เจ เจ แลนด์ เดเวลลอปเม้นท์ ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท สร้าง "ไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค" ศูนย์กลางไอทียิ่งใหญ่ชั้นำทันสมัยครบวงจรแห่งใหม่ย่านหลักสี่

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday July 28, 2004 15:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์
เจ เจ แลนด์ เดเวลลอปเม้นท์ เล็งแนวโน้มธุรกิจไอทีสดใส ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ "ไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค" ย่านหลักสี่ ภายใต้การสนับสนุนของ 3 กระทรวงใหญ่ คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และไอซีที หวังให้เป็นศูนย์กลางไอทีครบวงจรที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยชั้นนำของประเทศ ชูจุดเด่นเป็นศูนย์ไอทีที่จัดโซนนิ่งสินค้าอย่างเป็นระเบียบชัดเจน ง่ายต่อการช้อปปิ้ง ศูนย์อาหาร ตลอดจนร้านสินค้าแบรนด์เนม พร้อมการคมนาคมที่สะดวกจากทุกสารทิศ และมีที่จอดรถกว้างขวางรองรับได้ถึง 1,800 คัน พร้อมเปิดขายพื้นที่เกือบ 40,000 ตารางเมตร และดึง "ไอทีซิตี้" ของแจ็คมินทร์ อิงค์ ธเนศ เข้าซื้อพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
นางสาวอรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เจ เจ แลนด์ เดเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจศูนย์การค้าเฉพาะด้านไอที มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก และการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยจากรายงานภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยจากรายงานภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยฉบับปี 2546 (Thailand ICT Market Outlook 2003) พบว่าในปี 2546 มูลค่าตลาดของสินค้าไอทีในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 79,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่เท่ากับ 71,153 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12.04 จากการจัดตั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทำให้มีหน่วยงานของรัฐบาลที่เข้ามาดูแลการใช้ไอทีในประเทศโดยตรง
จากการประมาณการตลาดไอทีโดยรวมจากบริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช ภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยช่วงปี 2546 จากนโยบายส่งเสริมการใช้ไอทีของภาครัฐและการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้มูลค่าตลาดไอทีรวมอยู่ที่ประมาณ 85,500 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที) และคาดว่าในปี 2547 จะเติบโตประมาณร้อยละ 15.90 อยู่ที่ประมาณ 99,100 ล้านบาท จึงส่งผลบวกต่อการตั้งศูนย์การค้าไอทีครบวงจร ดังนั้น บริษัทตัดสินใจดำเนินการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค ขึ้นในพื้นที่ย่านหลักสี่ เพื่อเป็นศูนย์ไอทีที่ครบวงจรและทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดไอทีที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ โครงการไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก 3 กระทรวงใหญ่ คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และไอซีที ด้วยการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ซอฟต์แวร์ปาร์ค) ขึ้นภายในโครงการไอทีสแควร์ มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท และบริษัทได้เริ่มเปิดขายพื้นที่ในโครงการซึ่งมีประมาณเกือบ 40,000 ตารางเมตร แล้ว โดยแบ่งสัดส่วนของการขายพื้นที่รวมทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า สินค้าไอที ศูนย์อาหาร ร้านค้าสินค้าแบรนด์เนม ร้านหนังสือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถาบันการเงิน และ ฯลฯ โดยแยกเป็นโซนนิ่งชั้นต่างๆ ได้แก่ ชั้น G เป็นส่วนของร้านอาหาร Food Court, Fast Food, International Food มีพื้นที่ขายรวม 6,093 ตารางเมตร ชั้น 1 เป็นร้านโทรศัพท์มือถือ ร้านค้า E-Life บางส่วนอาจเป็นสาขาของธนาคารและห้องตลาดหลักทรัพย์ พื้นที่ขาย 4,153 ตารางเมตร ชั้น 2-3 ขายเหมาพื้นที่ทั้งหมดเป็นส่วนของศูนย์ไอทีที่ทันสมัยพื้นที่ประมาณ 17,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ แยกเป็นพื้นที่ของเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ซอฟต์แวร์ปาร์ค) ประมาณ 10,000 ตารางเมตร สำหรับ ชั้น 4-12 เป็นสำนักงานให้เช่าพื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างตกแต่งให้ทันสมัย คาดว่าจะแล้วเสร็จเป็นอาคารไอทีที่สมบูรณ์แบบและพร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงประมาณต้นปี 2548 นี้ โดยมีทีมผู้บริการโครงการ ประกอบด้วย บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาโครงการ บริษัท อาเชอร์ อาคิเทค จำกัด เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรม บริษัท สตูดิโอ ฟิฟตี้โฟร์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายใน และบริษัท พีเอ ลินน์ ฟิลลิปส์ จำกัด เป็นผู้บริหารการขายและบริหารอาคาร
