กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
นิคอน ประกาศเปิดตัว นิคอน วัน J2 กล้องรุ่นที่สองในตระกูล นิคอน วัน J-series กล้องดิจิตอลอัจฉริยะแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การเก็บภาพประทับใจรูปแบบใหม่ โดยกล้องนิคอน วัน J2 ได้รับการปรับเปลี่ยนในด้านรูปลักษณ์ภายนอกและการใช้งาน
กล้อง นิคอน วัน นำเสนอประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือชั้น และการสร้างสรรค์ประสบการณ์การถ่ายภาพในรูปแบบใหม่ ที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น นอกจากความรวดเร็วในการถ่ายภาพที่ได้จากระบบไฮบริดออโต้โฟกัสที่ทันสมัย ที่มาพร้อมกับเมาท์เลนส์ Nikon1 ที่มีความกระทัดรัด น้ำหนักเบา นอกเหนือไปจากนั้น กล้องนิคอน วัน ยังมีฟังก์ชั่นภาพนิ่งเคลื่อนไหว (Motion Snapshot — MSS) และ ฟังก์ชั่นเลือกภาพถ่ายอัจฉริยะ (Smart Photo Selector — SPS) ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับให้แก่ผู้ใช้งาน
นอกจากฟังก์ชั่นการทำงานประสิทธิภาพสูงที่มีอยู่ในกล้องนิคอน วันรุ่นแรกแล้ว นิคอน วัน J2 ยังได้รับการปรับปรุงใหม่ในด้านการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกและการใช้งาน โครงสร้างตัวกล้องผลิตด้วยโลหะสวยหรู มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ตามความเหมาะสมกับแต่ละบุคลิกของผู้ใช้งาน โหมด Creative ถูกเพิ่มเติมเข้ามา จากเดิมที่มีโหมดบันทึกภาพอยู่เพียงสี่โหมด โดยโหมดการถ่ายภาพนี้ ทำให้สามารถเลือกระบบบันทึกภาพสำหรับฉากที่ต้องการถ่ายได้อย่างง่ายดาย โดยมีทั้งหมด 8 รูปแบบด้วยกัน เช่น ภาพทิวทัศน์กลางคืน เป็นต้น นอกจากนี้ J2 ยังสามารถเปิดและปิดได้จากปุ่มที่ใช้สำหรับยืดและหดเลนส์ ขณะที่จอภาพก็ได้รับการปรับเป็นจอขนาดความละเอียด 921k-dot
J2 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่มองหากล้องประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย และยังเป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งานกล้องดิจิตอลคอมแพคท์ที่เคยชินกับกล้องที่ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก และต้องการพัฒนามาใช้ระบบกล้องดิจิตอลอัจฉริยะแบบเปลี่ยนเลนส์ได้
นิคอนยังได้เปิดตัวเลนส์ซูมมาตรฐาน 1 NIKKOR 11-27.5mm f/3.5-5.6 2.5x สำหรับฟอร์แมท CX ซึ่งจะมาพร้อมกับกล้องรุ่น J2 อีกด้วย เลนส์ตัวใหม่นี้ ครอบคลุมทางยาวโฟกัส 11-27.5 มม. (เทียบเท่า 30-74มม. สำหรับกล้องฟิล์ม 35มม. [135]) เลนส์ 1 NIKKOR 11-27.5mm f/3.5-5.6 2.5x ยังมีขนาดเล็กและเบากว่าเลนส์ซูมมาตรฐาน 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6 รุ่นปัจจุบัน จึงพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นิคอนยังได้เปิดตัวเคสกันน้ำชุดใหม่รุ่น WP-N1 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับกล้อง นิคอน วัน J1 และ J2 (ที่ใช้เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6) เคสกันน้ำนี้ ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดโอกาสในการเก็บภาพประทับใจแม้อยู่ใต้น้ำ โดยสามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงสุดได้ขณะบันทึกภาพยนตร์
คุณสมบัติพื้นฐานของกล้อง นิคอน วัน J2
1.ระบบออโต้โฟกัส (AF) ที่มีความเร็วและความละเอียดสูง สำหรับการถ่ายภาพทั้งแบบภาพนิ่ง และวีดีโอ
