กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ หรือ UAC ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการจำหน่าย ก๊าซ CNG ( Compressed natural gas) จากโครงการผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ในเขตจังหวัดสุโขทัย ให้กับ บมจ.ปตท.(PTT) จำนวน 1 หมื่นตันต่อปี ด้าน “ กิตติ ชีวะเกตุ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ระบุ เตรียมทยอยส่งมอบก๊าซ ตั้งแต่ปลายไตรมาส1/2556 เป็นต้นไป ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อปี
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน) หรือUAC ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายสารเคมี ที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และ ปิโตรเคมี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อซื้อขายก๊าซCNG (Compressed natural gas) ในโครงการผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ที่ จังหวัดสุโขทัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่มีการเซ็น MOU ระหว่าง ปตท.กับ UAC คือการเจรจาราคาซื้อขายก๊าซ รวมถึงการกำหนดระยะเวลาในการซื้อขายก๊าซดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะราคาสรุปราคาซื้อขายได้เร็วๆนี้ โดยบริษัทฯจะจัดจำหน่ายก๊าซ ให้กับทาง ปตท.จำนวน 1 หมื่นตันต่อปี และจะเริ่มส่งมอบในเชิงพาณิชย์ได้ในปลายไตรมาส1/2556 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีรายได้เฉลี่ยจากโครงการดังกล่าว เฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อปี
“ โครงการดังกล่าว บริษัทฯได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับ บริษัทต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทฯที่ได้รับสัมปทานในการขุดเจาะน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ ในเขตจังหวัดสุโขทัย หลังจากนั้น บริษัทฯได้มีการศึกษาแผนทั้งหมด เริ่มออกแบบการก่อสร้าง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และมีการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างแบบ turn-key และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนสิงหาคมนี้ โดยใช้งบประมาณก่อสร้าง เพื่อใช้ในโครงการ ทั้งหมดประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน 400 ล้านบาท และจากกระแสเงินสด 200 ล้านบาท โดยโครงการนี้ จะแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ได้ในปลายไตรมาส1/2556 เป็นต้นไป”นายกิตติ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในการขยายการลงทุนไปยังอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน และกิจการสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน จากความต้องการใช้พลังงาน ภายในประเทศที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต โดยการกระจายแหล่ง และประเภทพลังงาน ให้มีความหลากหลายเหมาะสม และยั่งยืนในระยะยาว
“ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และนโยบายการสนับสนุนด้านพลังงานของรัฐบาล รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนการบริหารเงินทุนของบริษัทฯ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯ ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จึงเล็งเห็นถึงการดำเนินโครงการ โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่นำก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตปิโตรเลียมของฐานผลิตบูรพา-เอ มาแปรสภาพให้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ ” นายกิตติ กล่าว