กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2555 อยู่ในทิศทางที่ดี ส่งผลแนวโน้มทั้งปีมีกำไรสุทธิตามเป้าหมาย 19,620 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักจากการขยายเงินให้สินเชื่อ การบริหารเงินลงทุน และเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม “ดร.ธัชพล กาญจนกูล” เผยนำหลัก Quality ผลักดันเป็นนโยบายในด้านการบริหารสินทรัพย์ ด้านบริการ และด้านพัฒนาบุคลากร เพื่อการดำเนินงานภายใต้แผนงานปี 2555 สำเร็จตามเป้าหมาย ภายใต้ภารกิจมุ่งเน้นการเป็นสถาบันเพื่อการออม ควบคู่กับเป็นแหล่งทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมและชุมชน
ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารออมสินในช่วงครึ่งปีแรก 2555 (1 มกราคม — 30 มิถุนายน 2555) ว่า มีกำไรสุทธิก่อนหักผลกระทบมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19 จำนวน 9,537 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ย สินเชื่อ รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 มีสินทรัพย์รวม 1,797,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 จำนวน 25,380 ล้านบาท ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และภายใต้ภารกิจสำคัญคือการเป็นแหล่งทุนสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก
โดยการเติบโตของสินเชื่อทำให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นสุทธิ 135,455 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 10.02 จากสิ้นปี 2554 คิดเป็น 1.43 เท่าของเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มสุทธิ ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อที่ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อบุคคลรายย่อย สินเชื่อแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยสินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 อยู่ที่ 1,487,445 ล้านบาท โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 93 : 7
ขณะที่การรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่ามียอดเงินฝากรวม 1,575,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 จำนวน 49,659 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.25 โดยตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ปริมาณเงินฝากยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ธนาคารฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 399 วัน และสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดใหม่ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่จูงใจผู้ฝาก
“ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ที่จูงใจ โดยการเลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากออกไปไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด”ดร.ธัชพล กล่าว
สำหรับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ส่งผลให้ลูกค้าขาดความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารฯ จึงได้ผ่อนปรนด้วยมาตรการต่างๆ เป็นผลให้การรับรู้รายได้ของธนาคารฯ ลดลงในช่วงต้นปี 2555 และต้องบันทึกยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ตามเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม พร้อมกับเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ ซึ่งการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปล่อยสินเชื่ออย่างเหมาะสมและรัดกุม ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพเริ่มลดลง ทำให้คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับปกติ ยอดหนี้ค้างชำระทยอยลดลง โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 มีปริมาณหนี้ NPLs อยู่ที่ 16,656 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.12 ของสินเชื่อรวม โดยที่ธนาคารฯ ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงกว่า 9,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การขยายตัวด้านผลประกอบการดังกล่าว ทำให้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 ธนาคารฯ มีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ร้อยละ 1.08 อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 16.16 สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินลงทุน เท่ากับ 85 : 15 ขณะที่สินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินฝาก อยู่ที่ร้อยละ 12.85 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ร้อยละ 11.54 และนำส่งรายได้เข้ารัฐไปแล้วในครึ่งปีแรก จำนวน 4,532 ล้านบาท
ดร.ธัชพล กล่าวต่อไปว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญด้านบริการอย่างมีคุณภาพ โดยตนจะให้นโยบายด้านคุณภาพ (Quality) แก่ผู้บริหารและพนักงาน สำหรับงานด้านต่างๆ อาทิ การบริหารสินทรัพย์ การบริหารและพัฒนาบุคลากร และงานด้านบริการ เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงานของธนาคารฯ เป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน พร้อมกับหวังเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจที่มีใบอนุญาต อาทิ นายหน้าประกันภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มปริมาณเงินลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อยู่ที่ 218,731 ล้านบาท โดยที่มีเครือข่ายช่องทางการให้บริการของธนาคารออมสินที่พร้อมจะมุ่งนำนโยบายดังกล่าวไปสู่เป้าหมาย ผ่านสาขาให้บริการเต็มรูปแบบจำนวน 888 แห่ง หน่วยให้บริการบนอำเภออีก 43 แห่ง
ขณะที่เครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และตู้เอทีเอ็มมีจำนวน 3,865 เครื่อง หน่วยให้บริการเคลื่อนที่ (ธนาคารเรือและรถตู้) จำนวน 92 หน่วย มีธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน เพื่อปลูกฝังการออมตั้งแต่วัยเด็กผ่านสถานศึกษาอีก 661 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับกองทุนหมู่บ้านขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชนเป็น 26,948 แห่ง อบรมที่ปรึกษาทางการเงินประจำหมู่บ้าน (หมอหนี้) มีจำนวนเพิ่มเป็น 121,803 คน
“ธนาคารออมสิน ดำเนินงานภายใต้ภารกิจมุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดดำเนินภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเป็นผู้นำในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล” ดร.ธัชพล กล่าวในที่สุด.