-ระบบไฮบริดออโต้โฟกัส (AF) ทันสมัย ที่ให้ทั้งความเร็วชัตเตอร์และความละเอียดของภาพอย่างยอดเยี่ยม
ระบบไฮบริดออโต้โฟกัส (AF) ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นการควบรวมการทำงานของระบบโฟกัส 2 ระบบ ได้แก่ ฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจวัดระยะห่าง (Phase-detection AF) ที่โฟกัสวัตถุเคลื่อนไหวได้อย่างฉับไว และฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจวัดคอนทราสต์ (Contrast - detect AF) ซึ่งทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อย โดยกล้องจะเลือกระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เหมาะสมกับวัตถุและสภาพแวดล้อมของฉากที่ต้องการจะถ่าย จึงทำให้สามารถจับจุดโฟกัสได้เสมอ และด้วยความสามารถในการจับจุดโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำนี่เอง ทำให้กล้องนิคอน วัน J2 เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับใช้จับภาพวัตถุเคลื่อนไหว
-ระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง Super high-speed AF CMOS image sensor คือสิ่งที่ทำให้สามารถจับจุดโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและได้ความละเอียดสูง
นอกเหนือจากระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง Super high-speed AF CMOS image sensor จะมีอยู่ในระบบ FX และ DX ที่มีใช้ในกล้องดิจิตอล SLR แล้ว ระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง Super high-speed AF CMOS image sensor ยังมีอยู่ในระบบ CX ของนิคอนได้ด้วย นอกจากนี้ฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจวัดระยะห่าง (Phase-detection AF) ยังถูกติดตั้งมากับระบบโฟกัสอัตโนมัตินี้ด้วย ส่งผลให้ระบบโฟกัสอัตโนมัตินี้มีความเร็วที่สุดในโลก*1 และมีจุดโฟกัสมากที่สุดในโลก*2 หากเทียบกับกล้องรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ด้วยจุดโฟกัสแบบ Phase-Detection ทั้งหมด 73 จุด
ระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง Super high-speed AF CMOS image sensor สามารถรองรับค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 100—3200 โดยสามารถเร่งเพิ่มได้สูงสุดจนถึง Hi1 (เทียบเท่า ISO 6400) เพื่อให้สามารถจับภาพด้วยความไวแสงที่เหนือชั้น นอกจากนี้ ยังทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุด ด้วยอัตราเฉลี่ย 10 ภาพต่อวินาที (fps) สำหรับการถ่ายภาพในโหมด AF และเมื่อมีการล็อคโฟกัส จะสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องที่มีความละเอียดสูงได้ถึง 60 ภาพต่อวินาที (fps)*3 เพื่อให้แน่ใจได้ว่าสามารถจับโฟกัสภาพได้ที่ดีที่สุดภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ของการถ่ายภาพ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับภาพช่วงเวลาที่ไม่คาดฝัน รวมไปถึงการถ่ายภาพ เด็กและสัตว์เลี้ยง ซึ่งมักไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ หรือการถ่ายภาพกีฬาที่มักเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ
1เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีวางจำหน่ายจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2555 โดยข้อความนี้วัดจากประสิทธิภาพในการถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6 ด้วยมุมที่กว้างที่สุด และกำหนดค่า AF ให้เป็นโหมดโฟกัสจุดเดียว ผลการทดสอบที่ได้รับเป็นไปตามแนวปฏิบัติของนิคอน
2แปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีวางจำหน่ายจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2555 โดยอ้างอิงจากจำนวนพื้นที่ที่ครอบคลุมถึง เมื่อมีการตั้งค่าไปที่โหมดออโต้โฟกัสจุดเดียว โดยข้อความนี้ได้จากการวิจัย ซึ่งจัดทำขึ้นโดยนิคอน
3จำนวนภาพที่ได้มากที่สุดต่อการกดชัตเตอร์หนึ่งครั้งคือ 12 อัตราการถ่ายภาพสูงสุดนี้ เมื่อมีการล็อคโฟกัส ผลที่ได้รับ เกิดจากการทดลองของนิคอน ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2555
EXPEED 3 เพื่อความเร็วในการประมวลผลที่มีแต่จะเร็วมากขึ้น
กล้องรุ่น J2 มีเทคโนโลยี EXPEED 3 ซึ่งเป็นตัวประมวลผลภาพความเร็วสูงที่พัฒนาขึ้นโดยนิคอน สำหรับกล้องนิคอน วัน โดยเฉพาะ เพื่อการประมวลผลภาพที่รวดเร็วเหนือระดับ ผู้ใช้จะสามารถสัมผัสถึงประสิทธิภาพการทำงานของ EXPEED 3 ได้อย่างเต็มที่เมื่อใช้โหมดการถ่ายภาพ อย่าง Motion Snapshot หรือ Smart Photo Selector ซึ่งเป็นโหมดการถ่ายภาพที่จำเป็นต้องใช้การประมวลผลภาพความเร็วสูง ไปพร้อมๆ กับความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งที่มีความละเอียดสูงในขณะที่กำลังถ่ายวีดีโอแบบ Full-HD อยู่ด้วย
2.การออกแบบตัวกล้องที่มีความสวยงาม สะดวกพกพาไปทุกที่
-ระบบกล้องที่มีขนาดกะทัดรัด*4 และมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก
นิคอนได้พัฒนาระบบกล้องที่มีขนาดกะทัดรัด4 และมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ขึ้น โดยการใช้เมาท์ของนิคอน วัน ซึ่งระบบการทำงานนนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สนุกกับการถ่ายภาพแบบไร้กังวลได้ในทุกสถานการณ์
4 ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2555 เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นอื่นๆ ที่มีระบบเซ็นเซอร์ในลักษณะเดียวกัน หรือใหญ่กว่าระบบ โดยข้อความนี้ได้จากการวิจัย ซึ่งจัดทำขึ้นโดยนิคอน
-ดีไซน์โครงสร้างโลหะพร้อมผิวสัมผัสใหม่ เพิ่มความหรูหรา
โครงสร้างส่วนประกอบต่างๆ ของกล้องผลิตด้วยโลหะ รวมไปถึงกรอบด้านบนและหน้าปัดเลือกโหมด เพื่อให้ได้สัมผัสที่ดีกว่าและเพิ่มความหรูหราสวยงาม ขณะที่พื้นผิวแบบใหม่ถูกเพิ่มเข้าไปบริเวณด้านหน้าสำหรับกล้องสีชมพูและสีแดงด้วย
-มีให้เลือกถึงหกสี เลือกสรรได้หลากหลายตามใจชอบ
กล้อง J2 มีวางจำหน่ายถึงหกสี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกสีที่เหมาะกับสไตล์เฉพาะตัวของตนเอง นอกจากสีห้าสีที่เคยมีในกล้อง J1 สีที่เพิ่มเข้ามาสำหรับ J2 คือสีส้มสด ขณะที่ด้านหลังของกล้องจะมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม ตามแต่สีที่ผู้ใช้เลือกซื้อ นอกจากนี้กระบอกเลนส์ยังมีสีเดียวกับตัวกล้องเพื่อให้สีของกล้องทั้งตัวมีความกลมกลืนกัน
3.การถ่ายภาพด้วยรูปแบบใหม่
-โหมด Motion Snapshot รวมเอาการถ่ายภาพยนตร์แบบ Full-HD ไปพร้อมๆ กับการถ่ายภาพนิ่ง เพื่อให้สามารถเก็บภาพประทับใจได้เหนือชั้นกว่าเดิม
เพียงกดชัตเตอร์เบาๆ เมื่อใช้โหมด Motion Snapshot ผู้ใช้ก็จะสามารถเก็บภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวประมาณหนึ่งวินาทีช่วงก่อนและหลังที่มีการกดชัตเตอร์ ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกไว้ด้วยโหมด Motion Snapshot จะมีการเล่นย้อนกลับด้วยภาพแบบสโลว์โมชั่นราวๆ 2.5 วินาที ตามด้วยการฉายภาพนิ่ง การเล่นย้อนกลับทั้งซีเควนซ์รวมกับเพลงประกอบที่เลือกไว้ก่อนแล้ว จะมีความยาวทั้งหมดประมาณ 10 วินาที
