สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 26, 2012 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,584 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,600 (22.30น.)เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.66 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,750 บาท กับ 23,850 บาท และกลับมาปิดที่ 23,750 บาท กับ 23,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,733 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,641คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 340 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 8.2 % แบบ 10 บาท ลดลง 3.9 % GFQ12 ปิดที่ 24,100 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,200บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,100 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,210 บาท SVQ12 ปิดที่ 861 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 31.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,608.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 65.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 27.466 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,252.53 ตัน (ขายออก 2.11 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ระดับ 88.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 58.73 จุด ปิดที่ระดับ 12,676.05 จุด Ratio Gold / Silver 58.6 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest - ราคาทองคำสามารถฝ่าแนวการเคลื่อนไหวแบบ Sideway ไปได้เมื่อวานนี้ โดยปรับตัวขึ้น 1.5% ทะลุระดับทางจิตวิทยา 1,600 เหรียญจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินยูโร และความคาดหวังใหม่ที่จะมีมาตรการ QE3 จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากที่เกิดเหตุการณ์นี้บ่อยๆ ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การประชุม FOMC ซึ่งจะตรงกับวันอังคารและวันพุธในสัปดาห์หน้า และจะดูว่าหากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอ่อนแออีกจะกระตุ้นให้เฟดใช้มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนหรือไม่ - วอลสตรีท เจอนัล รายงานว่า ขณะนี้เฟดกำลังมีการพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะมีการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อไหร่และใช้อย่างไร ที่มีเป้าหมายยกระดับเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งกลุ่มเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ อาจมีการดำเนินการเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์หน้าในวันที่ 31 กรกฎาคม และ 1 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจรอจนถึงการประชุมในเดือนกันยายน เพื่อสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้นเกี่ยวกับย่างก้าวการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงานก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร - สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีมาอยู่ที่ระดับ 1.2130 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากมีการออกความเห็นเชิงบวกจากสมาชิกสภาบริหารของอีซีบี นายเอวัลด์ โนวอตนี ที่กล่าวว่า กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซน อาจสามารถขยายวงเงินปล่อยกู้เกิน 5 แสนล้านยูโรได้ หากกองทุน ESM ได้ใบอนุญาตทำธุรกิจธนาคาร ซึ่งจะทำให้ ESM สามารถเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรปได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายโนวอตนีทำให้ตลาดมีความหวังมากขึ้นเรื่องการจัดการกับวิกฤตหนี้ยุโรป เนื่องจากตลาดกังวลอยู่ว่าวงเงินปัจจุบันของกองทุน ESM มีขนาดใหญ่ไม่มากพอที่จะช่วยเหลือสเปนและอิตาลีได้ - ช่วงประมาณเที่ยงคืนทีผ่านมา อีแกน-โจนส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 3 ขั้นสู่ระดับ CCC+ ซึ่งเป็นระดับขยะ จากเดิมที่ B+ โดยระบุว่าอิตาลีมีแนวโน้มจะต้องช่วยเหลือภาคธนาคารที่ย่ำแย่เช่นเดียวกับสเปน ขณะที่ยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับศักยภาพของอิตาลีในการสนับสนุนระบบธนาคารของประเทศ เมื่อพิจารณาจากสถานภาพที่อ่อนแอของประเทศ - ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นตามที่มีความคาดหวังว่ากลุ่มธนาคารต่างๆ จะมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อลดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเข้าซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงที่ระดับต้นทุนความเสี่ยงต่ำกว่าในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ - เทรดเดอร์ต่างๆ กล่าวอ้างถึงการเข้าซื้อทางเทคนิคเมื่อวานนี้มาจากการฟื้นตัวของราคาเหนือแนวต้านในกราฟของเส้นค่าเฉลี่ย 20 และ 50 วัน และนอกจากนี้การซื้อขายของสัญญา Options ในตลาด COMEX และการซื้อเข้าจากกองทุน SPDR ก็เป็นส่วนสนับสนุนราคาทองคำเช่นกัน - สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สตลาด COMEX ปรับตัวสูงขึ้น 31.90 เหรียญ ปิดตลาดที่ระดับ 1,608.10 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 60% เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยตลอดเดือนกรกฎาคมราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 75 เหรียญ ซึ่งเป็นเดือนที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - German Ifo Business Climate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 105.3 ออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 103.3 - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 382K ออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 350K - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.8M ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.7M ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.7% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.1% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 386K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 381K - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.3% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.4% - Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.9% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.6% - ECB President Draghi Speaks เวลาประมาณ 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย - Treasury Sec Geithner Speaks เวลาประมาณ 21.00น.ตามเวลาประเทศไทย วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเมื่อวานนี้ในตลาด COMEX ปรับตัวขึ้นอย่างมากกว่า 1.5% โดยที่เปิดตลาดที่ระดับ 1,584 เหรียญ และขึ้นไปทำจุดสูงสุดในตลาด COMEX ที่ระดับ 1,609 เหรียญโดยประมาณ ภาพรวมของการปรับตัวสูงขึ้นยังเป็นการเล่นข่าวสองเรื่องคือ การที่สมาชิกบริหารของอีซีบีออกมาแถลงว่าจะพยายามให้กองทุน ESM ปรับเพิ่มระดับเงินทุน เพื่อให้ธนาคารมีความสามารถเอาชนะวิกฤตได้ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่จะมีการเพิ่มขนาดกองทุนของ ESM เพื่อที่จะเพิ่มเงินเข้ามาช่วยเหลือภาคธนาคารต่างๆ ทำให้ค่าเงินยูโรกลับดีดตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.2060 ดอลลาร์/ยูโรไปที่ระดับ 1.2115 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวานนี้ โดยที่ในช่วงค่ำหลังจากที่ตัวเลข New Home Sales ออกมาต่ำกว่าที่คาดถึง 8% ก็มีส่วนกระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำให้สามารถทะลุ 1,600 เหรียญขึ้นมา และทำให้ทองคำยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,610 ได้ โดยยังมีความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE3 กลับมาอีกครั้ง ในการประชุม FOMC วันที่ 31 กรกฎาคม และวันที่ 1 สิงหาคม MTS Gold วิเคราะห์ว่า ในเชิงเทคนิคแล้วราคาทองคำยังมีแนวต้านสำคัญอยู่อีก 2 — 3 แนวที่ระดับ 1,620 เหรียญและ 1,635 เหรียญ ถึงจะสามารถเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้ ราคาน่าจะขยับเป็นลักษณะของ Sideway up อย่างช้าๆ จากเดิมที่เป็น Sideway down จึงแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในกรอบ 1,590 - 1,610 เหรียญ ค่าเงินบาทเองก็กลับแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานกว่า 12 สตางค์ จึงเป็นสาเหตุให้ราคาทองคำในรูปของเงินบาทนั้นยังปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนัก Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,300 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 890 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) - เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวของราคาทองคำในกรอบ 1590 — 1610 เหรียญ โดยแนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นๆ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) - พอร์ทน่าจะอยู่ในระดับ 0 % จึงไม่กระทบกระเทือนกับการขึ้น เนื่องจากแนะนำให้ปิด Short Position ไปหมดแล้วภาพรวมมองว่าทองน่าจะแกว่งในกรอบแคบๆ ยังไม่น่าปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 1610 เหรียญ เงินบาทเองแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานกว่า 12 สตางค์จึงเป็นสาแหตุที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในรูปเงินบาทไม่มากนัก นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง - เช่นเดียวกับนักลงทุนรายสัปดาห์ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