กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,605 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,613 เหรียญ/ออนซ์(22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 31.57 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,900 บาท กับ 24,000 บาท และกลับมาปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,491 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 14,215คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 166 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4.3% แบบ 10 บาท ลดลง 3.1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2.3% GFQ12 ปิดที่ 24,290 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,380บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,280 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,380 บาท SVQ12 ปิดที่ 878 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,615.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 27.466 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,252.53 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ระดับ 89.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 211.88 จุด ปิดที่ระดับ 12,887.93 จุด
Ratio Gold / Silver 58.8 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% หลังจากคำให้สัญญาของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ที่ระบุว่าจะปกป้องสกุลเงินยูโร โดยนายดรากีกล่าวว่า “อีซีบีพร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร และพร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นภายในขอบเขตอำนาจของอีซีบี เพื่อยับยั้งการล่มสลายของยูโรโซน และขอให้เชื่อมั่นว่า การดำเนินการเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ยูโรโซนอยู่รอดปลอดภัย ซึ่งการจัดการกับต้นทุนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับสูงของรัฐบาลในยูโรโซนถือเป็นสิ่งที่อยู่ภายในขอบเขตอำนาจของอีซีบี” จากข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความหวังมากขึ้นว่าจะเกิดการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 1.2330 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1.5 เซนต์จากระดับปิดตลาด ในขณะที่ Dollar Index อ่อนค่าลงสู่ระดับ 82.58
ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม โดยสัมพันธ์กับการเข้าซื้อในสัญญา Options ที่เป็นส่วนสนับสนุนราคา Gold Futures ส่งมอบเดือนสิงหาคมในตลาด COMEX ให้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 7 เหรียญ ปิดตลาดที่ระดับ 1,615.10 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายมากกว่า 50% เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน ซึ่งเป็นปริมาณโวลุ่มที่มากกว่าปกติที่มีส่วนสนับสนุนจากการหมดอายุของสัญญา Option เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นายอดัม ซาฮาน ประธานฝ่ายบริหารจากซาฮาน แคปปิตอลระบุว่า ตอนนี้ราคาทองคำกำลังขึ้นมาทดสอบแนวต้าน และหากสามารถฝ่าแนวต้านขึ้นไปได้ จะเห็นช่วงการไต่ขึ้นของราคาทองคำสูงขึ้นอีก ซึ่งเขามองว่าจุดเปลี่ยนทิศทางของราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ โดยดูจาก Downward-sloping curve ที่ลากไปสู่ระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ในกราฟรายสัปดาห์
นักกลยุทธ์จาก CitiFX ระบุในรายงานว่า ราคาทองคำมีลักษณะ Bullish double-bottom pattern และเป้าหมายถัดไปอยู่ใกล้กับระดับ 1,800 เหรียญ หลังจากที่ราคาสามารถฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,688 เหรียญไปได้
อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐออกมาดีขึ้น คือคนตกงานลดลงเกินคาดถึง 35,000 ตำแหน่ง ลงมาอยู่ที่ระดับ 353,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่มีการปรับทบทวนขึ้นมาที่ระดับ 388,000 ตำแหน่ง แม้ว่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่ถึงกระนั้นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการที่ลดลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ก็ช่วยจุดประกายความหวังว่าตลาดแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
Ann-Laure Tremblay จากบีเอ็นพี พาลิบาส เชื่อว่า ตลาดกำลังจัดวางตำแหน่งของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าแทรกแซงจากธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธนาคารกลางสหรัฐ โดยมีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้นว่า เฟดจะออกมาตรการ QE3 ในเดือนหน้า ซึ่งกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ของบีเอ็นพี พาลิบาสหลายรายเชื่อว่า อาจมีการประกาศใช้มาตรการ QE3 ในการแถลงการณ์ที่แจคสัน ฮอลล์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งก่อนหน้านี้นายเบอร์นันเกเคยใช้โอกาสในการแถลงการณ์ต่อสาธารณชนเพื่อประกาศมาตรการ QE ก่อนหน้านี้มาแล้ว
ผู้ประกาศข่าวจากวอลสตรีท เจอนัลรายงานว่า ตลาดทองคำมีแนวโน้มในทิศทางขาขึ้นมาตั้งแต่วันพุธ โดยชี้ให้เห็นว่ามุมมองดังกล่าวเป็นช่วงเวลาของความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเข้าแทรกแซงทางการเงิน โดยเฟดจะมีการประชุม FOMC ในวันอังคารและวันพุธของสัปดาห์หน้า
แบร์ริค โกลด์ คอร์ป ผู้ผลิตทองคำอันดับหนึ่งของโลก ได้รายงานผลกำไรรายไตรมาสลดลงถึง 35% และได้เตือนถึงระดับต้นทุนของหนึ่งในโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดอาจมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ นิวมอนท์ ไมน์นิ่ง คอร์ป ผู้ผลิตทองคำอันดับสองของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสที่ 2 ลดลง 30% ในผลผลิตทองคำและทองแดง และได้ลดมุมมองการผลิตตลอดทั้งปีลง
นายเจมส์ สตีล นักวิเคราะห์จาก HSBC ระบุว่า นักลงทุนในทองคำกำลังจับตารอการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐ เพื่อเป็นข้อมูลอีกอย่างหนึ่งประกอบการคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟด และความเคลื่อนไหวในสกุลเงินดอลลาร์ รวมไปถึงตลาดหุ้น หลังจากที่มีตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาก่อนหน้านี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.8% ออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.1%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.6% ออกมาทรงตัวสู่ระดับ 1.6%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 388K ออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 353K
- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.4% ออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.4%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Advance GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.9% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.5%
- Advance GDP Price Index q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.0% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.6%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 72.0 คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 72.0%
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังทรงตัวได้ในระดับสูงเหนือระดับ 1,610 เหรียญไปได้ หลังจากที่มีการดีดตัวกลับขึ้นมากว่า 10 เหรียญ ในช่วงเวลาสองวันทำการที่ผ่านมา การที่ราคาทองคำยังยืนอยู่เหนือระดับ 1,610 เหรียญ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ในระยะยาวที่อาจจะดีดฟื้นกลับตัวขึ้นมาได้ อย่างไรก็ดีทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่เหลืออีกค่อนข้างมากบริเวณ 1,620 เหรียญและ 1,630 เหรียญตามลำดับ แนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,595 เหรียญ ยังมองว่าโดยภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up และแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นระหว่าง 1,600 — 1,620 เหรียญ ยังไม่แนะนำให้ทำ Short position เท่าไรนัก อาจจะเปิด Long position สำหรับนักลงทุนระยะยาวได้ ข่าวทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังไม่มีความชัดเจนนักที่จะมีสัญญาณการใช้ QE3 ซึ่งเป็นข่าวที่นักลงทุนเริ่มมาคาดหวังอีกครั้งหนึ่ง โดยยังไม่แน่ว่าถ้าวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ไม่ได้มีเรื่องการใช้ QE3 ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ราคาทองคำอาจจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงได้ จึงอยู่ในช่วงของการที่จะตั้งเป้ารอมากกว่าที่จะเป็นการกำหนดทิศทางใดชัดเจน
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,480 บาท
Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 890 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1600 -1620 เหรียญ ถ้าขึ้นหรือลงจากกรอบนี้แนะนำให้ใช้ Stop Loss เพื่อป้องกันความเสี่ยง
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ทยอยเปิด Long Position เมื่อราคาอ่อนตัวมาบริเวณแนวรับประมาณ 10 — 20%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เปิด Long Position เมื่อราคาต่ำกว่าระดับ 1595เหรียญ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง