กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--เดอะมอลล์ กรุ๊ป
BE TREND และ READ & WRITE 2 Category ใหม่ล่าสุดของเดอะมอลล์ เร่งขยายตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่น ด้วยการขยายสาขา BE TREND และ READ & WRITE สาขา 2 ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของวัยรุ่นที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มุ่งสร้าง Brand Identity ของทั้ง 2 Category ให้เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแผนก ตั้งเป้ายอดขายรวมของ 2 แผนกสิ้นปี 2547 ทะลุกว่า 515 ล้านบาท
หลังจากห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ดำเนินกลยุทธ์ Category Marketing ที่เข้มข้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 ที่ผ่านมา โดยเน้นปรับภาพลักษณ์ Category ต่างๆ ของเดอะมอลล์ให้สามารถตอบสนองตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้มากขึ้น ภายใต้การบริหารและการตลาดที่เจาะจงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีใน Category ใหม่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โดยะเฉพาะ Category น้องใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2546 ที่ผ่านมาคือ BE TREND และ READ & WRITE ที่มุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ไฟแรง ซึ่งปัจจุบันมีวัยรุ่นอยู่ในกรุงเทพมหานครกว่า 500,000 คน มีกำลังซื้อสูงถึงเดือนละกว่า 1,000 ล้านบาท โดยการเปิดบริการสาขาแรกที่ เดอะมอลล์งามวงศ์วานได้รับการตอบรับที่ดีจากกุล่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จากการสำรวจของเดอะมอลล์พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ BE TREND กว่าร้อยละ 49.5 อยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี และส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษากว่าร้อยละ 43.5 ในส่วนของ READ & WRITE พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี เช่นกัน และส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีกว่าร้อยละ 55 ซึ่งการตอบรับดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายรวมของทั้ง 2 แผนกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35 เมื่อสิ้นครึ่งปีแรกของปี 2547 BE TREND และ READ & WRITE จึงเร่งขยายสาขาที่ 2 เพื่อขยายตลาดลูกค้าให้กว้างและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยล่าสุดมีการเปิดตัว BE TREND และ READ & WRITE สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นสาขาที่ 2 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2547 ที่ผ่านมา
คุณมาลินี ทรัพย์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหารสินค้า BE TREND เผยว่า การเปิดตัว BE TREND สาขางามวงศ์วานนั้น ถือเป็นการเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นทำให้ ยอดขายของ BE TREND ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 เติบโตกว่าร้อยละ 50 จากปี 2546 ที่ยังไม่มีการปรับภาพลักษณ์แผนก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเติบโตดังกล่าวก็เนื่องมาจากนำเสนอสินค้ามีดีไซน์และเทรนด์ของสินค้าที่หลากหลายให้เลือกสรรเพิ่มขึ้นสามารถตอบสนอง ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครบถ้วนและการตกแต่งพื้นที่สวยงาม การจัดวางสินค้าที่สวยงามทันสมัยเป็นหมวดหมู่ชัดเจน ลูกค้าสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ง่าย ประกอบกับการบริการดีเยี่ยมจากพนักงานขายที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดีทั้งจากลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมาใช้บริการของห้างฯ โดยทาง BE TREND ก็พร้อมเปิดตัวสาขาที่ 2 ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นอย่างทั่วถึง ซึ่งเดอะมอลล์ บางกะปิถือว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นที่สำคัญแหล่งหนึ่งในกรุงเทพฯ การเลือกขยายสาขาที่เดอะมอลล์บางกะปิ จึงถือเป็นการเปิดสาขาในยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม และคาดว่าจะเป็นอีกสาขาหนึ่งของ BE TREND ที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับสาขางามวงศ์วาน
