กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทยเตรียมเร่งเครื่องปล่อยกู้เอสเอ็มอีครึ่งปีหลัง หวังทะลุเป้าโตเกิน 15% จากครึ่งปีแรกปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท โต 7.26% เตรียมออกบริการสินเชื่อใหม่เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย และสร้างลูกค้าขนาดกลางเป็นสมาร์ท เอ็นเตอร์ไพรส์
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพาณิชยบรรษัทธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะเร่งทำการตลาดในการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้น หลังจากในครึ่งปีแรก ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีไปแล้ว 242,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมา 16,450 ล้านบาท หรือขยายตัว 7.26% ในขณะที่ทั้งระบบขยายตัวประมาณ 5% จากเป้าหมายทั้งปีที่ธนาคารตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายตัวประมาณ 15% ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากวัฏจักรของธุรกิจจะขยายตัวในครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้สินเชื่อเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังเป็นการขยายตัวในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพฯ โดยจะอยู่ในภาคการค้าที่มียอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคการผลิตเพิ่มประมาณ 2,600 ล้านบาท ในขณะที่ถ้ามองในหมวดอุตสาหกรรมแล้ว อุตสาหกรรมข้าวจะมียอดสินเชื่อเพิ่มมากที่สุด ตามด้วยอุตสาห- กรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเอ็นพีแอลอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 0.8% เท่านั้น
ด้านนายพิพิธ เอนกนิธิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์สินเชื่อวิภัชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ใน ครึ่งปีหลังคาดว่าการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีจะแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ในขณะที่ลูกค้าก็มีความต้องการใช้บริการสินเชื่อเพื่อขยายกำลังการผลิตมากขึ้น ตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารกสิกรไทยก็เตรียมออกบริการสินเชื่อใหม่ ๆ สำหรับกลุ่มลูกค้าขนาดย่อมที่มียอดขายต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อปี หลังจากที่ออกบริการสินเชื่อหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสินเชื่อมินิ ช็อปไปแล้ว
โดยธนาคารจะออกบริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจอัญมณี สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท สินเชื่อเพื่ออุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ซึ่งธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้ไว้ 600 ล้านบาท และกำลังศึกษาที่จะออกบริการสินเชื่อเครดิต พลัส (Credit Plus) และสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ นอกจากนั้นจะเริ่มนำ Credit Scoring มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อกลุ่มลูกค้าขนาดย่อมให้ได้มาตรฐานและรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สามารถพิจารณาเครดิตได้ภายใน 1 วัน
กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลังได้แก่ กลุ่มเคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ อาหาร และการท่องเที่ยว
สำหรับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางที่มียอดขาย 50-400 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านธนาคารพบว่า มีการพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้จัดโครงการ SMEs Academy ขึ้น เพื่อสร้างสมาร์ท เอ็นเตอร์ไพรส์ (Smart Enterprise) ในปีนี้ประมาณ 650 ราย โดยจะมีการอบรมให้ความรู้ในการทำธุรกิจเชิงลึก ให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด ขยายเครือข่ายเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งการพัฒนากลุ่มสมาร์ท เอ็นเตอร์ไพรส์ จนเป็นเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพสูงได้จะช่วยเพิ่มธุรกรรมกับธนาคาร ที่มีเป้าหมายให้กลุ่มลูกค้าใช้บริการธนาคารอย่างครบวงจรทั้ง 4 ด้าน คือ บริการด้านสินเชื่อ (Credit) บริการด้านการจัดการทางการเงิน (Cash Management) บริการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) และบริการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน (Treasury Risk Management)
ส่วนกลุ่มลูกค้าที่มียอดขายต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อปี ธนาคารใช้เทคนิคการขายด้วยทีมขายตรงเสนอบริการให้ลูกค้าถึงที่ การใช้ไดเร็คเมล์เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม การจัดสัมมนา “คู่ค้า คู่คิด...ธุรกิจเข้มแข็ง” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเชิญคู่ค้าเข้าร่วมสัมมนาได้อีกด้วย ภายใต้แนวคิด “Member get member” ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
รังษี บูรณประภาพงศ์
ฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมงานบริหารองค์การ ธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ 0 2470 2655 โทรสาร 0 2470 2746
e-mail: rungsee.b@kasikornbank.com
www.KASIKORNBANK.com--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--