กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
บมจ. ไฮโดรเท็ค หรือ HYDRO เผยรายได้รวม 188.46 ล้านบาท เติบโต 17.40%จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หลังรับรู้รายได้จากบริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ EASTW ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 9.87 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมลุยประมูลงานใหม่เพิ่มทั้งการประปาส่วนภูมิภาค และนิคมอุตสาหกรรม อีกกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมยันยังเดินหน้าลุยในตลาด AEC ทั้ง พม่า และลาว
นายสลิบ สูงสว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด (มหาชน) หรือ HYDRO ผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและรับจ้างบริหารจัดการงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ระบบผลิตน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ หรือระบบรีไซเคิล ระบบกำจัดขยะ และการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ให้เป็นพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทมีรายได้รวม 188.46 ล้านบาท เติบโต 17.40% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 9.87 ล้านบาท
“ทั้งนี้สาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการที่บริษัทได้รับงานใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ลงนามสัญญางานใหม่กับบริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ EASTW มูลค่า 254.66 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยในไตรมาส 2 มีการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าว จำนวน 47.92 ล้านบาท”
นายสลิบ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ในระหว่างเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่อีกกว่า 2,000 ล้านบาท เช่น การประปาส่วนภูมิภาค นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถได้งานใหม่ประมาณ 70% เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเรื่องการเกี่ยวกับการทำระบบน้ำ ทั้งระบบน้ำประปา ระบบน้ำเสีย และรีไซเคิลน้ำ ในรูปแบบที่ครบวงจรเริ่มต้นตั้งแต่ออกแบบก่อสร้าง รวมถึงในการจัดสรรหาเทคโนโลยีที่นำสมัยมาใช้ในงานโครงการดังกล่าว จึงเชื่อว่าบริษัทมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม
ขณะเดียวกัน นายสลิบ กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนในต่างประเทศ เช่น ประเทศพม่า และประเทศลาว ว่าอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาและระบบบำบัดน้ำเสียรวมในเขตอุตสาหกรรมและชุมชน ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ เป็นประเทศที่มีความต้องการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งในส่วนของน้ำประปา และการดูแลเรื่องบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะประเทศพม่าที่ในขณะนี้ได้ให้ความตื่นตัวในการเปิดประเทศเปิดโอกาสให้ต่างประเทศเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น