อย่าเก็บช่วงเวลาประทับใจไว้เพียงภาพนิ่งเท่านั้น เมื่อสามารถใช้การบันทึกภาพรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานระหว่างภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งเข้าด้วยกัน เหมาะอย่างยิ่งเมื่อบันทึกภาพในงานแต่งงานหรืองานวันเกิด หรือเก็บภาพน่ารักๆ ของเด็กแหรือสัตว์เลี้ยงขณะกำลังเล่น หรือแม้แต่เก็บภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ เช่นเมื่อสายลมพัดผ่านต้นไม้ หรือภาพกระแสน้ำ สร้างภาพยนตร์ส่วนตัวของคุณเองด้วยสไลด์โชว์เมื่อเล่นกลับด้วยกล้อง
Motion Snapshot ยังทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพสุดประทับใจหรือภาพถ่ายธรรมดาด้วยการกดปุ่มถ่ายภาพทั่วไป โหมดการถ่ายภาพรูปแบบนี้ ทำให้คุณสามารถสนุกกับการบันทึกภาพที่ผสมผสานระหว่างภาพวีดีโอ ภาพนิ่ง และเพลงประกอบ
-Smart Photo Selector สำหรับการบันทึกภาพช็อตที่ดีที่สุดอย่างง่ายดาย
เมื่อกดชัตเตอร์เพียงครึ่งเดียวในโหมด Smart Photo Selector กล้องก็จะเริ่มจับภาพ จนเมื่อปุ่มชัตเตอร์ถูกกดจนสุด ภาพ 20 ช็อต ในอัตราความเร็วในการบันทึกราว 30 เฟรมต่อวินาที ก็จะถูกบันทึกเอาไว้ หลังผ่านกระบวนการประมวลผล กล้องก็จะลบภาพที่เบลอหรือภาพที่มีองค์ประกอบไม่ครบออกไป และจะเลือกบันทึกภาพที่ดีที่สุดห้าช็อตเอาไว้ในเมมโมรี่การ์ด โดยดูจากการเคลื่อนไหวในภาพและองค์ประกอบภาพ จากทั้งห้าภาพ กล้องก็จะเลือกโชว์ภาพที่ดีที่สุดเพียงภาพเดียวบนหน้าจอ
Smart Photo Selector เป็นโหมดการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพเด็กหรือสัตว์เลี้ยงที่มักเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมักไม่ค่อยอยู่กับที่ หรือเมื่อคุณไม่ต้องการพลาดช็อตที่สมบูรณ์แบบ โหมดการถ่ายภาพนี้ทำให้คุณไม่ต้องคอยกดถ่ายภาพช็อตเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก และช่วยประหยัดพื้นที่ในเมมโมรี่การ์ด โดยลบภาพที่ไม่สวยออก ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องถ่ายภาพเดิมซ้ำหลายครั้งแล้วจึงค่อยมาเลือกภาพที่ดีที่สุดในภายหลัง เพียงกดชัตเตอร์เหมือนปกติ Smart Photo Selector ก็จะทำงานให้คุณ
4.คุณภาพเหนือระดับทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
คุณสามารถบันทึกภาพนิ่งความละเอียดสูง (3840 ? 2160 พิกเซล หรือประมาณ 8.3 ล้านพิกเซล หรือ 16 : 9) ในขณะที่กำลังบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมดภาพยนตร์โดยไม่รบกวนการบันทึกวีดีโอ ทำให้ผู้ใช้สามารถสนุกกับการถ่ายภาพทั้งแบบภาพเคลื่อนไหว Full-HD และภาพนิ่งความละเอียดสูงโดยไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
5.โหมดการใช้งานที่มีการพัฒนาใหม่
-โหมดสร้างสรรค์ภาพ (Creative)
กล้องนิคอน วัน J2 เพียบพร้อมด้วยโหมดการถ่ายภาพอันหลากหลายทั้ง โหมด Motion Snapshot โหมด Smart Photo Selector โหมดภาพอัตโนมัติ โหมดวีดีโอ และล่าสุดกับโหมด Creative ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบบันทึกภาพสำหรับฉากที่ต้องการถ่าย ได้แก่ Night Landscape, Night Portrait, Backlighting, Easy Panorama, Soft, Miniature Effect, Selective Colour และอีก 4 โหมดที่ตั้งก่อนการถ่ายภาพ และยังมีฟังก์ชั่น assist images ที่จะปรากฎที่ให้เห็นเพื่อแสดงภาพตัวอย่างของแต่ละฉากที่อยู่ในโหมดครีเอทีฟ