สำหรับ BE TREND สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของเดอะมอลล์บางกะปิ บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ครบครันด้วยสินค้าวัยรุ่นที่ดีไซน์และเทรนด์สินค้าที่โดนใจวัยทีน ซึ่งแบ่งสินค้าเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
* GIFT & NOVELTIES เป็นสินค้าของในเทศกาลต่างๆ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนิยมซื้อให้กันในโอกาสต่างๆ อาทิ วันเกิด, แสดงความยินดี, วันแห่งความรัก, ส่งความคิดถึง ฯลฯ อาทิ ตุ๊กตา, กรอบรูป, โคมไฟ ที่มีดีไซน์ทันสมัย มีสัดส่วนสินค้าร้อยละ 40
* FASHION เป็นสินค้าแฟชั่นวัยรุ่นต่างๆ อาทิ นาฬิกา, เครื่องประดับ, ต่างหู, กิ๊ฟติดผม, ที่คาดผม และเครื่องสำอางสำหรับวัยรุ่น มีสัดส่วนสินค้าร้อยละ 15
* TRAVELING ACCESSORIES สินค้ากระเป๋าวัยรุ่น ที่มีดีไซน์กิ๊บเก๋ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นยุคใหม่ มีสัดส่วนสินค้าร้อยละ 10
* LIVING TREND สินค้าตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์สไตล์โมเดิล สำหรับคนยุคใหม่ ได้แก่ แก้วน้ำ, เทียน, แจกัน, พรม มีสัดส่วนร้อยละ 20
* CARD & GIFTWRAPPING สินค้าการ์ดอวยพรในเทศกาลต่างๆ และบริการห่อของขวัญ มีสัดส่วนสินค้าร้อยละ 20
การเปิดสาขาของ BE TREND ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ถือเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าให้กับแผนก และยังเป็นการสร้าง Brand Identity ของ BE TREND ให้เพิ่มมากขึ้นและเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าทุกๆ คน โดยตั้งเป้าหมายยอดขายของ BE TREND ทั้ง 2 สาขาสิ้นปี 2547 ไว้ที่ 180 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะประสบความสำเร็จทะลุเป้าแน่นอน ในส่วนของ READ & WRITE คุณอภิชาติ อัศวโภคี ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหารสินค้า READ & WRITE กล่าวว่า READ & WRITE ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากลูกค้าหลังเปิดตัวสาขางามวงศ์วานเมื่อปลายปี 2546 ที่ผ่านมา เนื่องจากสินค้าที่มีสีสันและแฟชั่นมากขึ้นตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ประกอบกับการตกแต่งภายในแผนกสวยงามทันสมัย สินค้าที่ครบครันและเป็นหมวดหมู่สะดวกต่อการเลือกสรร จึงส่งผลให้ READ & WRITE ได้รับการไว้ใจจากลูกค้าในการเลือกสรรสินค้าเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน และหนังสือ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ยอดขายของ READ & WRITE สาขางามวงศ์วานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2546 ที่ยังไม่ได้มีการปรับภาพลักษณ์เป็น READ & WRITE จากความสำเร็จของ READ & WRITE สาขางามวงศ์วาน ดังกล่าว READ & WRITE จึงขยายสาขาสู่เดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นสาขาที่ 2 โดยเล็งเห็นว่าเดอะมอลล์ บางกะปิ แวดล้อมไปด้วยโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ถือเป็นศูนย์รวมวัยรุ่นที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะสามารถสร้าง Brand Identity ของ READ & WRITE ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง
สำหรับ READ & WRITE สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของเดอะมอลล์บางกะปิ บนพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ครบครันด้วยสินค้าที่ทันสมัย และบรรยากาศการตกแต่งที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยมีการแบ่งสัดส่วนของสินค้าใน READ & WRITE ดังนี้
