กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) แจงผลประกอบการไตรมาส 2/2555 รายได้ 3,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14,799 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากการตีมูลค่ายุติธรรม 14,690 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปี 2555 มีกำไรกว่า 15,116 ล้านบาท EPS เพิ่มขึ้นเป็น 3.57 บาท ขณะที่ PBV อยู่ที่ 0.8 เท่า โชว์ตัวเลขอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารของครึ่งปีแรกที่ 83% มั่นใจธุรกิจสายการบินเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน คาดอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าปีละ 20-25%
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้นำในธุรกิจสายการบินราคาประหยัด เปิดเผยถึงตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2/2555 ว่า AAV มีรายได้ 3,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14,799 ล้านบาท และผลประกอบการครึ่งปีแรก รายได้ 6,055 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15,116 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของขนาดของฝูงบิน และเส้นทางการบินที่เพิ่มมากขึ้น
ในไตรมาส 2/2555 บริษัทมีการบันทึกกำไรจากการตีมูลค่ายุติธรรมจำนวน 14,690 ล้านบาทอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนวิธีจัดทำงบการเงินรวม เป็นงบการเงินรวมอย่างเต็มรูปแบบ (full consolidation) ตามมาตรฐานการบัญชี โดยรับรู้มูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาด จากที่เคยเป็นงบการเงินรวมแบบสัดส่วน (proportionate consolidation) มีผลทำให้ครึ่งปีแรก EPS เพิ่มขึ้นเป็น 3.57 บาทต่อหุ้น และมูลค่าตามบัญชีของบริษัท (Book Value) เพิ่มขึ้นเป็น 4.19 บาทต่อหุ้น ทำให้ PBV จะอยู่ที่ 0.8 เท่า
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2555 อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ 79% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส เดียวกันปีที่แล้วที่ 78% โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ในครึ่งปีแรกสามารถขนผู้โดยสารไปแล้วกว่า 4.1 ล้านคน เติบโตกว่าปีที่แล้วกว่า 19% Load Factor ที่ 83% จำนวนเครื่องบิน A320 เพิ่มขึ้น 4 ลำ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สถานะการเงินของบริษัทแข็งแรงขึ้นจากผลประกอบการตามเป้าหมายและเงินที่ได้จาก IPO ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการรองรับการเติบโตของฝูงบินในอนาคต
นายทัศพล กล่าวถึงแผนการขยายเส้นทางบินว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่ได้แจ้งกับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนไว้ โดยปัจจุบัน (9 สิงหาคม 2554) ไทยแอร์เอเชีย มีเครื่องบิน A320 ที่ให้บริการผู้โดยสารจำนวน 24 ลำสู่จุดหมายปลายทางในประเทศ 12 แห่งและต่างประเทศ 16 แห่ง และล่าสุดสายการบินไทยแอร์เอเชียได้เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพ-มัณฑะเลย์และเพิ่มเที่ยวบินไปย่างกุ้ง 3 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณการโดยสารของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ ซึ่งมีปริมาณการเดินทางเพิ่มมากขึ้น จากการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเปิดเสรีด้านธุรกิจระหว่างกันในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งก็สอดคล้องไปกับแผนของสายการบินไทยแอร์เอเชียที่เตรียมจะขยายฝูงบิน โดยทยอยรับเครื่องบินแอร์บัส A320 เพิ่มเป็น 48 ลำ ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า
“บริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินการตามแผนการขยายเส้นทางและเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ พร้อมการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากความคล่องตัวภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ AAV เพราะฉะนั้น หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้ที่ 20-25% ต่อปีเอาไว้ได้ เช่นเดียวกับปัจจุบันที่สายการบินไทยแอร์เอเชียก็ยังครองความเป็นผู้นำของสายการบินราคาประหยัด และเป็นสายการบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมาเป็นอันดับ 2 เมื่อคิดจากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย” นายทัศพลกล่าวสรุป