กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.47) เวลา 10.00น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคาร สว.ธรรมนิเวศ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวผลสำเร็จโครงการปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม วัดบวรนิเวศวิหาร เนื่องในโอกาสสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช พระชนมายุ 90 พรรษา วันที่ 3 ตุลาคม 2546 โดยมี ดร. มณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยพระคุณเจ้าพระเทพดิลก และพระคุณเจ้าพระราชเมธาภรณ์ ร่วมแถลงข่าว
เนื่องในโอกาสสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 46 ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกับวัดบวรนิเวศวิหาร และกรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงประกอบพระกรณียกิจ อันเกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ พระพุทธศาสนาและประชาชน การปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมวัดบวรนิเวศวิหารที่ผ่านมาได้ดำเนินการ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การแก้ปัญหาน้ำเสีย ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. — 10 ก.ย. 46 ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำในคูเน่าเสียด้วยการย้าย สัตว์น้ำ ขุดลอกตะกอนดินใต้คูน้ำ และติดตั้งบ่อดักไขมันที่กุฏิต่างๆ, การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ได้มีการจัดหาภาชนะรองมูลฝอยให้กับกุฏิต่างๆ, และการปรับปรุงภูมิทัศน์ได้มีการจัดสวนหย่อม สวนสมุนไพร และทาสีกำแพงแก้ว ส่วนแผนงานระยะยาว ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 46 ที่ผ่านมานั้น ได้ดำเนินการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียภายในวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อระบายลงสู่ระบบรวบรวมน้ำเสียของกทม. ก่อนเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียกลางต่อไป นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการซ่อมแซมกำแพงแก้วพร้อมทาสี และปรับปรุงลานอเนกประสงค์บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ในการนี้จะมีการนำเสนอให้วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นกรณีศึกษาสำหรับแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมให้แก่วัดต่างๆ ในกทม. บริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ จำนวน 35 แห่งต่อไป
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วัดบวรนิเวศวิหารถือเป็นวัดต้นแบบในการพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และจะดำเนินการต่อเนื่องตามแผนระยะยาวต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าการพัฒนาวัดบวรนิเวศฯ ได้มีการดำเนินการร่วมกันหลายหน่วยงานทั้งกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมศิลปากร สำนักงานเขตพระนคร รวมทั้งสำนักการระบายน้ำ สำนักรักษาความสะอาด สำนักงานสวนสาธารณะ กทม. และพระสงฆ์ภายในวัดที่ได้ร่วมมือ ร่วมใจกันในการพัฒนาวัด สาเหตุที่เลือกวัดบวรนิเวศฯ เป็นวัดต้นแบบเนื่องจากกรมศิลปากรเห็นว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว และเป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับโครงการนี้จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในวัดอื่นๆ ภายในพื้นเกาะรัตนโกสินทร์และบริเวณใกล้เคียงต่อไป ซึ่งนอกจากจะทำให้สภาพภูมิทัศน์โดยทั่วไปภายในวัดดีขึ้นแล้วยังจะเป็นการเพิ่มสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งการเป็นแหล่งศึกษาที่น่าสนใจสำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนโดยทั่วไป เนื่องจากวัดแห่งนี้มีพันธุ์พืชหายาก ที่พบว่าต้องสงวนพันธุกรรมพืชถึง 90 กว่าชนิด เป็นที่น่าศึกษาและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นที่รู้จักของอนุชนรุ่นหลังต่อไป--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--