมุสลิม เพื่อขัดเกลาจิตใจ และการปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับหลักธรรมคำสอนของศาสนา พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ประกอบศาสนกิจให้กับผู้ต้องขังมุสลิม และแนะนำสินเชื่อเพื่อส่งเสริมอาชีพสุจริตแก่ครอบครัวและญาติผู้ต้องขัง ณ เรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นนับเป็นครั้งที่ 3 ที่ได้ดำเนินการในเรือนจำ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายก่อเกียรติ วงศ์อารี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
“ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมโครงการ “ศรัทธาธรรมนำชีวิต” ประจำปี 2555 ณ เรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 17 ก.ค. 2555 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับกิจกรรมโครงการฯในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้ลงนามความตกลงร่วมกัน และเปิดตัวโครงการ “ศรัทธาธรรมนำชีวิต” ประจำปี 2555 ทีเรือนจำกลางจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 และจัดกิจกรรมโครงการฯ ในครั้งที่ 2 ที่เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวประสบผลสำเร็จด้วยดีตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
โครงการ “ศรัทธาธรรมนำชีวิต” เป็นหนึ่งใน “ยุทธศาสตร์การคืนคุณค่าสู่สังคม” ตามนโยบายของธนาคาร ผ่านกิจกรรม CSR ในด้านศาสนาและจริยธรรม โดยไอแบงก์ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมบรรยายศาสนธรรมแก่ผู้ต้องขังมุสลิม ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ต้องขังมีการพัฒนาด้านจิตใจ อารมณ์ การมีทัศนคติที่ดี และการปฏิบัติตนให้สอดคล้องตามหลักธรรมคำสอนของศาสนา
นอกจากการช่วยเหลือผู้ต้องขังแล้ว ไอแบงก์ยังได้มอบสินเชื่อเพื่อส่งเสริมอาชีพสุจริต แก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องขัง ในเรือนจำ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยไอแบงก์ได้มอบสินเชื่อดังกล่าวผ่านเรือนจำกลางจังหวัดยะลา เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี จำนวนเงิน 2,300,000 บาท และเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส จำนวน 2,475,000 บาท รวมวงเงินสินเชื่อกว่า 5,075,000 บาท เพื่อรองรับการสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังหลังจากได้รับการพ้นโทษต่อไป” นายก่อเกียรติ วงศ์อารี กล่าวทิ้งท้าย
นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “ในฐานะพ่อเมืองนราธิวาส ขอขอบคุณธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งประชาชนในจังหวัดนราธิวาสได้อยู่ดีมีสุข โดยเฉพาะผู้ต้องขังในเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาสได้รู้สึกสำนึก และตระหนักในความเอื้ออาทรของสังคมที่พร้อมจะยอบรับและให้อภัย แก่ผู้ต้องขังเมื่อได้รับการพ้นโทษและออกไปอยู่ร่วมกันกับผู้คนในสังคมต่อไป นอกจากนี้ทางธนาคารยังได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ และผลักดันการสร้างงานสร้างรายได้แก่ชุมชน ครอบครัวและญาติผู้ต้องขัง ในครั้งนี้ อีกด้วย”
นายกนก กรุณามิตร ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “นับเป็นโครงการต่อเนื่องที่ดี และควรให้การสนับสนุน ด้วยความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กร ซึ่งการจัดกิจกรรมโครงการ“ศรัทธาธรรมนำชีวิต”ในครั้งนี้ นับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการเข้าถึงวิธีการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เพื่อให้ความรู้ และพัฒนาจิตใจ ให้ผู้ต้องขังได้พร้อมที่จะออกไปดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคม และครอบครัวอย่างมีความสุข หลังจากได้รับการพ้นโทษแล้ว”
“ไอแบงก์ อุ่นใจเมื่อใช้ไอแบงก์”