กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--พม.
พม. จัดงาน ”ครบรอบ ๑๐ ปี วันสตรีไทย ประจำปี ๒๕๕๕”ภายใต้แนวคิด “๑๐ ปี วันตรีไทย : พึงทำหน้าที่ของแม่ให้สมบูรณ์ แม่บ้านให้ดีรักษาเอกลักษณ์ความเป็นสตรีไทย และพึงฝึกฝนตนเอง”
เมื่อวันที่ ๑ ส.ค.๕๕ เวลา ๑๖.๐๐ น. ที่ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสร็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี ๒๕๕๕” ภายใต้แนวคิด “๑๐ ปี วันตรีไทย : พึงทำหน้าที่ของแม่ให้สมบูรณ์ แม่บ้านให้ดี รักษาเอกลักษณ์ความเป็นสตรีไทย และพึงฝึกฝนตนเอง” โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เฝ้าฯรับเสด็จ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า วันที่ ๑ สิงหาคมของทุกปีเป็น “วันสตรีไทย” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้และทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหน้าที่ของสตรีไทย ในโอกาสวันสตรีไทย เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๖ โดยเน้นหน้าที่หลัก ๔ ประการ คือ พึงทำหน้าที่ “แม่” ให้สมบูรณ์ พึงทำหน้าที่ของ “แม่บ้าน” ให้ดี พึง “รักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย” มีความนุ่มนวล อ่อนโยน สุภาพ เมตตา และยิ้มแย้มแจ่มใส และพึง “ฝึกฝนตนเอง” ให้มีความรู้ความสามารถ ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย และรักษา ความสามัคคีในหมู่คณะให้มั่นคง รวมถึงการช่วยรักษาและเชิดชูเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้สืบทอดไปยังอนุชนรุ่นต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมจัดกิจกรรม เนื่องในโอกาสวันสตรีไทยมาโดยตลอด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อ ให้สังคมได้ตระหนักถึงบทบาท ความรู้ ความสามารถของสตรีไทย และเพื่อให้สตรีไทยได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ความรู้ ความสามารถ ผลงานที่เกิดจากภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสตรีไทย รวมถึงบทบาทของสตรีไทยด้านต่างๆ และเนื่องจากในปีนี้ ครบรอบ ๑๐ ปี วันสตรีไทย ทางสภาสตรีแห่งชาติฯจึงจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยจัดโครงการ “สตรีไทยดีเด่น” เพื่อสรรหาสตรีไทยผู้มีคุณสมบัติดังพระราชดำรัส และเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่น สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่สังคมประเทศชาติ สมควรแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติประกาศเกียรติคุณของสตรีให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน รับมอบเข็มเชิดชูเกียรติสตรีไทยดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๕ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ จำนวนทั้งสิ้น ๑๘๐ คน
นายสันติ กล่าวต่อว่า ในวโรกาสปีมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา และในโอกาสที่วันสตรีไทยปีนี้ ครบรอบ ๑๐ ปี วันสตรีไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯในฐานะองค์กรหลักภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสถานภาพ และพัฒนาศักยภาพสตรีไทยในมิติต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นกรอบการดำเนินงาน เพื่อการส่งเสริมสตรีไทยให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีความมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการสร้างสังคมแห่งความเสมอภาค และเป็นธรรม นอกจากนี้ ได้ผลักดันให้มีแผนพัฒนาสตรีภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ — ๒๕๕๙) เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมดำเนินการให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ ๑) การเสริมสร้างเจตคติและการยอมรับด้านความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ๒) การพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมของสตรีไทย ๓) การพัฒนาสุขภาวะ คุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิต ๔) การพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมทางการเมือง การบริหารและการตัดสินใจในระดับต่าง ๆ และ ๕) การเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพกลไกและองค์กรสตรีทุกระดับ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสมดุลในการพัฒนาประเทศ โดยประชาชนชาวไทยทั้งหญิงและชาย ที่อาศัยอยู่ในประเทศและต่างประเทศ ย่อมที่จะได้รับโอกาสและผลประโยชน์ต่างๆอย่างเป็นธรรม รวมถึงการสร้างโอกาส การพัฒนาศักยภาพ การเพิ่มโอกาสทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับสตรี รัฐบาลจึงมีการจัดตั้ง“กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี”ขึ้น เพื่อใช้ในการสร้างสรรค์พลังสตรีให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศได้เคียงบ่าเคียงไหล่กับบุรุษด้วยทางหนึ่ง
นายสันติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆมากมาย ได้แก่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นิทรรศการมีชีวิตเกี่ยวกับหน้าที่ของสตรีไทยที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาพระราชทานไว้ ๔ ประการ คือ ประการที่ ๑ พึงทำหน้าที่ “แม่” ให้สมบูรณ์ ประการที่ ๒ พึงทำหน้าที่ของ “แม่บ้าน” ให้ดี ประการที่ ๓ พึง “รักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย” และประการที่ ๔ พึง “ฝึกฝนตนเอง” รวมทั้งนิทรรศการการดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และสภาสตรีแห่งชาติฯ ตลอดจนประวัติและผลงานของสตรีไทยดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๕ และบูธของหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน