กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--ซีพีเอฟ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” ชี้แจงภัยแล้งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯที่ส่งผลให้ราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองในตลาดโลกสูงขึ้นกว่า 50% ทำให้ราคาอาหารสัตว์สูงตามไปด้วย สำหรับผลกระทบในประเทศไทยในด้านข้าวโพดมีผลกระทบน้อย เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดไทยเราผลิตได้เพียงพอกับการใช้ และข้าวโพดฤดูใหม่ก็จะออกในเดือนหน้าแล้ว ส่วนกากถั่วเหลือง เนื่องจากต้องนำเข้าก็ส่งผลกระทบทันที โดยราคาจากโรงสกัดน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาถึงกิโลกรัมละ 20.80 บาท สำหรับซีพีเอฟ เราได้มีการซื้อล่วงหน้าไปก่อนแล้ว จึงมีผลกระทบไม่มาก
สำหรับกระแสข่าวว่าบริษัทจะมีการเพิ่มทุนนั้น นายอดิเรกชี้แจงว่า บริษัทไม่มีแผนในเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากกระแสเงินสดของบริษัทยังคงมีเพียงพอในการลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการ และบริษัทอยู่ระหว่างการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่อเป็นการระดมทุนมาใช้เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม ซึ่งซีพีเอฟได้มีการดำเนินการระดมทุนผ่านช่องทางหุ้นกู้เป็นแนวทางหลักทุกปีอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ในส่วนของกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้บริหารนั้น นายอดิเรกกล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นอะไรที่ผิดปกติ หากมีการขายออกมาจะต้องมีการรายงานตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในส่วนนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยภาพรวมของธุรกิจของปีนี้นั้น ต้องถือว่าเป็นปีที่ยากกว่าที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศไทย ที่ส่งผลให้กำลังซื้อหดตัวลง ไม่เพิ่มขึ้นอย่างที่เคยคาดไว้ แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ต่างๆเหล่านี้น่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจในระยะสั้นเท่านั้น ธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก บริษัทยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ปีด้วยยอดขายกว่า 6 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน
พรรณินี นันทพานิช ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 02-625-7343-5 , 02-631-0641, 02-638-2713 / E - mail : pr@cpf.co.th