กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--M.O. CHIC
‘ซุปเปอร์ริช 1965’ เตรียมพัฒนาธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้มาตรฐานสากลโลก ภายใต้สโลแกน “Think of Money Exchange Think of SuperRich” รุกตลาดครึ่งปีหลัง ตั้งรับสถานการณ์ค่าเงินยูโรอ่อน เล็งขยายสาขาครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุง
บริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด แย้มภาพรวมความสำเร็จทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2555 อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น เหตุจากการขยายสาขา โดยเฉพาะซุปเปอร์ริช สาขาสีลม อีกทั้งอาจเป็นผลพวงมาจากการเรียกความเชื่อมั่นคืนจากต่างประเทศของรัฐบาลหลังเหตุการณ์มหาอุกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดการลงทุนมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง เผยแผนรุกตลาดของบริษัทฯ ครึ่งปีหลัง ไม่หวั่นกับสถานการณ์ค่าเงินยูโรอ่อน พร้อมเตรียมขยายสาขาที่ เซ็นทรัล ชิดลมและเซ็นทรัล ลาดพร้าว ครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างสะดวกสบาย และรวดเร็ว คาดครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 50%
นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด เผยถึงภาพรวมธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศของไทยในปัจจุบันว่า “ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศของไทยมีการฟื้นตัวและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา สังเกตได้จากการขยายตัวของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งดูได้จากสถิติการใช้สนามบินนานาชาติ 6 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ ภูเก็ต แม่ฟ้าหลวง ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่และสุวรรณภูมิ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 54 — พ.ค. 55) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยกว่า 47.74 ล้านคน โดยการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ได้คาดการณ์ล่วงหน้าว่าภายในสิ้นปี 2555 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 71 ล้านคน ทั้งนี้เนื่องมาจากชัยภูมิทางด้านการท่องเที่ยวของไทยถือเป็นหนึ่งไม่แพ้ที่ใดในโลก อีกทั้งกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยก็เพิ่งได้รับรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก (World Best Award 2011) โดยผู้อ่านนิตยสาร Travel & Leisure ซึ่งน่าจะส่งผลให้มีเงินตราต่างประเทศสกุลต่างๆหมุนเวียนในระบบการเงินของประเทศเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”
สำหรับภาพรวมความสำเร็จของบริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด โดยเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2555 ที่ผ่านมา นายปิยะ กล่าวให้ความเห็นว่า “โดยภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก 1) วิสัยทัศน์ และกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งเน้นในเรื่องของการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการให้เข้าถึงการบริการของซุปเปอร์ริช 1965 ได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการลงทุนขยายสาขาใหม่ของซุปเปอร์ริชบนถนนสีลม ซึ่งใช้ชื่อเป็นทางการว่า ‘ซุปเปอร์ริช 1965 สาขา สีลม’ รวมทั้งการขยายสาขาอื่นๆ ที่กระจายอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ 2) อาจเป็นผลพวงมาจากการเรียกความเชื่อมั่นคืนจากต่างประเทศของรัฐบาลหลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดการลงทุนมีความคึกคักและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา”
“ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่านักท่องเที่ยวจากยุโรปจะลดลง จากปัญหาเศรษฐกิจยูโรโซน แต่ในทางกลับกันบริษัทฯ กลับมองเห็นโอกาสในกลุ่มประเทศเอเชียด้วยกันเองจะปรับตัวในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียหายต่อบริษัทฯ มากนัก โดยบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งเน้นในเรื่องของการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว หรือติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ รวมทั้งลูกค้าชาวต่างชาติ ให้เข้าถึงการบริการของซุปเปอร์ริช 1965 ได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการขยายสาขาใหม่ที่ เซ็นทรัล ชิดลมและเซ็นทรัล ลาดพร้าว เพื่อให้ครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งบริษัทฯ ใช้งบลงทุนในการขยายสาขา รวมทั้งจัดสรรงบประมาณทางการตลาดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัทฯ แก่กลุ่มเป้าหมายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กร โดยมีการจัดอบรมเพื่อเพิ่มทักษะความรู้และความชำนาญโดยเน้นในส่วนการบริการด้วยความซื่อสัตย์เป็นหลักให้แก่พนักงานอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งในอนาคตบริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะรับคนพิการเข้าทำงานในบริษัทฯ เพื่อเป็นการมอบโอกาสที่ดีให้แก่ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งเป็นการตอบแทนและคืนสิ่งดีๆ สู่สังคมได้ทางหนึ่งอีกด้วย”
“จากแผนการดำเนินงานที่กล่าวมาข้างต้น กอรปกับความเชื่อมั่นในสโลแกนที่ว่า “Think of Money Exchange Think of SuperRich” บริษัทคาดหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมทั้งบริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะก้าวสู่ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้มาตรฐานสากลทันเวลากับการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และได้รับการยอมรับจากทั้งในประเทศและต่างประเทศในอีก 1 ปี ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน นายปิยะ กล่าวสรุป