กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--โอเอซิส มีเดีย
นางอภิญญา สิทธิโกศรี ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าศาลา ต.ละหาร อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ และในฐานะเกษตรผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ เปิดเผยว่า จากเดิมผู้ใหญ่บ้านอภิญญาได้ทำการเกษตร โดยใช้ปุ๋ยเคมีในการปลูกข้าวซึ่งผลที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงต้องเพิ่มปุ๋ยอยู่เรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนการปลูกข้าวสูงมาก
จากนั้นจึงได้หันมาทำเกษตรอินทรีย์โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ ผลที่เห็นในตอนแรกคือ ต้นข้าวมีความแข็งแรงไม่ค่อยมีแมลงมารบกวน เมื่อตอนมีลมแรงข้าวก็ไม่ล้มผิดจากแปลงข้างๆที่ใช้ปุ๋ยเคมี และที่สำคัญผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัวจากเคยได้แค่ 80 ถังต่อไร่ เป็น 180 ถังต่อไร่ อีกทั้งต้นทุนยังลดลงอีกด้วย จึงอยากเชิญชวนให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งได้ผลผลิตข้าวดีจริง ๆ และจะช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น
นายกล้าพันธ์ เหงากุล ที่ปรึกษาด้านเกษตรอินทรีย์ บริษัท ทีพีไอชีวะอินทรีย์ จำกัด กล่าวว่า ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอได้ให้คำปรึกษาการทำเกษตรอินทรีย์กับเกษตร โดยใช้ปุ๋ยทีพีไอแล้วได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยผลผลิตข้าวในแปลงทดลองก่อนใช้ปุ๋ยทีได้จำนวน 80 ถังต่อไร่เท่านั้น แต่หลังจากเกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอแล้ว ปรากฏว่าได้ผลผลิตข้าวเพิ่มสูงขึ้นถึง 180 ถังต่อไร่
“สำหรับสูตรการใช้ปุ๋ยสูตรการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ มีขั้นตอนเตรียมการคือ ปุ๋ยเขียว ใช้ตอนเตรียมดินปล่อยไปกับน้ำ 10 ลิตรต่อไร่ อายุข้าว 40 วัน ใช้ 10 ลิตรต่อ 1ไร่ ส่วนปุ๋ยม่วงใช้ผสมกับน้ำส้มควันไม้ทีพีไอ 40 ซีซีต่อน้ำ 20ลิตร เริ่มตั้งแต่อายุข้าว 30 วัน จากนั้นพ่นทุก ๆ 7 วันจนกว่าข้าวออกรวง หลังจากนั้นจะทำให้ผลผลิตข้าวของเกษตรกรที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 180 ถังต่อไร่แน่นอน”