สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 14, 2012 10:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--Gold Futures ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,614 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,622 (22.30น.)เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.42 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท และกลับมาปิดที่ 23,900 บาท กับ 24,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,513 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,129 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 3 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.7% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3.6% Silver Futures 0% GFQ12 ปิดที่ 24,190 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,280 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,180 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,280 บาท SVQ12 ปิดที่ 879 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,612.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 29.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 27.767 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR คืนวันศุกร์ซื้อเข้า 3.2 ตัน คงทองที่ 1,2587.15 ตัน คืนวันจันทร์ SPDR ถือครองทองคำ 1,258.14 (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 14 ดอลลาร์/เซนต์ ปิดที่ระดับ 92.73ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลงขึ้น 38.52 จุด ปิดที่ระดับ 13,169.43 จุด Ratio Gold / Silver 57 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ วันศุกร์ที่ 10 ส.ค. 55 TheBullionDesk, Reuters, Infoquest - ราคาทองคำสามารถแสดงบทบาทได้ดีเหนือกลุ่มโลหะมีค่าอื่นๆ ที่มีความผันผวนเมื่อคืนวันศุกร์ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,622.8 เหรียญ และตลอดทั้งสัปดาห์สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.8% ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ประมาณ 111,000 ล็อต ราว 30% ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน แต่ยังคงเป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์จากการประกาศตัวเลข Trade surplus ของจีนประจำเดือนกรกฎาคมที่ออกมาที่ระดับ 2.51 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 3.51 พันล้านดอลลาร์ และลดลงจากเดือนมิถุนายน 6.6 พันล้านดอลลาร์ และการประกาศตัวเลขการให้กู้ยืมใหม่ของธนาคารจีนที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ส่งผลให้เพิ่มความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ อยู่ภายใต้แรงกดดัน แต่ราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวล เนื่องจากมีความหวังในความเป็นไปได้ที่อาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางจีน - สำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ Import prices ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยครั้งนี้ลดลง 0.6% ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรป การผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสประจำเดือนมิถุนายนไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่มีการปรับตัวลดลง 2.1% - เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บีเอ็นพี พาริบาส ได้กล่าวย้ำมุมมองของตนเองว่า เฟดจะประกาศมาตรการ QE3 ในช่วงสิ้นเดือนนี้ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮลล์ (Jackson Hole) ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยมีการระบุในรายงานว่า การคาดการณ์ดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาอย่างน่าผิดหวังล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลข Non-farm payroll ประจำเดือนกรกฎาคม วันจันทร์ที่ 13 ส.ค. 55 TheBullionDesk, Reuters, Infoquest - ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ 10.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,612.6 เหรียญ โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ 40% ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความไม่มั่นใจเกี่ยวกับธนาคารกลางต่างๆ ว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงที่ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา - โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ขยายตัวน้อยเกินคาด 0.