กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ไปรษณีย์ไทย
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ฉลองโอกาสก้าวสู่ 10 ปี เปิดศูนย์ไปรษณีย์ EMS แห่งใหม่ ยกระดับมาตรฐานและคุณภาพบริการ EMS ให้สูงขึ้น เดินเครื่องลุยด้านโลจิสติกส์เต็มสูบ
สนองนโยบายรัฐ Smart Thailand ขานรับสู่การเป็น Smart Post โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
ไปรษณีย์ไทย ประกาศขานรับนโยบาย Smart Thailand ด้วยความพร้อมเป็น Smart Post มุ่งพัฒนาให้เป็นตัวกลางในการให้บริการไปรษณีย์อย่างครบวงจร (Super Service Center) ให้แก่ภาคธุรกิจ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในแง่การเชื่อมโยงให้ง่ายต่อการเข้าถึงบริการของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสวัสดิการพื้นฐานต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเป็นแกนนำหลักในการวางรากฐานเพื่อพัฒนาโลจิสติกส์ไทย
“นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้พัฒนาเครือข่ายให้เป็นศูนย์บริการครบวงจรของภาครัฐเพื่อสนับสนุนนโยบาย MICT Smart Thailand ที่จะทำให้คนไทยได้รับประโยชน์จากเครือข่ายสารสนเทศของรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของ ICT Free Wi-Fi 200,000 จุดทั่วประเทศ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าว
ดร. เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงการเป็น Smart Postว่า “ปณท ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนนโยบาย Smart Thailand ด้วยการเป็น Smart Post ผู้เชื่อมโยงความสะดวกของบริการต่างๆ สู่ประชาชน โดยผ่านเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ผ่านเจ้าหน้าที่นำจ่ายเพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากขึ้น”
ด้านนางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานในปีที่ 10 คือ ไปรษณีย์ไทย...เครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทย (Human Networking) ไปรษณีย์ไทยได้กำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพด้านการให้บริการและเครือข่ายการขนส่งให้แข็งแกร่ง โดยนำศักยภาพความเชี่ยวชาญ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่มาบริหารจัดการให้คุ้มค่า นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในบริการ รองรับการขยายบริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ให้มีความพร้อมต่อการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคต มาสนับสนุนให้เห็นภาพอันเด่นชัดขึ้นในความเป็นเครือข่ายอย่างมืออาชีพ ระบบขนส่งและเครือข่ายไปรษณีย์ที่แข่งแกร่ง ด้วยความครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมถือฤกษ์ดีเปิดศูนย์ไปรษณีย์ EMS เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพระบบขนส่ง การส่งต่อที่ดีขึ้น เป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยงในวงกว้าง และสนับสนุนการปฏิบัติงานให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว ลดความเสียหายและต้นทุนค่าใช้จ่าย ควบคุมคุณภาพบริการให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีมากยิ่งขึ้น
ศูนย์ไปรษณีย์ EMS ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ บนพื้นที่ 16 ไร่
ใช้งบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ฯ รวมกว่า 18 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณงานไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีภารกิจคัดแยกและส่งต่อสิ่งของในบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ทั้งในและระหว่างประเทศ รวมไปถึงพิธีการศุลกากรอีกด้วย จากการดำเนินงานที่ผ่านมาของ ปณท ตลอด 9 ปีไปรษณีย์ไทยทำหน้าที่เป็นเครือข่ายชีวิต และเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง และจะยังคงเดินหน้าต่อไป “...ด้วยเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีทั้งหมดนี้ เป็นการพัฒนาและต่อยอดมาโดยตลอด 130 ปี โดยใช้เครือข่ายที่ยิ่งใหญ่จากความเป็นหนึ่งเดียวของคนกว่า 22,000 คน สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้ “รู้จริง” ในทุกตารางนิ้วบนพื้นที่ตั้งแต่ระดับเล็กสุดจนกระทั่งถึงระดับโลก “รู้ใจ” ถึงความต้องการที่หลากหลายของคนไทย ทั้งหมดนี้เป็นความ “จริงใจ” ที่คนไปรษณีย์ไทยจากรุ่นสู่รุ่นได้บ่มเพาะความพร้อมที่จะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพื่อใครอื่น แต่เป็นเพื่อการสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตคนไทย สร้างความเจริญให้เกิดเศรษฐกิจไทยเป็นกลไกของคนไทยที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกัน พร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ทั้งนี้ ปณท มีผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ตั้งแต่ ม.ค. — มิ.ย. มีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,116.07 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก กลุ่มธุรกิจสื่อสาร 4,417.35 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจขนส่ง 3,407.88 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจค้าปลีก 530.31 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจการเงิน 408.59 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ 145.65 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ กลุ่มตลาดสื่อสาร และตลาดขนส่งมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเป็น 12.58 และ 14.55 เปอร์เซนต์ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิสำหรับช่วง 6 เดือนเป็นเงิน 863.77 ล้านบาท
ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายสื่อสารการตลาด 0 2831 3508, 0 2831 3598