กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--สยามเมนทิส
“ยูนิลีเวอร์” จับมือ “องค์การอ๊อกแฟม” องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำของโลก เดินหน้าโครงการ “ส่งเสริมการดำรงชีพของสตรีใน 3 จังหวัดภาคใต้” ได้แก่ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี เป็นโครงการนำร่องสร้างทักษะการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน พัฒนาองค์ความรู้ธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งใน 3 จังหวัดภาคใต้
การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิยูนิลีเวอร์ ที่มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านการ สนับสนุนด้านสุขอนามัย ความสะอาด การเข้าถึงแหล่งน้ำดื่มและโภชนาการพื้นฐาน รวมถึงช่วยสร้างความ ภาคภูมิใจให้แก่คนในชุมชน
ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตเป็นสองเท่า ร่วมไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาสังคมมากยิ่งขึ้น ตามแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ ที่มีมูลนิธิยูนิลีเวอร์เป็นหลักในการดำเนินงาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกให้มีสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อทำให้คนเหล่านี้มีการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ล่าสุด มูลนิธิยูนิลีเวอร์ และ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ องค์การอ๊อกแฟม องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำของโลกที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความยากจนและบรรเทาทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ ได้ริเริ่ม โครงการ “ส่งเสริมการดำรงชีพของสตรีในจังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี” เพื่อพัฒนาทักษะในการดำรงชีพให้กับผู้หญิงในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส อาทิ การทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน การพัฒนาองค์ความรู้ทางธุรกิจแบบครบวงจร ตลอดจนการสร้างเครือข่าย เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงที่จะนำไปสู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคต
มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย กล่าวว่า "โครงการนี้เป็นความร่วมมือในการสร้างพลังร่วมกันระหว่างองค์กรธุรกิจและองค์กรพัฒนาเอกชน ที่จะแบ่งปันทรัพยากรและความสามารถเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาสังคม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมการดำรงชีพอย่างยั่งยืน ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมให้กับผู้หญิงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผู้หญิงจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่"
“สิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงกลุ่มนี้คือ การเสริมพลังบทบาทผู้หญิงให้มีความมั่นคงปลอดภัย ในการดำรงชีวิต และการสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อที่พวกเขาจะได้มีความสามารถในการเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปในอนาคตในฐานะผู้นำครอบครัวได้” มร.ราวเออร์ส กล่าว
คุณซาร่า ไอแลนด์ ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชีย องค์การอ๊อกแฟม กล่าวว่า ผู้หญิงทั้งชาวพุทธและมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ความรุนแรงอันเนื่องมาจากการสูญเสียผู้นำครอบครัว เช่น สามีหรือลูกชายที่มีบทบาทหลักในการสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทำให้ผู้หญิงต้องกลายมาเป็นผู้แบกรับภาระและมีบทบาทหัวหน้าครอบครัวแทนผู้ชาย จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน
“จากประสบการณ์ในการทำงานที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความยากจนและบรรเทาทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ และจากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงคือตัวแปรสำคัญในการพัฒนางานสู่ความยั่งยืน เพราะผู้หญิงเป็นผู้ดูแลครอบครัวและจัดการเรื่องการใช้จ่าย ดังนั้น การสร้างเสริมอาชีพในการดำรงชีวิตจะช่วยแก้ปัญหา และนำไปสู่การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนในที่สุด” คุณไอแลนด์ กล่าว
สำหรับกิจกรรมในโครงการประกอบไปด้วย 8 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1. การฟื้นฟูสภาพแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งอาหารให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
2. การอบรมเรื่องการบริหารจัดการทางการตลาด
3. การระดมทุนเพื่อพัฒนาทางเศรษฐกิจ
4. การเรียนรู้เรื่องแหล่งอาหารและการผลิตอาหาร
5. การเรียนรู้และฝึกอบรมเรื่องการตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ในชุมชน
6. การจัดอบรมเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มแกนนำ
7. การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสร้างผู้หญิงให้เป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจ
8. การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมทางการตลาด
โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้หญิงจำนวน 500 คน จาก 60 ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ตลอดจนมุ่งสร้างเครือข่ายผู้หญิงเพื่อเสริมบทบาทสตรีภายในปี 2556 พร้อมทั้งคาดหวังที่จะขยายผลไปสู่ชุมชนใกล้เคียงต่อไป
นอกจากนี้ มูลนิธิยูนิลีเวอร์ ยังได้ร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำอื่นๆ ได้แก่ PSI, UNICEF, Save the Children และ the World Food Program ในการทำงานด้านต่างๆ
"โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อการบรรลุเป้าหมายตามแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ระดับโลก ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค โดยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตคนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกให้มีสุขภาพที่ดีและอนาคตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายในปี 2563 เพื่อทำให้คนเหล่านี้มีการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต ความร่วมมือกับ องค์การอ๊อกแฟม ครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญของยูนิลีเวอร์ ในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ในประเทศไทย" มร. ราวเออร์ส กล่าวทิ้งท้าย
นอกเหนือจากการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการทำเกษตรอย่างยั่งยืน ส่งเสริมด้านสุขอนามัยและโภชนาการที่ดีให้กับคนไทย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยการลดก๊าซเรือนกระจก อนุรักษ์แหล่งน้ำ และลดปริมาณขยะในประเทศไทย
เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์
เราทำงานทุกวันเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้น เราช่วยให้ผู้คนรู้สึกดี มีลักษณะชวนมอง และแต่งเติมชีวิตให้มีความสุขยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีสำหรับผู้บริโภคและดีสำหรับคนอื่นๆ
เราเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของโลก ด้วยรากฐานที่มั่นคงในกว่า 100 ประเทศ มีผู้บริโภคสินค้ายูนิลีเวอร์กว่า 170 พันล้านผลิตภัณฑ์ทั่วโลกทุกปี ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์มีวางจำหน่ายกว่า 190 ประเทศ และมีผู้บริโภคสินค้า 2 พันล้านคนในแต่ละวัน
ผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์กว่า 12 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น คนอร์ โดฟ ลิปตัน เบเคิล/ฟลอร่า บลู แบนด์/รามา/คันทรี่ คล็อก วอลล์/โอลา/แลงก์นีส เฮลแมนท์ คาล์ฟ ยูน็อกซ์ พอนด์ ลักส์ แอ็คซ์/ลินซ์ ซัลซิล วาสลีน เรโซนา/ชัวร์ โอโม เซิร์ฟ ซิฟ ซิกเนิล และ โกรลิกซ์/โอเมโทส
ปี 2553 ยูนิลีเวอร์ได้ประกาศ “แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ภายในปี 2563 ไปพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้ครบทั้ง 3 ส่วนคือ พัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการเสริมพลังในการดำรงชีวิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sustainable-living.unilever.com
ยูนิลีเวอร์ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยมาเกือบ 80 ปี ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย ได้แก่ บรีส โอโม ออล ซันไลต์ คอมฟอร์ท ลักส์ วาสลีน ซิตร้า พอนด์ส ซันซิล เคลียร์ โดฟ แอกซ์ เรโซนา โคลส อัพ คนอร์ ลิปตัน เบส์ทฟู้ดส์ ไอศกรีมวอลล์ และภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง (อาวิยองซ์)
บริษัทฯ มีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2,700 คน มีรายได้จากยอดขายปี 2554 ประมาณ 38,000 ล้านบาท สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยได้ที่ www.unilever.co.th
เกี่ยวกับองค์การอ็อกแฟม
ทั้งนี้ องค์การอ็อกแฟม เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งเน้นความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม โดยทำงานร่วมกับองค์กรอื่นๆ เพื่อขจัดความยากจนและบรรเทาทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินโครงการอยู่ทั้งหมด 92 โครงการทั่วโลก องค์การอ๊อกแฟมยังเป็นหนึ่งในองค์กรภาคีความร่วมมือระดับโลกของมูลนิธิยูนิลีเวอร์ ภายใต้พันธกิจร่วมกันในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่ออนาคตที่ดีให้กับคนทั่วโลก สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์การอ็อกแฟมได้ที่ www.oxfam.org.uk/asia
แถลงข่าวในนาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
ข้อมูลเพิ่มเติม คุณอรัญญา ลือประดิษฐ์
ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสาร
บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
โทร. 02 554 3528, 081-912-5712