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.6% และต่ำกว่าไตรมาสที่แล้วที่ระดับ 1.2% ส่งผลให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวในเศรษฐกิจทั่วโลก - ข้อมูลจาก CFTC ระบุว่า กลุ่ม Hedge funds และผู้จัดการฝ่ายการเงินลดการถือครองสถานะ Long position สุทธิในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ส และสัญญา Options ลง 11% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 สิงหาคม เนื่องจากกลุ่มนักเก็งกำไรได้ลดการลงทุนในทิศทางขาขึ้นจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟด และกลุ่มธนาคารกลางอื่นๆ - ดัชนีราคาขายส่งของเยอรมนีประจำเดือนกรกฎาคมปรับตัวสูงขึ้น 0.3% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 1.1% ในเดือนมิถุนายน - ทางฝั่งยูโรโซน ผลประโยชน์และข้อเสียเปรียบของการแทรกแซงจากอีซีบีกำลังอยู่ภายใต้การถกเถียงกันในกลุ่มนักการเมืองและกลุ่มรัฐมนตรีคลังของยุโรป ยกตัวอย่างเช่น นายวายด์แมน ประธานบุนเดสแบงก์ นาย โคนี่ กรรมการธนาคารกลางเบลเยียม และนายคาไทเน็น (Katainen) นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ ยังคงมีการกล่าวต่อต้านการเข้าซื้อพันธบัตรสเปนและอิตาลีของอีซีบี ซึ่งมีการระบุว่า แม้ว่าการเข้าซื้อพันธบัตรโดยอีซีบีจะสามารถลดความตึงเครียดในตลาดได้ในระยะสั้น แต่จะมีผลกระทบทางด้านเงินเฟ้อมาในระยะยาว - ราคาทองคำขยับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้หลังจากที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ จากทั้งทางฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่อาจบ่งชี้ความอ่อนแอเพิ่มเติมของเศรษฐกิจโลก และกระตุ้นให้กลุ่มธนาคารกลางต่างๆ มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม - หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประกาศตัวเลข Trade balance ของจีน และการรายงานจีดีพีไตรมาสที่ 2 ของญี่ปุ่นที่ออกมาอ่อนแอ นักลงทุนกำลังจับตาการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 2 ของฝั่งยูโรโซน ฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่คาดว่าจะมีการหดตัวลง - วิกฤตหนี้ยุโรปยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยจีดีพีไตรมาสที่ 2 ของกรีซแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจกรีซหดตัวต่ำกว่าที่คาด 6.2% ในขณะที่ธนาคารกลางอิตาลีรายงานเมื่อวานนี้ว่า หนี้สาธารณะของอิตาลีพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนายนเกือบ 2 ล้านล้านยูโร และยอดขาดดุลงบประมาณรายปีเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้ ส่วนทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนระยะสั้นก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความคิดทบทวนใหม่ถึงความเป็นไปได้ที่อีซีบีอาจใช้แผนเข้าซื้อพันธบัตร ซึ่งมองว่าอาจเร็วเกินไปในการเข้าแทรกแซง - ในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญทางฝั่งสหรัฐติดต่อกัน 3 วัน อันได้แก่ ยอดค้าปลีกของสหรัฐ และดัชนีราคาผู้ผลิตที่จะประกาศในวันนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, Empire State manufacturing index และ TIC Long Term Purchases ที่จะประกาศในวันพุธ รวมไปถึง Building permits, Unemployment Claims, Housing starts และ Philly Fed Manufacturing Index ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -2.4% ตัวเลขออกมาจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -0.6% - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -59.7B ตัวเลขออกมาจริงปรับลดลงสู่ระดับ -69.6B ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Core Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ -0.4% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.4% - PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.3% - Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ -0.5% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.3% - Core PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาเท่าเดิมที่ระดับ 0.2% - Business Inventories m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.2% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ด้วยความผิดหวังที่จีนไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาทำให้ช่วงกลางตลาด Comex มีแรงเทขายทำกำไรมาอย่างต่อเนื่องหลังจากขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,626 เหรียญ ในตลาด Comex ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบระดับ 1,624 เหรียญ แต่ไม่สามารถทะลุได้ทำให้มีแรงเทขายปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,607 เหรียญและกลับมาปิด 1,612 เหรียญโดยประมาณ ค่าเงินบาทแกว่งตัวในทิศทางแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 31.44 บาท/ดอลล่าร์ แข็งค่าจากวันศุกร์ 3-4 สตางค์ ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway up อย่างช้าๆ ตลาดเริ่มมาสนใจที่ตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกา โดยวันนี้มีตัวเลข Retail Sales ที่คาดว่าจะดีขึ้นจากเดือนที่แล้ว ในขณะที่การประกาศตัวเลข Core PPI คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งหากผลออกมาดีขึ้นจะเป็นผลบวกต่อค่าเงิน US Dollar และเป็นผลลบต่อราคาทองคำ Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,250 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 890 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,605 — 1,620 เหรียญ โดยยังคาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบในลักษณะ Sideway up อย่างช้าๆ ยังไม่สามารถเบรคในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ขายทำกำไรออกไปเป็นช่วงๆ โดยเมื่อวานนี้อาจขายทำกำไรไปบางส่วน ถือครองพอร์ท 20-30% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