สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2012 10:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,594 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,577 (22.30น.)เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.71 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,750 บาท กับ 23, 850 บาท และกลับมาปิดที่ 23,750 บาท กับ 23,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,641 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,476 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 9 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3 % แบบ 10 บาท ลดลง 3 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 1 % GFQ12 ปิดที่ 23,890 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,000 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 23,890บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,020 บาท SVQ12 ปิดที่ 865 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,589.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 27.31 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,266.10 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ระดับ 89.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 78.33 จุด ปิดที่ระดับ 12,805.54 จุด Ratio Gold / Silver 58.2 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, CNBC และ Infoquest ราคาทองคำเมื่อคืนนี้มีการแกว่งตัวอย่างมาก โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงทันทีที่นายเบน เบอร์นันเกเริ่มการทำ testifying จนมาถึงช่วงเวลาประมาณ 21.40 น. ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,572 เหรียญโดยประมาณ แต่ภายหลังก็มีการดีดตัวกลับมาปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1,589.5 เหรียญต่อออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 10% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วัน ในช่วงตอนต้นของการแถลงไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนว่า เฟดจะมีการใช้มาตรการ QE3 เมื่อไหร่หรือไม่อย่างไร ซึ่งลอนดอน เบส เทรดเดอร์ระบุว่า มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มี QE3 อย่างแน่นอน โดยเมื่อวันก่อนผู้คนส่วนใหญ่เข้าซื้อทองคำหลังจากตัวเลขยอดค้าปลีกออกมาอ่อนแอ และคิดว่าอาจเปลี่ยนใจนายเบอร์นันเกได้ ซึ่งคำแถลงการณ์ได้เขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่ชัดว่า ไม่มี QE3 จากการทำ Testimony เมื่อคืนของนายเบอร์นันเก ต่อรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน นายเบอร์นันเกได้กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะดำเนินมาตรการช่วยเหลือให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัว แต่ไม่ได้อ้างอิงโดยตรงถึงมาตรการ QE3 โดยคำกล่าวของนายเบอร์นันเกระบุว่า เฟดกำลังจับตาดูเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังมาก เพื่อตัดสินว่าการสูญเสียโมเมนตัมในช่วงที่ผ่านมานั้นยังคงอยู่หรือไม่ เศรษฐกิจมีความคืบหน้าในเรื่องอัตราการว่างงานน้อยลงไปหรือไม่ รวมไปถึงกำลังมองว่าสภาพตลาดแรงงานมีการพัฒนาน่าพึงพอใจหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในช่วง session การถามและตอบ นายเบอร์นันเกระบุว่า ความเสี่ยงต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจมีเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและยุโรป เขากล่าวย้ำซ้ำไปซ้ำมาว่า เฟดพร้อมและมีความต้องการที่จะดำเนินการเพิ่มเติมหากตลาดแรงงานสูญเสียการทรงตัว หรือหากมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้เขาให้ความมั่นใจครั้งใหม่โดยมีการบอกเป็นนัยว่า การผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมจะมาพร้อมกับตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งการบอกเป็นนัยๆ ดังกล่าวนี้ได้เปลี่ยนมุมมองความคิดให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางของตลาด นายเบอร์นันเก มีการแถลงอย่างเปิดเผยว่า เฟดไม่ได้มาเพื่อระบุตัวเลือกอะไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ แต่เขาได้กล่าวอ้างถึงมาตรการ QE ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และเฟดยังคงมีความสามารถที่จะดำเนินการ QE เพิ่มเติมหากสภาพเศรษฐกิจเสื่อมโทรมมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า ยังมีคำถามตามกฎเกณฑ์เกี่ยวกับผลข้างเคียงและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหากมีการใช้ QE รอบใหม่ ดังนั้น เครื่องมือทางการคลังที่ไม่เป็นมาตรฐานอาจถูกนำมาใช้อย่างจำกัด และเพียงในเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เมื่อกล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโดยทั่วไป นายเบอร์นันเกได้กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมประชุม FOMC ในเดือนมิถุนายน ได้บ่งชี้ว่า พวกเขามองเห็นระดับความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติเกี่ยวกับการคาดการณ์ของพวกเขาเอง และนั่นเป็นความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และสำหรับความตึงเครียดในยูโรโซนที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในประเทศกรีซและการสูญเสียในภาคธนาคารสเปน ซึ่งนายเบอร์นันเกระบุว่า สภาพเศรษฐกิจและตลาดการเงินต่างๆ ในยุโรปยังคงมีแรงกดดันอย่างมาก ด้วยการลุกลามของวิกฤตที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินไปทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ว่าสถานการณ์ในยุโรปจะเลวร้ายกว่าเดิมยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ ส่วนทางด้านสหรัฐ นายเบอร์นันเกระบุว่า นโยบายทางการคลังต่างๆ ของรัฐบาลยังอยู่บนความไม่ยั่งยืนถาวร และการพัฒนาในเรื่องแผนระยะกลางในการลดยอดขาดดุลควรเป็นแผนที่มีการปฏิบัติก่อนแผนใด โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจมาพร้อมกับการเพิ่มภาษีและการลดการใช้จ่ายซึ่งจะมีผลในช่วงต้นปีหน้าหากไม่มีการดำเนินการทางนิติบัญญัติเกิดขึ้น และทางสำนักงบประมาณสภาคองเกรสได้ประมาณการณ์ว่า