กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อผลักดัน ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับโลก โดยขยายเวลาการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้ามาเพื่อขายหรือการขายอัญมณีที่ยังมิได้เจียระไน ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 493) พ.ศ. 2553 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. กำหนดให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการนำเข้ามาเพื่อขายหรือการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชรหรือไข่มุกหรือที่ทำขึ้นใหม่ ให้แก่ผู้นำเข้าหรือผู้ขายที่เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคล ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้ามาเพื่อขายหรือการขายตั้งแต่วันที่กฎหมายนี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
2. กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ที่มีเงินได้พึงประเมินจากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือ ที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชรหรือไข่มุกหรือที่ทำขึ้นใหม่ และได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไว้แล้วตามอัตราที่กฎหมายกำหนดเมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายอัญมณีดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 48(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่กฎหมายนี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
3. กำหนดให้การจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่เป็นการจ่ายเงินได้จากการซื้อพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชรหรือไข่มุกหรือที่ทำขึ้นใหม่ ให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และมิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 311) พ.ศ. 2540 ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ทั้งนี้ สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตั้งแต่วันที่กฎหมายนี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้ามาเพื่อขายหรือการขายอัญมณีที่ยังมิได้เจียระไน สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอัญมณีประเภทพลอยก้อนที่ยังมิได้เจียระไนของประเทศไทย โดยเป็นการกระตุ้นให้เกิดการไหลเข้ามาของวัตถุดิบอัญมณีจากต่างประเทศที่จะนำมาป้อนให้อุตสาหกรรมการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของไทย อันจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตและการส่งออกได้มากขึ้น และก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลก”
ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของผลกระทบต่อรายได้การจัดเก็บภาษีนั้น คาดว่าจะทำให้รายได้ภาษีอากรลดลงบ้าง แต่จากการไหลเข้ามาซึ่งวัตถุดิบอัญมณีจากต่างประเทศ จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตและส่งออกได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีประเภทต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น”