กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--บลจ.ยูโอบี
ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้น ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นกรอบ 0-0.25% และระบุว่าจะสนับสนุนให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557 ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.75%และประธาน ECB กล่าวหลังการประชุมว่า ECB จะร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ เพื่อเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาล อิตาลีและสเปนในตลาดเปิด สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางที่เป็นบวกต่อเนื่อง และในเดือนนี้จะเริ่มมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งการคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทางบลจ.ยูโอบี ยังคงติดตามภาวะตลาด และเล็งเห็นว่าโอกาสจากการลงทุนจะเกิดประสิทธิภาพเมื่อตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อการลงทุนในระยะยาวในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างอัตราผลตอบแทนจากเงินออม จะเห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุนรวม สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน เพราะฉะนั้น นักลงทุนจึงต้องพิจารณาและวางแผน พร้อมทั้งเข้าใจและสามารถยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนผลิตภัณฑ์การเงินนั้นๆ ด้วย การจัดพอร์ตการลงทุนจึงได้เข้ามามีบทบาทในการวางแผนการเงินและเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เงินออมของท่านบรรลุเป้าหมายได้
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “บลจ.ยูโอบี เล็งเห็นความสำคัญของการจัดพอร์ตการลงทุนที่ประกอบไปด้วยสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ซึ่งมีข้อดีคือ จะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์เพียงชนิดเดียว หัวใจของการจัดพอร์ตการลงทุน ดังนั้นเพื่อให้การลงทุนของท่านเกิดประสิทธิภาพและสามารถสร้างโอกาสเพื่อรับผลตอบแทนได้ นอกจากนักลงทุนจะต้องรู้จักตนเองแล้ว ยังต้องวางแผนการลงทุนให้มีความชัดเจน มีความเป็นไปได้ รู้จักการลงทุน และจะต้องติดตามพอร์ตการลงทุน เพื่อปรับปรุงพอร์ตการลงทุนของท่านอย่างสม่ำเสมอ”
ทางบลจ.ยูโอบี ขอแนะนำ 4 กองทุนเด่น ที่มีโอกาสสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน คือ
1. ลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กับ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐทั่วโลกกองทุนนี้น่าสนใจเพราะการลงทุนในตราสารหนี้ทำได้ในทุกช่วงของวัฎจักรเศรษฐกิจ อีกทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตราสารหนี้ภาครัฐทั่วโลกยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากอีกด้วย
2. ลงทุนทองคำ กับ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ — H ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมทองคำแท่ง SPDR Gold Trust ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ที่มา:www.spdrgoldshares.com) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และกองทุนยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย (ซึ่งจะปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำมากขึ้น ทำให้ปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้นด้วย อีกทั้งการลงทุนในทองคำมีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ
3. ลงทุนหุ้นภูมิภาคเอเชีย กับ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย คอนซูเมอร์ ฟันด์ เน้นลงทุนเฉพาะบริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีการคาดการณ์ว่าขนาดเศรษฐกิจของเอเชียยังคงมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก และจะมีขนาดใหญ่กว่าสหรัฐอเมริกาและยุโรปรวมกันภายในปี 2015 (ที่มา Barclays Research 30/05/2012)
4. ลงทุนหุ้นไทย กับ กองทุนเปิด ยูโอบี ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวเป็นอย่างมาก อีกทั้งกำไรสุทธิและมูลค่ากิจการของบริษัทในตลาดหุ้นไทยถือว่ามีการเติบโตที่ดีมาก
นายวนา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นอีก 4 กองทุนรวมที่ได้รับการพิจารณาว่ามีความน่าสนใจในกระแสเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน และเราเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับพอร์ตการลงทุนของท่านได้ สำหรับท่านที่สนใจลงทุน พิเศษ โปรโมชั่นระหว่างวันที่ 25 ก.ค — 28 ก.ย. ยอดเงินลงทุนสะสมของทั้ง 4 กองทุนดังกล่าวทุกๆ 200,000 บาท รับฟรีบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า 200 บาท (เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท)”
ผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถปรึกษาการลงทุนได้ที่ ธนาคาร ยูโอบี ทุกสาขา ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนที่บลจ. แต่งตั้ง และฝ่ายงานบริการผู้ถือหน่วย บลจ.ยูโอบี (ไทย) โทร. 0-2676-7200