กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
ปูนอินทรี ผุดไอเดียสร้างสรรค์ สร้างหมู่บ้านต้นแบบสีเขียว โครงการอินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) ชุมชนที่อยู่ร่วมกับน้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คัดเลือกชุมชนบ้านคลองทราย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา 20 หลังคาเรือนเป็นชุมชนแรกของประเทศไทย ที่พึ่งพาตนเองอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับตัวได้ในทุกสภาวะ ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิถีชีวิต “รักษ์โลก” เพื่อความสุขอย่างพอเพียงและยั่งยืน
คุณจันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหาร (การตลาดและงานขาย) บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวงจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลัง “มหาอุทกภัย” ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยเมื่อช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมาประเทศไทยถือว่าได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากเตรียมรับมือภัยพิบัติไม่ทันและรู้เท่าไม่ถึงการ ชุมชนหลายหลังคาเรือนต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยเฉพาะชุมชนใน จ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำในทุกๆ ปี แต่ในปีที่ผ่านมาชาวบ้านต้องเจอกับสภาวะน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว และรุนแรง
คุณจันทนาเปิดเผยว่า “ภายหลังมีโอกาสนำทีมอินทรีอาสาเข้าช่วยเหลือผู้ประสบมหาอุทกภัยที่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พบว่าบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักกว่าทุกๆ ปี ถึงแม้พื้นที่ของชุมชนจะเป็นพื้นที่รับน้ำอยู่แล้วก็ตาม จึงทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านมีความยากลำบากมาก และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงทำให้เริ่มคิดว่าที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป อาจเป็นผลมาจากน้ำมือของมนุษย์เรานี้เองที่ทำให้โลกกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก และถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ต้องหันมาดูแลธรรมชาติ ซึ่งทางปูนอินทรีเองมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือได้ จึงได้คิดริเริ่มเป็นโครงการอินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) โดยได้เลือกที่จะสร้างสรรค์หมู่บ้านต้นแบบสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยถือเอาชุมชนบ้านคลองทราย ต.บ้านนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 20 หลังคาเรือน ให้เป็นชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมชุมชนแรกของประเทศไทย พึ่งพาตนเองอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับตัวได้ในทุกสภาวะ ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิถีชีวิต “รักษ์โลก” เพื่อความสุขอย่างพอเพียงและยั่งยืน”
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต จุลาสัย อดีตคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ออกแบบ “บ้านอยู่กับน้ำ” กล่าวว่าแนวทางการออกแบบบ้านของโครงการ อินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) กระบวนการทำงานเริ่มตั้งแต่การให้นิสิตเข้าไปลงพื้นที่ กิน อยู่กับชาวบ้าน เพื่อศึกษาถึงวิถีชีวิต และสภาพแวดล้อมของชุมชนบ้านคลองทราย เพื่อนำมาประยุกต์ในการออกแบบบ้าน โดยเน้นการเป็นบ้านที่ทนทานต่ออุทกภัย จึงออกแบบให้มีใต้ถุนยกสูงถึง 3 เมตร มีทางเดินบอร์ดวอร์ค เชื่อมชั้น 2 ของบ้านทุกหลังให้สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ในยามประสบอุทกภัย และทำหน้าที่เป็นหลังคาทางเดินในช่วงหน้าร้อน รวมทั้งคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วัสดุก่อสร้างซึ่งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลาก Green Heart Label ฉลากรับรองสินค้าและบริการ ตามระบบมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ISO14021: Environmental Labels and Declarations นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 5 ต้น สำหรับพื้นที่ชุมชน และหลอดตะเกียบประหยัดไฟในบ้านทุกหลัง
นอกจากการสร้าง “บ้านอยู่กับน้ำ” ในขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างชุมชนหมู่บ้านสีเขียวที่ได้มีการวางระบบการอยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด Eco Living รองศาสตราจารย์ ดร. จินต์ อโณทัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ออกแบบระบบการบริหารและจัดการของเสีย หรือ Waste Management ของโครงการ อินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) ชุมชนคลองทราย กล่าวว่าการสร้างหมู่บ้านต้นแบบสีเขียวภายใต้แนวคิด Eco Living สิ่งสำคัญที่สุดเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกและประสบการณ์ ช่วยปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่ชาวชุมชนในการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเขาสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในการร่วมกันบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย การแยกขยะซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมัก และก๊าชชีวภาพ (Biogas) ผ่านเครื่องผลิตปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ (Biogas) ที่ทางปูนอินทรีมอบให้ ซึ่งชาวบ้านสามารถใช้ประกอบอาหารในชีวิตประจำวันได้ หรือแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้จากการคัดแยกขยะได้อีกด้วยกลายเป็นรูปธรรมที่ชาวบ้านจะได้รับประโยชน์จากการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ โดยติดตั้งเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์เพื่อให้แสงสว่างในชุมชนช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นส่วนที่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ร่วม
การดำเนินงานโครงการอินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) ใช้แนวคิด “3 สร้าง3 ประสาน 3 ได้” เนื่องจากการทำงานในครั้งนี้ยังเป็นการประสานการทำงานของทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย 1. ชุมชน 2. สถาบันการศึกษา และหน่วยราชการ 3. บริษัท ในฐานะแกนกลางในการประสานงาน การสนับสนุนทรัพยากร และบุคลากรผู้มีจิตอาสา องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ เครือข่ายพันธมิตรด้านธุรกิจ ซึ่งหากจุดประสงค์ของโครงการนี้ก่อตัวเป็นรูปธรรม “3 ได้” ก็จะตามมา คือ ชาวบ้านได้หลักประกันสำคัญของครอบครัว นั่นคือบ้านหลังใหม่ที่มีความมั่นคง อยู่สบายในยามปกติและยามที่เกิดอุทกภัย เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต ต่อมาคือ ชุมชนได้พัฒนาการสร้างจิตสำนึกของชุมชน สร้างชุมชนที่เข้มแข็งเน้นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันโดยทุกชุมชน ทุกครอบครัวต้องพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุด และสุดท้ายสังคมไทยได้รูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม คุณจันทนาเสริม
“บ้านอยู่กับน้ำ” นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการรับมืออุทกภัย ที่นับวันจะมาอย่างรวดเร็ว รุนแรงขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น การรับมือที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่รอให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้วจึงการระดมความช่วยเหลือเฉพาะหน้าจากภาครัฐหรือเอกชนลงไปอย่างขนานใหญ่ แต่ควรเป็นการให้ชุมชนมีขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติด้วยตนเอง โดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในชุมชน โดยเริ่มจากหน่วยย่อยที่สุดคือ “บ้าน” และขยายออกสู่ชุมชนตามลำดับ ซึ่งสิ่งที่ปูนอินทรีได้ลงมือทำเป็นสิ่ง หาใช่ความฝัน หรือแนวคิดที่ฟังดูดี แต่ได้มีการลงมือทำให้ปรากฏเห็นเป็นจริง ในโครงการอินทรี กรีน วิลเลจ (INSEE Green Village) ซึ่งนับเป็นโครงการที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และยกระดับคุณค่ากิจกรรมเพื่อสังคมของภาคเอกชน เพื่อบรรลุเป้าหมายความสุขอย่างพอเพียงและยั่งยืนในที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: บริษัท คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
คุณสุธิดา ทาซ้าย โทร 02-663-3226 ต่อ 63 มือถือ 089-060-6393