กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--กทม.
ประธานกทม.ชี้แจงกรณีครม.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนมีมติให้เลือกประธานสภาฯ ใหม่ควรฟังความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความไว้ชัดเจนว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มุ่งเน้นให้ท้องถิ่นเป็นอิสระ รัฐจะต้องเข้ามากำกับเท่าที่จำเป็นและกฎหมายบัญญัติเท่านั้น
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.47 เวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา ที่หน้าห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร นายธนา ชีรวนิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสกุล โตโสภณ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชัน นางผุสดี วงศ์กำแหง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตราชเทวี นายจักรพันธ์ พรนิมิตร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด และนางสาวพรพิมล คงอุดม สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ ร่วมแถลงข่าว กรณีการเลือกตั้งประธานสภากทม.ที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือมายังสภากทม.เมื่อวันที่ 26 ก.ค.47 แจ้งให้สภากรุงเทพมหานครดำเนินการเลือกประธานสภากรุงเทพมหานครให้ถูกต้องตามกฏหมายหรือระเบียบข้อบังคับ
ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจทำให้เกิดความสับสน ในฐานะที่ตนเป็นประธานสภากรุงเทพมหานครมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเนื่องจากเรื่องนี้เป็นประเด็นทั้งเรื่องข้อกฎหมายและมีรายละเอียดที่ต้องชี้แจงมาก โดยสืบเนื่องจากที่ได้มีการร้องเรียนโดยสมาชิกสภากรุงเทพมหานครไปที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่คณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะกรรมการฯสอบสวนแล้วมีความเห็นว่าเห็นควรให้มีการเลือกตั้งประธานสภากรุงเทพมหานครขึ้นใหม่ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าจะมีปัญหาด้านข้อกฎหมายจึงได้ส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดดังกล่าว มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน
ทั้งนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้สรุปการพิจารณาและส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยมีสาระสำคัญว่า การใช้อำนาจใด ๆ ของรัฐในฐานะผู้ควบคุมดูแลการปฏิบัติราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องอยู่ภายในกรอบแห่งรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ ต้องกระทำเท่าที่จำเป็นและตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยกฤษฏีกาตีความไว้ชัดเจนว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นมุ่งเน้นที่จะให้ท้องถิ่นมีความเป็นอิสระ รัฐจะต้องเข้ามากำกับเท่าที่จำเป็นและกฎหมายบัญญัติเท่านั้น
ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า การประชุมสภากรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.47) มีการพิจารณาเรื่อง ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2548 จะมีการนำเรื่องนี้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมเพื่อให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมกันพิจารณา ซึ่งส.ก.ทั้ง 61 คน เป็นสภานิติบัญญัติมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และก็เป็นโอกาสให้สมาชิกทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้สมาชิกฯจะออกมาพิจารณาด้วยเหตุและผลเพื่อที่จะดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อให้ความจริงได้ปรากฎว่าสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้สรุปความเห็นนั้นมีความถูกต้องอย่างไร--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--