กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ครบเครื่องเรื่อง e-Commerce : สร้างธุรกิจ ได้ภายในวันเดียวกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แนะ SMEs ใช้การซื้อ-ขายออนไลน์ขยายตลาดและฐานลูกค้า หวังให้เกิดการเชื่อมโยงทางธุรกิจ พร้อม ตอกย้ำ! ความน่าเชื่อถือแก่ผู้ขาย และสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อ ด้วยการออกเครื่องหมายรับรอง DBD Registered และ DBD Verified ดันธุรกิจออนไลน์เติบโตเต็มที่ด้วยพลังเครือข่ายพันธมิตร เพื่อพัฒนาธุรกิจe-Commerce ไทยแบบครบวงจร โดยเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการในงาน DBDe-Commerce Fair 2012
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับหน่วยงานพันธมิตร 9 หน่วยงาน และประธานเปิดงาน DBD e-Commerce Fair 2012 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า “ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาและสถานที่ ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถติดต่อค้าขายกันได้ตลอดเวลา ตนในฐานะกำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงมอบนโยบายให้เร่งผลักดันธุรกิจ e-Commerce ให้เป็นธุรกิจดาวเด่น เพื่อเป็นตัวช่วยผู้ประกอบการ SMEs ในการขยายตลาดและฐานลูกค้า พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มและลดต้นทุน รวมทั้งเร่งส่งเสริมให้ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจนำระบบ e-Commerce ไปใช้ “เปิดร้านค้าออนไลน์” เพื่อสร้างรายได้ และสร้างโอกาสในการเป็นเจ้าของกิจการมากขึ้น”
“นอกจากนี้กรมฯ ยังได้เร่งผลักดันให้ธุรกิจ e-Commerce ไทยเป็นธุรกิจที่น่าเชื่อถือ พร้อมกับสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ด้วยการออกเครื่องหมาย DBD Registered ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองว่าเว็บไซต์นั้นได้จดทะเบียนและผ่านการประเมินตามเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อยืนยันการมีตัวตนอยู่จริงของผู้ขายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล”
“สำหรับรายใดที่มีศักยภาพสูงมากขึ้น กรมฯ ก็จะตอกย้ำความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจออนไลน์มากขึ้น ด้วยการออกเครื่องหมาย DBD Verified ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาจะเป็นเกณฑ์ซึ่งอ้างอิงมาจากมาตรฐานระหว่างประเทศที่มีการใช้ใน 27 ประเทศครอบคลุมทวีปเอเชีย ยุโรป ละตินอเมริกา หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Verified เป็นเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานคุณภาพเทียบเคียงระดับสากลเลยทีเดียว
จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 31 กรกฎาคม 2555) มีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered แล้วจำนวน 10,158 เว็บไซต์ และได้รับเครื่องหมาย DBD Verified แล้วจำนวน 156
เว็บไซต์ ดังนั้น ผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ขอให้สังเกตดูเครื่องหมาย DBD Registered และ DBD Verified เป็นหลัก โดยเมื่อผู้ซื้อ Click ที่เครื่องหมายดังกล่าวฯ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบฐานข้อมูลของกรมฯ และปรากฏข้อมูลทางทะเบียนของผู้ขายเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ” ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้มากขึ้นว่า “ได้ซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซต์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีตัวตนอยู่จริง และเชื่อถือได้” ส่วนผู้ขายหรือเจ้าของเว็บไซต์ ก็ขอเชิญชวนให้มาแสดงตัวตนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของตน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ โดยหากผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดพื้นฐาน ก็จะได้รับเครื่องหมาย DBD Registered และหากผ่านเกณฑ์การประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ก็จะได้รับเครื่องหมาย DBD Verified ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเว็บไซต์ เมื่อผู้ซื้อมีความมั่นใจในเว็บไซต์มากขึ้น ก็จะส่งผลต่อยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน”
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธุรกิจ e-Commerce เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) ผู้ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย หรือ Web Hosting ผู้ให้บริการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Marketplace ผู้ให้บริการชำระเงิน หรือแม้แต่ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ดังนั้นจึงต้องมีความร่วมมือกัน ทั้งระหว่างธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกัน หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ e-Commerce ไทยอย่างครบวงจร จึงเป็นที่มาของการจัดงาน DBD e-Commerce Fair 2012 และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานพันธมิตรทั้ง 9 หน่วยงาน คือ 1) ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 2) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 3) สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) 4) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) 5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 6) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 7) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 8) สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และ 9) สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย
ในวันนี้การจัดงาน DBD e-Commerce Fair 2012 ในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่จะเป็น “ก้าวเริ่มของเครือข่ายพันธมิตรในการขับเคลื่อนธุรกิจ e-Commerce ไทยให้เข้มแข็ง ก้าวไกลสู่สากลร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เท่านั้น ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ได้พบปะกัน ทำให้ทราบถึงความคืบหน้าในแวดวงธุรกิจออนไลน์ มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์ หรือเชื่อมโยงธุรกิจกัน ขณะเดียวกัน ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจ ก็จะได้รับความรู้ด้าน e-Commerce พร้อมขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และใช้บริการจากธุรกิจที่มาร่วมออกงาน ทำให้มีตัวช่วยในการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”
ที่มา : สำนักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์