หากการเพิ่มภาษีและลดการใช้จ่ายได้รับอนุญาตให้มีการใช้งาน แผนดังกล่าวจะมีการอ้างอิงอย่างกว้างๆ ถึงภาวะ fiscal cliff ซึ่งภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ไม่ลึกมากอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า และจะมีการสร้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 1.25 ล้านตำแหน่งในปี 2013 การประชุม FOMC ในวันที่ 31 กรกฎาคมอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเฟดที่จะดำเนินการใดๆ ก่อนที่จะถึงช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนมีการผสมปะปนกันไป โดยดัชนี NAHB housing market ประจำเดือนกรกฎาคมออกมาที่ระดับ 35 มากกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 30 ในขณะที่ Capacity utilization rate ประจำเดือนมิถุนายนออกมาอยู่ที่ระดับ 78.9% ต่ำกว่าระดับก่อนหน้าที่ 79.2% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาที่ระดับ 0.4% ตรงตามคาดการณ์ ซึ่งมากกว่าระดับก่อนหน้าที่ติดลบ 0.2% สำหรับข่าวตลาดทองคำแท่ง ปริมาณความต้องการทองคำแท่งในอินเดียยังคงเบาบาง ด้วยการอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดของค่าเงินรูปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ส่งผลให้ราคาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อ โดยช่วงฤดูเทศกาลของอินเดียตลอดช่วงเทศกาลแต่งงานจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม และดำเนินต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ข่าวอื่นๆ ทางฝั่งยุโรป นักวิเคราะห์ชาวเยอรมันและ sentiment ของนักลงทุนประจำเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปแล้ว เมื่อวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณใดใหม่ๆ ในเรื่องมาตรการ QE3 ข่าวราคาน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ที่ระดับ 89.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสถานการณ์ในอิหร่าน ล่าสุดนายรามิน เมห์มานปาราสต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวในเมื่อวานนี้ว่า ควรมีการปกป้องความมั่นคงของอ่าววเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อให้ทุกประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศในภูมิภาคดังกล่าว สามารถรักษาผลประโยชน์ของตนเองไว้ได้ นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าวย้ำว่า ความแข็งแกร่งทางทหารและศักยภาพด้านกลาโหมของอิหร่านจะมีการใช้เพื่อการยับยั้งป้องกันเท่านั้น แม้ว่าความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซจะมีความสำคัญอันดับแรกสำหรับอิหร่าน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% - CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0% - Industrial Production m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.4% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.4% - TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 25.6B คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 45.7B ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 55.0B ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.78M คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.77M - Housing Starts 0.71M คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.74M - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -4.7M คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.5M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำมีการแกว่งตัวอย่างมากท่ามกลางการซื้อขายในช่วงตลาดลอนดอนต่อด้วยตลาด COMEX ด้วยความคาดหวังว่าในเบื้องต้นไม่มีมาตรการ QE ใดๆ ในการให้สัมภาษณ์หรือการแถลงของนายเบอร์นันเกที่จะให้ speech ต่อ Senate สภาคองเกรส ทำให้ในช่วงตอนต้นของตลาดช่วงประมาณ 21.30 น ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,573 เหรียญบวกลบ แต่ในระหว่างการให้คำตอบต่อสภาคองเกรสหลายครั้งที่นายเบอร์นันเกพูดในลักษณะที่พร้อมที่จะมีมาตรการทางการเงินเพื่อที่จะปรับปรุงเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดโดยทั่วไปตีความว่าจะมี QE ราคาทองคำในขณะนั้นดีดกลับอย่างรวดเร็วและรุนแรงโดยดีดตัวขึ้นมาที่ระดับ 1,593 เหรียญ แต่แล้วก็มีแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคากลับมาปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1589.5 เหรียญ และราคาร่วงหลังตลาด COMEX ในตลาดอิเล็กทรอนิก ซึ่งนักลงทุนใน MTS Gold ก็จะสามารถติดตามการซื้อขายได้ในช่วงที่ราคาปรับร่วงลงมาช่วงตีหนึ่งและมีการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำ เช้านี้ราคาทองคำก็เปิดตลาดอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,584 เหรียญ โดยภาพรวมตลาดยังคงเล่นข่าวเรื่องการที่จะมี QE หรือไม่ และยังต้องรอถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเกในคืนนี้เป็นคืนที่ 2 ถ้าโดยภาพรวมไม่มี QE ก็ยังคิดว่าราคาจะต้องปรับตัวลดลง ฉะนั้นในช่วงนี้ก็ย้ำให้นักลงทุนจะต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด อันจะเห็นการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำเนื่องจากการแกว่งตัวตาม stop level ของข่าว ทองคำจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางเป็น Sideway down โดยยังไม่มีความชัดเจนของทิศทางและคาดว่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,570 — 1,600 เหรียญ Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,050 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,100 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 890 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,570 — 1,590 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) การเก็งกำไรในแนวโน้มทิศทางขาลง ใช้เงินทุนประมาณ 20% ของพอร์ทเท่านั้น นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอจังหวะทำกำไรซื้อขายบริเวณแนวต้านเท่านั้น ใช้พอร์ทประมาณ 10% เท่านั้น สรุปได้ว่า โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็น Sideway down บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