นางสาวอรวรรณกล่าวต่อไปว่า จุดเด่นของ "ไอที สแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค" คือ เป็นศูนย์กลางของสินค้าไอที ที่มีการจัดโซนนิ่งอย่างเป็นระเบียบระหว่างสินค้าต่างๆ อย่างชัดเจน ทำให้สะดวกแก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้งยังเป็นแหล่งแห่งการช้อปปิ้งที่สามารถรองรับครอบครัวได้ทุกระดับ ภายในโครงการยังได้เน้นการออกแบบให้แตกต่างจากศูนย์การค้าแห่งอื่น โดยเป็นการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Technology and Mechanic Life Style Neo Space ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไอทีสแควร์ที่ทันสมัยในบรรยากาศเสมือนอยู่ในโลกแห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ศูนย์ไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค ได้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคด้วยการอำนวยความสะดวกในการจอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง 1,800 คัน รวมถึงความปลอดภัยในลานจอดรถ
"ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ จุดเด่นของที่ตั้งโครงการ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกถนนแจ้งวัฒนะตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้บริการอย่างกว้างขวางได้แก่ เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตบางเขน และเขตนนทบุรี ต่อเนื่องถึงปทุมธานีด้วย และในพื้นที่ย่านนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนที่มีศักยภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ บริษัทเอกชนต่างๆ รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรอีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันในอนาคต ยังมีโครงการต่างๆ ที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในย่านนี้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้นในแง่ของผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ เป็นต้นว่า โครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ การพลิกฟื้นโครงการใหญ่ขึ้นมาใหม่ เช่น โครงการเมืองทองธานี ส่วนทางด้านการคมนาคมนั้นก็มีความสะดวก อยู่ใกล้กับดอนเมืองโทลเวย์ ทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งไอทีสแควร์ได้ทุ่มงบลงทุนในการปรับผังจราจรให้สะดวกสบายแก่ผู้มาใช้บริการมากขึ้น ด้วยการจัดให้มีทางเข้า-ออก เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดีรังสิต และสามารถใช้ทางเชื่อมระหว่าง Local Road กับถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณหน้าวัดหลักสี่ได้ด้วย เราจึงมั่นใจว่าจะมีประชาชนในย่านดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ไอทีสแควร์เป็นจำนวนมาก"
นางสาวอรวรรณ กล่าวว่า สำหรับยอดขายโครงการนั้น ได้ตั้งเป้ายอดขายพื้นที่ ในโครงการไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค ประมาณ 1,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปีภายใต้การเซ้งสิทธิ์ และมั่นใจว่าจากศักยภาพและความโดดเด่นของโครงการไอที สแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์คจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าไอทีเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในเดือนตุลาคม 2547 นี้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ ผู้ประกอบธุรกิจด้าน Information Technology & Communication ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ และผู้ประกอบธุรกิจด้านอื่นๆ เช่น อาหาร, E-life ที่ต้องการเปลี่ยนแนวความคิดให้เป็นทันสมัย มีระบบการจัดการแบบใหม่ ทั้งนี้ ล่าสุดนอกเหนือจากลูกค้ารายใหญ่ คือ โครงการซอฟต์แวร์ปาร์ค ได้จองพื้นที่ในโครงการแล้ว ยังมีโครงการไอทีซิตี้ ของนายแจ๊ค มินทร์ อิงค์ ธเนศ ซึ่งได้จองพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร และคาดว่าหลังเปิดขายพื้นที่อย่างเป็นทางการจะสามารถปิดการขายได้ตามเป้าที่วางไว้
"สำหรับงบประมาณทางการตลาดที่ใช้ทั้งหมดในช่วงเริ่มต้น เป็นจำนวนประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับแผนการดำเนินงานทางการตลาดของโครงการไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค นั้นจะเน้นการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งใช้งบประมาณ 2-3% ของรายได้รวม พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายใน Promotion Area & Convention Hall อย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคเทคโนโลยี ทั้งนี้สำหรับกลยุทธ์ในการขาย และโปรโมชั่นในช่วงเปิดขาย นั้น จะสร้างศูนย์การค้านี้ให้เป็นศูนย์ไอทีโดยจับมือกับกลุ่ม supplier รายใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับไอทีเป็นแห่งแรก" นางสาวอรวรรณกล่าว
นางสาวอรวรรณกล่าวต่อไปว่า นอกจากการขายพื้นที่โครงการไอทีสแควร์ ซอฟต์แวร์ปาร์ค แล้ว ทางบริษัท เจ เจ แลนด์ฯ ยังอยู่ระหว่างเปิดขายพื้นที่โครงการเอสวีโอเอ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสูง 36 ชั้น บนถนนพระราม 3 พื้นที่ 22,158 ตารางเมตร ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วกว่า 90% โดยอาคารดังกล่าวบริหารการขายและบริหารอาคารโดยบริษัท พีเอ ลินน์ ฟิลลิปส์ จำกัด
ในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ Sun City Golf & Country Club ที่จังหวัดเชียงราย พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ บริเวณตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2548 และมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอาคารจอดรถย่านถนนรัชดาภิเษาและเยาวราช รวมทั้งมีแผนงานที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์: เจ.วอลเตอร์ ธอมสัน
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ โทร. 0-2260-0820 ต่อ 2193 โทร. 0-9127-2089
และคุณพรทิภา อยู่แสง โทร. 0-2260-0820 ต่อ 3142 โทร. 0-1813-4429--จบ
--อินโฟเควสท์ (กภ)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