-รูปแบบการใช้งานต่างๆ
กล้องนิคอน วัน J2 สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพธรรมดาด้วยการเลื่อนปุ่มโหมดการถ่ายภาพไปยังโหมดที่ต้องการ ทั้งยังง่ายดายต่อการใช้งานเนื่องจากปุ่มโหมดการถ่ายภาพและปุ่มคอนโทรลต่างๆของ J2 มีขนาดใหญ่กว่าของรุ่นก่อนๆ นอกจากนี้ J2 ยังสามารถเปิดและปิดได้จากปุ่มที่ใช้สำหรับยืดและหดเลนส์* (retractable lens) เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่องเตรียมพร้อมเพื่อการถ่ายภาพในทุกช่วงโอกาสที่อาจไม่คาดคิดมาก่อน
*สามารถใช้งานร่วมกับ: เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6, 1 NIKKOR VR 30-110mm f/3.8-5.6,
1 NIKKOR 11-27.5mm f/3.5-5.6
-จอแอลซีดีกับความละเอียดที่มากขึ้น
-ในขณะที่กล้องรุ่นก่อนหน้า ซึ่งคือกล้องนิคอน วัน J1 มาพร้อมกับจอแอลซีดีขนาด 3 นิ้ว ขนาดความละเอียดประมาณ 460k-dot สำหรับกล้องนิคอน วัน J2 มาพร้อมจอแอลซีดีขนาด 3 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงขึ้นเป็น 921k-dot แบบมุมมองกว้างเพื่อเพิ่มความคมชัดและการมองเห็น
-ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมอื่นๆของกล้องนิคอน วัน J2
-รองรับอุปกรณ์เสริมเมาท์อะแดปเตอร์ FT1 จึงสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ NIKKOR F-Mount ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
-ระบบแฟลชในตัวกล้อง รองรับ i-TTL flash control (ยกแฟลชขึ้นเอง)
-ช่องต่อ HDMI output สำหรับเชื่อมต่อเพื่อดูภาพบนทีวีแบบ High-Definition
-รองรับการใช้งานร่วมกับเมมโมรี่ การ์ด Eye-Fi เพื่อการโอนถ่ายรูปภาพแบบไร้สาย
-มาพร้อมกับ ViewNX 2 ระบบซอฟแวร์การแสดงและปรับแต่งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมถึง Short Movie Creator ที่ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นของตนเองได้จากภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และยังสามารถใช้งานร่วมกับ Picturetown ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
-คุณสมบัติเลนส์ 1 NIKKOR 11-27.5mm f/3.5-5.6
-นิคอน CX-format เลนส์ซูมมาตรฐาน 2.5 เท่า ทางยาวโฟกัส11-27.5 มม. (องศาการรับภาพเทียบเท่าเลนส์ 30-74 มม. สำหรับกล้องฟิล์ม 35 มม. [เบอร์ 135] )
-ประกอบด้วยชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม (Aspherical) และชิ้นเลนส์ ED สำหรับเซ็นเซอร์ CX format
-สามารถเปิด-ปิดด้วยปุ่มที่ใช้สำหรับยืดและหดเลนส์ (retractable lens) (รุ่น J1 และ รุ่น V1 ไม่สามารถปิดเครื่องด้วยปุ่มนี้ได้)
-น้ำหนักเบากว่า 32 กรัม และขนาดสั้นลงประมาณ 11 มม. ที่ความยาวยืดสุดเมื่อเทียบกับเลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6
-กลไกที่ช่วยให้ยืดและหดเลนส์ได้ เพื่อสะดวกในการพกพายิ่งขึ้น
-ดีไซน์ด้วยรูปลักษณ์ที่บ่งบอกถึงขีดสุดของสมรรถนะและความงามผ่านรูปทรงอันบอบบาง
-มีจำหน่าย 6 สีด้วยกันเช่นเดียวกับกล้องนิคอน วัน J2
-คุณสมบัติเคสกันน้ำ WP-N1
-น้ำหนักเบาอย่างสมดุลสำหรับการใช้งานใต้น้ำ
-ดีไซน์กะทัดรัดพร้อมกริปมือจับ
-สามารถซูมเลนส์ได้ขณะใช้งานใต้น้ำ
-ก้านปรับชัตเตอร์และปุ่มบันทึกภาพยนตร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมปรับการใช้งานได้อย่างคล่องตัว หรือการเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพ