วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ “เจเนอเรชั่น 2” ของ “สีเบเยอร์” ยึดหลัก “สติมา..ปัญญามี” บริหารและขับเคลื่อนธุรกิจ!!!

ข่าวอสังหา Friday August 17, 2012 09:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--เบเยอร์ ต้นกล้าที่แข็งแรง มีรากแก้วหยั่งลึก ไม่ได้เป็นกล้าที่เจอมรสุมก็ล้มไป! คงนิยามความเก่งกาจของ วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ลูกชายคนสุดท้องของอาณาจักรสีเบเยอร์ โดย ประเสริฐ ชัยยศบูรณะ นักธุรกิจผู้บุกเบิกธุรกิจสีย้อมไม้และพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีทาอาคารคุณภาพจากภายใต้ชื่อแบรนด์ “เบเยอร์” “ผมผูกพันกับบริษัทฯ มาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อปลูกฝังให้รู้จักและรักในงานของเรา โดยคุณพ่อ เดินเข้าโรงงานตั้งแต่อายุสิบขวบ พี่น้องก็เหมือนกัน เวลาว่าง ปิดเทอม ก็ต้องเข้ามาช่วยงาน ตั้งแต่เดินเอกสารออฟฟิศ เยี่ยมโรงงานดูการผลิตการบรรจุ เรื่อยไปถึงการสำรวจตลาด ซึ่งพอมาทำงานจริงๆ ก็รู้ว่าขั้นตอนนี้สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไรและตลาดไปถึงไหนแล้ว” ทันทีที่จบปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ คุณวรวัฒน์ก็ไปศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จบกลับมานั่งบริหารงานที่ บริษัท เบเยอร์ จำกัด ร่วมกับพี่ๆ ทั้งสามคน การทำงานด้วยกัน มีเห็นต่างบ้างแต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันเพราะสิ่งที่คุณพ่อสอนให้ยึดถือคือ “สภาครอบครัว” ให้เชื่อฟังและทำตามเสียงส่วนใหญ่ “เป็นน้องคนเล็กไม่มีผลกับการทำงาน ไม่กดดันหรือไม่ได้รู้สึกว่าไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะทุกคนก็มีทักษะและมีประสบการณ์ในงานแต่ละด้าน พี่สาว-คุณจารุรัตน์ จบดร. ด้านพลังงานทดแทนจะเป็นผู้ดูแลดีเทลของการพัฒนา วิเคราะห์ วิจัยหลักทางเคมี ส่วนผสมต่างๆ บนหลักการพัฒนาผลิตภัณฑ์บนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พี่ชาย-คุณวรวุฒิ คุมนโยบายบริหาร การตลาดและแสวงหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ส่วนผมดูในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ พัฒนาสินค้าใหม่ พัฒนาระบบปฏิบัติการ รวมถึงการขาย และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์กลางที่ประสานงานขายและเก็บข้อมูลสิ่งที่ลูกค้าต้องการเข้ามาทุกวัน มีสำรวจ ทำโพล เพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการตลอด” สาเหตุที่ต้องทำงานหนักขนาดนี้เพราะต้องต่อสู้จนเคย! ในสมรภูมิของธุรกิจแค่หยุดนิ่งก็เท่ากับไม่เดินหน้า เขาและ “สภาครอบครัว” เลยเห็นชอบให้นโยบายคือ การมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เบเยอร์คูล ลดโลกร้อนจึงเกิดขึ้น!!! “ในต่างประเทศตื่นตัวเรื่องนี้นานมาก ที่อเมริกา สมัย อาโนลด์ ชวาลเซเนเกอร์ เป็นผู้ว่าฯ ยังออกข่าวรณรงค์ให้ใช้ผลิตภัณฑ์สีที่ช่วยกันความร้อนและมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอดตั้งแต่สิบปีที่แล้ว จึงวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเบเยอร์ทุกชนิด ยุคแรกแบรนด์เราเกิดจากสีทาไม้ก่อน ทนทาน รักษาเนื้อไม้ให้ดีอยู่เสมอ แต่สำหรับสีทาอาคาร ผู้บริโภคจะนิยมแบรนด์ที่คุ้นเคยมากกว่า โจทย์คือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าจากนวัตกรรม สิ่งที่ขายเมื่อหลายปีก่อนอาจไม่ตอบโจทย์จริง ซึ่งเราเป็นรายแรกที่นำเสนอสีทากันร้อน ทำให้บ้านเย็น ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับสื่อสารทางการตลาดให้ทุกคนได้สัมผัส และสร้างผลงานให้ประจักษ์จริง ล่าสุดได้ทำโครงการ “สีเบเยอร์..หนึ่งผนังรวมพลังสร้างรอยยิ้ม” ภายใต้ความคิดว่าถ้าทุกคนรักษ์โลก ร่วมใจกันเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม ทาสีกันร้อน เพียงผนังเดียว ก็ช่วยลดโลกร้อนได้” ปัจจุบันธุรกิจสีเป็นอีกแวดวงที่แข่งดุเดือด มีโรงงานสีที่จดทะเบียนกว่า 120 โรง มีแบรนด์ดังๆ กว่า 10 แบรนด์ ทั้งแบรนด์อินเตอร์และโลคอล ซึ่ง“เบเยอร์คูล” ภายใต้การบริหารของวรวัฒน์ ยังต้องทำงานหนัก!! แต่ไม่เครียดเพราะยึดหลัก “สติมา…ปัญญามี” ใช้หลักการและเหตุผล ตัดสินและพิจารณาทุกเรื่องอย่างเป็นธรรม วิธีการเรียกสติคือ ทำสมาธิ พักผ่อนโดยการออกกำลังกาย อ่านหนังสือและท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งสถานที่ที่ชอบไปนั้นไม่พ้นห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการสำรวจตลาดและอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ไปในตัว “ทำธุรกิจก็มีบ้างที่บางครั้งไม่ได้อย่างใจ แต่ก็ไม่เครียด สู้กันใหม่ โชคดีที่คุณพ่อวางรากฐานมาดี และพี่น้องทุกคนรักกัน ใช้หลักฉันทามติช่วยกันพัฒนาบริษัทฯ ให้ก้าวไปข้างหน้าเสมอ ล่าสุดเป็นความภาคภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ของเราไม่ได้วางขายและเป็นที่ยอมรับเฉพาะแต่ในเมืองไทยเท่านั้น เราส่งออกมากกว่าห้าประเทศทั้งกัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย ฯลฯ ซึ่งเป้าหมายในอนาคตเราต้องการ สร้างสรรค์นวัตกรรมให้เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค เลือกเป็นแบรนด์แรก และรณรงค์ให้การเลือกใช้สีมากกว่าความสวยงามโดยนอกเหนือจากการจุดประกายแล้ว เราสนับสนุนให้มีการร่างมาตรฐานสีเมืองไทย ใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ทำให้บ้านเย็น ลดการใช้ไฟฟ้า และช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า!!!” ความคิดที่ไม่หยุดนิ่งจะทำให้พัฒนาไม่หยุดยั้ง และเหนืออื่นใดคือ ความรักและศรัทธาในธุรกิจ .. .. เชื่อแน่ว่าตอนนี้ป๊ะป๋าคงยิ้มชื่นใจ ต้นกล้าที่หว่านไว้กำลังเป็นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