กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--ฟินันซ่า
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด จำกัด ประเมินว่า มีแนวโน้มค่อนข้างสูงมากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธปท. ไม่เป็นเอกฉันท์ คือ เสียงส่วนใหญ่มองว่าให้คงอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นกระสุนช่วยเศรษฐกิจในอนาคต ในขณะที่เสียงส่วนน้อยเห็นว่า ควรลดดอกเบี้ยทันที ทั้งนี้ นายธีรพันธุ์ ระบุว่า ถ้าพิจารณาในภาพรวม เห็นว่า กนง. เห็นตรงกันคือเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวจากปัญหาภายนอกประเทศ ต่างกันตรงจังหวะในการลดดอกเบี้ย แต่เชื่อว่า กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงที่เหลือของปีนี้
ดังนั้น การการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน กล่าวคือสูงกว่า 3 % ขึ้นไป จะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่จะปรับลงในอนาคตกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน5 (FAM FIPR3M5) จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 9 — 20 สิงหาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.17% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุน สามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเตอร์เนต skype ได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 352-4050
FAM FIPR 3M5 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร SCBT, Hong Kong (P-1) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร SCBT, UAE , Union National bank, UAE (P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ**, ตั๋วแลกเงิน บมจ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+) หรือ บมจ. มั่นคงเคหะการ (BBB+), ตั๋วเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตราสารหนี้ของ บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ขึ้นไป***, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
เราจะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน ทุก ๆ 3 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
สำหรับรอบการลงทุนของการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO)
อัตราผลตอบแทนโดยประมาณเท่ากับ 3.17% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากการลงทุน สำหรับรอบระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ตราสารที่ลงทุน*** ผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) ระยะเวลาการลงทุนโดยประมาณ
เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงินUSD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร SCBT, Hong Kong (P-1) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร SCBT, UAE , Union National bank,UAE(P-1) , ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** 3.40%* 44.00% 1.49% 3 เดือน
ตั๋วแลกเงิน บมจ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+)หรือ บมจ. มั่นคงเคหะการ(BBB+) 3.60% 24.00% 0.86% 3 เดือน
ตั๋วเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) (BBB) 4.00% 20.00% 0.80% 3 เดือน
ตราสารหนี้ของ บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+)หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ขึ้นไป*** 3.30% 11.50% 0.37% 3 เดือน
ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 2.99% 0.50% 0.01% 3 เดือน
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน (ต่อปี) (0.36%)
อัตรารับซื้อคืนโดยประมาณ (ต่อปี) 3.17%
หมายเหตุ:
? * โดยอัตราผลตอบแทนที่เสนอโดยผู้ออกตราสารและมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USDหรือ CNY หรือ AED เป็นเงินบาทแล้ว(ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2555) ** เงินฝากธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ตั๋วเงิน หรือ หุ้นกู้ ธนาคารเกียรตินาคิน,ธนาคารไอซีบีซี(ไทย), ธนาคารทิสโก้,ธนาคารทหารไทย,ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย,ธนาคารกรุงไทย,บริษัททุนธนชาต,ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2555 )
? ***ตั๋วแลกเงินหรือหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา , บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+), บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), บมจ.แสนสิริ (BBB+) , บมจ. เอสซี เอสเซท (BBB+) , บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (A), บมจ.เอเชียน พร็อพเพอร์ตี ดีเวลล็อปเมนต์ (A), บมจ. ศุภาลัย (A-), บมจ.ภัทรลีสซิ่ง (A-), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (A-), บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (A-), บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลิส (A+), บมจ.พฤกษา (A) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
? หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ประมาณการไว้
? ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร
? กองทุนจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดรอบการลงทุนแต่ละรอบ 3 เดือนโดยประมาณ
? หากผู้ถือหน่วยไม่ส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนมาภายในวันและเวลาที่กำหนดในการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนประสงค์ที่จะลงทุนต่อไปในรอบการลงทุนถัดไป
? บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุนและประมาณการค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนในแต่ละรอบทุก 3 เดือนโดยประมาณ โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ โดยจะแจ้งรายละเอียดการลงทุนดังกล่าว ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปและหรือเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ ให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า
? การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
? การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนเมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนนี้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้
? ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน
? ในกรณีที่กองทุนนี้ไม่สามารถดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องได้ ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้
? เนื่องจากกองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด
? กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
? กองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedged)
? ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจและควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัย ให้สอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน