กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านวิจัยเวชภัณฑ์รักษาอาการปวดโรคกระดูกและข้อ เผยสถิติผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อในไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน 5% ของคนไทยต้องทุกข์ทรมานจากโรคนี้แนะหากไม่อยากเป็นควรใส่ใจสุขภาพร่างกาย ส่วนผู้ป่วยควรรู้จัดวิธีดูแลตนเองอย่างถูกต้อง
ผศ.นพ.สุรศักดิ์ นิลกานุวงศ์ หัวหน้าสาขาโรคข้อและรูมาติสซั่ม ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า "โรคกระดูกและข้อเป็นโรคที่มีมานานแล้ว และมีผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคนี้มากมายทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย พบว่า ผู้ป่วยด้วยโรค ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีอายุระหว่าง 40-60 ปี โดยเฉพาะกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีสถิติผู้ป่วยด้วยโรคข้อเสื่อมถึง 50% และมีแนวโน้มขึ้นทุกปี แต่ที่ผ่านมา โรคกระดูกและข้อกลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเมื่อเปรียบเทียบกับโรคอื่นๆ อย่างโรคเอดส์ หรือโรคมะเร็ง เนื่องจากคนทั่วไปคิดว่า เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต และมักจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคนเราอายุมากขึ้น"
ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวเสริมว่า โรคข้อเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการอักเสบบริเวณโครงสร้างภายในและภายนอกของข้อ โดยมีลักษณะอาการหลายแบบ ที่พบบ่อยเช่น เจ็บปวดตามข้อ ข้อบวมแดงร้อน การผิดรูปผิดร่างของข้อ รวมถึงการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ โรคข้อแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ กลุ่มโรคข้อที่มีลักษณะการอักเสบภายในข้อ เช่น โรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อ โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และกลุ่มโรคข้อที่มีลักษณะจากการรับน้ำหนักและการใช้งานมานาน เช่น โรคข้อกระดูเสื่อม โรคข้อกระดูกสันหลังเสื่อม โดยโรคข้อที่ร้ายแรง ได้แก่ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่อาจทำให้ผู้ป่วยเป็นง่อยได้หากเป็นมากๆ และโรคลูปุสที่อาจทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โรคข้อสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย เกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคคือ อายุ โดยผู้สูงอายุมักเป็นโรคข้อเสื่อม แต่เด็กก็อาจเป็นโรคข้ออักเสบได้ สาเหตุต่อมา คือกรรมพันธุ์ เช่น บางรายมีกระดูอ่อนผิดปกติมาแต่กำเนิด อีกสาเหตุหนึ่งคือ น้ำหนักตัวที่มากเกินไปทำให้ข้อเข่า หรือข้อสันหลังต้องรับน้ำหนักมากกว่าธรรมดา จึงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น"
ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษาการอักเสบของโรคข้อในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
ประเภทที่ 1 กลุ่มยาต้านการอักเสบกลุ่มเก่า หรือกลุ่มยาระงับปวดชนิดดั้งเดิม ที่ผู้ป่วยต้องรับประทานควบคู่ไปกับยาเคลือบกระเพาะอาหาร เพราะยาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร โดยผู้ป่วยที่มีอายุมาก ผู้ป่วยที่ใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์ในการรักษา การสูบบุหรี่และการใช้ยาในการรักษาเป็นระยะเวลายาวนานเกินไป จะยิ่งก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในกระเพาะอาหารที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ประเภทที่ 2 กลุ่มยาต้านอักเสบกลุ่มใหม่ หรือ COX-2 Specific Inhibitors คือ ยาระงับปวดที่จะเข้ายับยั้งการสร้าง prostaglandins โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ COX-2 ซึ่งจะส่งผลให้ลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดอาการปวดจากการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อและข้ออักเสบได้ดี สามารถใช้ยาได้ในระยะเวลายาวนาน ไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารปัจจุบันมีตัวยา 5 ตัว ได้แก่ ตัวยา valdecoxib, parecoxib, rofecoxib, etoricoxib และ celecoxib อย่างไรก็ดี ตัวยาแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้แตกต่างกัน ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานยา
ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า "และในช่วงปี พ.ศ.2543-2553 องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้กำหนดให้เป็นทศวรรษโรคกระดูกและข้อ รวมทั้งจัดโครงการรณรงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวไปทั่วโลก เราจึงมีแผนที่จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคในวงกว้าง สำหรับกิจกรรมสำคัญขององค์กรทศวรรษโรคกระดูกและข้อแห่งประเทศไทยที่จะร่วมมือกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในปีนี้ คือ โครงการ "ชนะทุกข้อ" ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคข้อแก่ผู้ด้อยโอกาส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ซึ่งโครงการดังกล่าว จะมีการให้ความรู้ในเรื่องโรคข้อผ่านทางการจัดกิจกรรม และการผ่าตัดข้อให้กับผู้ด้อยโอกาส
พญ.อรนุช อรุณทัต ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า "ไฟเซอร์ในฐานะผู้นำด้านวิจัยเวชภัณฑ์รักษาอาการปวดจากโรคกระดูกและข้อ ตระหนักดีว่า อันตรายจากโรคกระดูกและข้อเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย และทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ด้อยลงไป เราจึงมีแผนที่จะจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคกระดูกและข้อในวงกว้าง รวมถึงข้อมูลทางด้านวิธีการรักษาและปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีให้แก่ผู้ป่วยและประชาชน นอกจากนี้ถึงแม้อาการของผู้ป่วยโรคข้อส่วนใหญ่จะไม่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต แต่ก็เป็นโรคที่เรื้อรัง ยากจะรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจึงควรรู้จักวิธีปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพื่อสามารถควบคุมโรคไม่ให้ทรุดหนักขึ้น โดยจะต้องรู้จักวิธีการปฏิบัติกิจประจำวันไม่ให้ข้อต่ออักเสบมากขึ้น รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ ยังต้องเข้าใจยาที่รับประทานอย่างชัดเจนด้วย เพราะยาแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงแตกต่างกัน"
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำ ซึ่งจัดจำหน่ายผลงานการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ที่ลงทุนสูงที่สุดในโลกของบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไฟเซอร์เป็นบริษัทที่มีการเติบโตรวดเร็ว มีนวัตกรรมในการคิดค้นเวชภัณฑ์มากเป็นอันดับ 1 ของโลก มีเวชภัณฑ์ที่ครอบคลุมโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคติดเชื้อต่างๆ โรคซึมเศร้าและจิตประสาท โรคชัก โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โรคต้อหิน มะเร็ง และโรคข้อ เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณพิ้งกี้ กังกลานี / คุณพิณรัตน์ ทัศนะพยัคฆ์ / ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์ / โทร.0-2260-0820 ต่อ 2113 หรือ 3134--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--