* สินค้ากลุ่ม Student & Office Supplies มีพื้นที่ในแผนก 820 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด เน้นสินค้าสำหรับกลุ่มนักเรียน, นักศึกษา และวัยทำงาน ได้แก่ สินค้าปากกา ดินสอ และอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ, สมุดโน้ต, สมุดบันทึก กระดาศประเภทต่างๆ, มุมสินค้าสีระบายเพื่องานศิลปะ, อุปกรณ์สำนักงาน, ซึ่งมีความหลากหลาย ทันสมัยและครบครัน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด
* สินค้ากลุ่ม Books มีพื้นที่ 380 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของพื้นที่ทั้งหมด กลุ่มสินค้าหนังสือซึ่ง READ & WRITE ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจสินค้าที่ร่วมมือกันตั้งแต่เปิดสาขาแรกที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานคือ ร้านหนังสือนายอินทร์ ที่มีความครบครันในตัวสินค้าและบริการ และมีความพร้อมในการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับ READ & WRITE พร้อมมุมพักผ่อนสบายๆ เพื่อเป็นที่นัดพบของคนรักการอ่าน ร้าน H&C (Health & Cuisine) ที่เพียบพร้อมด้วยกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและของว่างอร่อย ที่จะทำให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสบาย พร้อมหนังสือน่าอ่านให้เลือกสรรอย่างครบถ้วน
คุณอภิชาติ กล่าวต่อว่าในการเปิดสาขาที่ 2 ของ READ & WRITE จะสามารถขยายฐานลูกค้าของแผนกให้เพิ่มขึ้นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง รวมถึงยังเป็นการตอกย้ำ Brand Identity ของ READ & WRITE เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอันจะส่งผลดีในการสร้าง Brand loyalty ของลูกค้าให้เพิ่มในอนาคต โดยคาดว่าความสำเร็จของ READ & WRITE ทั้ง 2 สาขาจะส่งผลให้ยอดขายของ READ & WRITE สิ้นปี 2547 ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 335 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 อย่างแน่นอน
ในโอกาสเฉลิมฉลองการเปิดตัวสาขาใหม่นี้ BE TREND และ READ & WRITE พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่มาช้อปปิ้งใน BE TREND และ READ & WRITE ทั้งสองสาขา ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม - 25 สิงหาคม 2547 สินค้าในแผนก BE TREND และ READ & WRITE ลดพิเศษ 10-30% (เฉพาะที่สินค้าร่วมรายการ) และพิเศษสำหรับในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ในช่วงแคมเปญโปรโมชั่นสินค้าเคาน์เตอร์ปกติใน BE TREND ลด 20% (เฉพาะรุ่น) และเมื่อช้อปสินค้าทั้ง 2 แผนกครบ 500 บาททุกป้ายรายคา ร่วมลุ้นโชค 2 ต่อ สำหรับต่อที่ 1 รับทันทีของสมนาคุณเก๋ 1 ชิ้น อาทิ หมอนแฟซี, นาฬิกาแฟนซี, กระเป๋าสะพายแฟนซี, กระเป๋า BE TREND ร่วมมูลค่ากว่า 900,000 บาท พร้อมลุ้นรางวัลต่อที่ 2 ชิงโชครางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน 2 ที่นั่ง จำนวน 1 รางวัลมูลค่ากว่า 98,000 บาท และรางวัลอื่นๆ อาทิ โทรศัพท์ Nokia 3200, ชั่วโมงอินเทอร์เน็ต ฯลฯ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 282,400 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสนุกๆ สำหรับวัยมันส์ในวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดช่วงแคมเปญ อาทิ การสาธิตการแต่งหน้าประจำราศี, การสาธิตการประดิษฐ์งานจากสี, การเพนท์เล็บ, การเล่นเกมส์แจกรางวัลต่างๆ, การเสวนานักเขียนชื่อดัง ฯลฯ
สำหรับการเปิดตัวสาขาที่ 2 ของ BE TREND และ READ & WRITE ที่เดอะมอลล์ บางกะปินี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการขยายฐานลูกค้าวัยรุ่นของเดอะมอลล์บางกะปิและส่งยอดขายของเดอะมอลล์ต่อไปในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
โทร. 0-2310-1847, 0-2310-1409--จบ--
--อินโฟเควสท์ (กภ)--