กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นางภัทรียา เบญจพลชัย รองผู้จัดการ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 28 ธันวาคม 2548 ได้อนุมัติให้ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai Matching Fund) จัดตั้งทีมงานเพื่อสรรหาและให้การสนับสนุนธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ทั้งด้านการจัดหาผู้เชี่ยวชาญในการทำธุรกิจและการพิจารณาสนับสนุนด้านการเงินจากกองทุนร่วมลงทุนที่จะมีการจัดตั้งขึ้นในอนาคต
เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในระยะ 3 —5 ปีข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จัดตั้งทีมงานเพื่อสรรหาผู้ประกอบการธุรกิจที่มีศักยภาพ และจัดหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้าไปให้คำปรึกษา พร้อมทั้งพิจารณาให้การส่งเสริมด้านการเงินจากกองทุนร่วมลงทุน เพื่อบ่มเพาะธุรกิจที่มีศักยภาพตั้งแต่เริ่มต้น ให้สามารถประสบความสำเร็จและเติบโต พร้อมที่จะเป็นบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในอนาคต
“คณะกรรมการเห็นว่าการส่งเสริมให้มีธุรกิจที่มีศักยภาพมากขึ้น จะต้องมีการส่งเสริมด้านผู้เชี่ยวชาญที่
จะเข้าไปให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจทั้งด้านการตลาด อุตสาหกรรม การผลิต ฯลฯ รวมทั้งสนับสนุนด้านการลงทุน ดังนั้นจึงได้ให้ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไปจัดตั้งทีมงานในการสรรหาธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยเน้นส่งเสริมการจัดทำแผนธุรกิจของนิสิต นักศึกษา ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม โดยสนับสนุนทั้งด้านการเงินจากกองทุน mai Matching Fund และจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมเพื่อให้คำแนะนำแก่โครงการให้ประสบความสำเร็จ” รองผู้จัดการกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการเห็นว่า ควรให้การส่งเสริมแนวคิดการทำธุรกิจของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่ส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษาจัดทำแผนธุรกิจที่หลากหลายและมีความน่าสนใจ จึงควรให้มีทีมงานที่ชัดเจนที่จะประสานงานกับสถาบันการศึกษา เพื่อสนับสนุนให้การทำแผนธุรกิจของนิสิต นักศึกษาของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และขยายธุรกิจให้สามารถเติบโตได้ในอนาคต
สำหรับนโยบายการร่วมลงทุนโดย mai Matching Fund ในอนาคตนั้นจะเน้นการลงทุนในกิจการเป้าหมายที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง ธุรกิจที่มีนวัตกรรม ธุรกิจที่มีองค์ความรู้ และธุรกิจสำหรับอนาคต โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1. ธุรกิจไอซีที 2. ธุรกิจด้าน Culture Technology เช่น การสร้างภาพยนตร์ 3. ธุรกิจสื่อ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ บิลบอร์ด อินเทอร์เน็ต 4. ธุรกิจบริการด้านการออกแบบ งานสถาปนิก ที่ปรึกษา และ 5. ธุรกิจด้านเทคโนโลยี เช่น ธุรกิจที่ใช้นาโนเทคโนโลยี ไบโอเทคโนโลยี และธุรกิจที่สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุน
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-229-2797--จบ--