กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
บลจ. ทิสโก้ คว้าจังหวะส่ง “ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 3” ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพและหุ้นพื้นฐานดี ตั้งเป้าทำกำไร 5.5% ภายใน 1 ปี เปิดไอพีโอแล้วตั้งแต่ 30 ก.ค. - 14 ส.ค. 55 ที่ บลจ.ทิสโก้ และ สาขาธนาคารทิสโก้ทุกสาขา ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท
TISCO Wealth บริการที่ปรึกษาการเงินการลงทุนครบวงจรจากทิสโก้ โดยนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม TISCO Wealth จึงเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 3 (TISCO Special Bonus Fund 3)” ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมแบบกำหนดสัดส่วนการลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี และ/หรือเงินฝากในประเทศและต่างประเทศ และจะมีการลงทุนในตราสารแห่งทุนในประเทศไม่เกิน 30% โดยในกรณีที่มีการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ทั้งนี้ TISCO Wealth ระบุว่า “กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 3 (TISCO Special Bonus Fund 3)” จะเหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการแสวงหาผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน และต้องการชนะเงินเฟ้อ แต่ยังคงเน้นการลงทุนในแบบที่มีความเสี่ยงไม่สูงนัก โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอายุประมาณ 1 ปี และจะแบ่งสัดส่วนไม่เกิน 30% ลงทุนในหุ้นไทยเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นยังอยู่ในระดับถูก โดยเฉพาะหุ้นที่มีพื้นฐานดี นอกเหนือจากการลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว ซึ่งโอกาสที่จะชนะเงินเฟ้อมีน้อย โดยตลาดหุ้นไทยนับเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าลงทุน เนื่องจากพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับภาครัฐและเอกชนมีโครงการจะลงทุนเพื่อฟื้นฟูในช่วงหลังน้ำท่วม และนโยบายการกระตุ้นการบริโภคและการลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเพิ่ม Upside ให้หุ้นไทย ทั้งนี้การลงทุนผ่าน “กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 3” นี้นับเป็นการตอบโจทย์การลงทุนที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 3 (TISCO Special Bonus Fund 3) มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี หรือสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 5.5 % หลังหักค่าใช้จ่าย โดยกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดในวันทำการที่ 5 นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะเสนอขายครั้งเดียว (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 30 ก.ค. - 14 ส.ค. 2555 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท ทั้งนี้ ผู้สนใจกองทุนดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนมีการกำหนดเงื่อนไขการเลิกกองทุนก่อนกำหนด ผู้ลงทุนควรตระหนักว่า การกำหนดอัตราผลตอบแทนในเงื่อนไขการเลิกกองทุนก่อนกำหนด มิได้เป็นการรับประกันหรือทำให้คาดหวังว่าผู้ลงทุน
จะได้รับผลตอบแทนตามอัตรานั้น