กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--กทม.
เริ่มประชุมนัดแรกของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและการคลังกทม. แนะตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สร้างขวัญกำลังใจข้าราชการกทม.และส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ เตรียมจัด Work Shop เพื่อวางยุทธศาสตร์ก่อนเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ในเดือนมีนาคมนี้
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 48 เวลา 10.00 น. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและการคลังกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี ศ.พิเศษ สมชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน โดยมีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากหน่วยงานภายในกทม.และผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่เป็นคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและการคลังกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 48 ที่ประชุมฯได้หารือเกี่ยวกับขอบเขต อำนาจหน้าที่กรอบของคณะกรรมการฯ ตามคำสั่งที่ผู้ว่าฯกทม. แต่งตั้ง โดย ศ.พิเศษสมชัย ให้ความเห็นว่า ภารกิจของคณะกรรมการฯ มีความครอบคลุมงานด้านเศรษฐกิจและการคลัง โดยเฉพาะเรื่อง ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การเงิน การงบประมาณของ กทม. พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมที่กทม.เปิดมิติใหม่ในการบริหารโดยใช้นโยบายเป็นตัวตั้ง และพร้อมที่จะเปิดรับทางเลือกใหม่ๆ ในการดึงงบประมาณมาลงทุน ซึ่งจะทำให้เกิดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตามมาอีกมากมาย
ด้านภารกิจหลักภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการชุดนี้ คือ การเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการเงินการคลังของกทม. ทั้งด้านรายได้ ภาษี ค่าธรรมเนียม ที่จัดเก็บอยู่แล้วและส่วนที่จะเพิ่มขึ้นมาตามกฎหมายกระจายอำนาจ การนำนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ มาใช้ เช่น การออกพันธบัตร การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของกทม. และการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ด้วยการตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกทม. ขึ้นมารองรับ รวมถึงการเสนอแนะแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรงบประมาณ และการเบิกจ่ายเพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร พิจารณาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ กทม. ระยะ 4 ปี ตลอดจนเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจใน 12 กลุ่มโซน ตามที่ กทม. ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาไว้ตามศักยภาพของแต่ละโซน เช่น การใช้เครื่องมือและสิทธิประโยชน์ด้านงบประมาณและภาษีเพื่อเป็นแรงจูงใจในการลงทุน การพัฒนาในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการคลังของ กทม. จึงจะมีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) ในช่วงเดือนมีนาคม 2548 เพื่อให้ผู้ที่เป็นคณะกรรมการฯ ได้รับทราบข้อมูลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจการคลัง การเงิน งบประมาณ ปัญหาอุปสรรค ตลอดจนทิศทางการพัฒนาของกทม. เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการคลังต่อไป
ทั้งนี้ ศ.พิเศษ สมชัย ได้เสนอให้ กทม.ศึกษาการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพข้าราชการกทม. เพื่อส่งเสริมการออมเงินของ ข้าราชการโดยหน่วยงานและตัวข้าราชการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฝ่ายละ 3% ต่อเดือน เพื่อให้มีเงินทุนใช้หลังเกษียณอายุราชการ นอกเหนือจากที่ กทม.มีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการ ขณะที่ กทม.สามารถนำเงินส่วนนี้ไปบริหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเมืองได้อีกด้วย--จบ--