กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนรวม 5 ราย ได้แก่ (1) นางสาวภณิตา แผ่นฟ้าสังกัดบริษัทออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด (2) นายพัชร พงษ์ธนยนตกิจ (3) นางสาวกิติยา กิติกุล (4) นายวิฑูรย์ วินัยกุลพงศ์ (5) นางสาวณัฎฐพร ทองพูน โดยรายที่ (2) — (5) สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2555 และเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนอีก 2 ราย ได้แก่ นายณัฐชาต เทศเมือง และนางสาวอิ่มจิตต์
ทองรับแก้ว โดยทั้ง 7 รายมีพฤติกรรมไม่บันทึกเทปการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้า
กรณีนางสาวภณิตา ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติ (routine inspection) พบว่า นางสาวภณิตาไม่บันทึกเทปการรับคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและมีความถี่ในการรับคำสั่งที่ไม่บันทึกเทปค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับกรณีนายพัชร นางสาวกิติยา นายวิฑูรย์ และนางสาวณัฎฐพร ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติ พบว่า ผู้แนะนำการลงทุนทั้งสี่รายไม่บันทึกเทปการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และมีความถี่ในการรับคำสั่งที่ไม่บันทึกเทปค่อนข้างมาก โดยบุคคลทั้งห้ายอมรับว่ารับคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าทางโทรศัพท์มือถือ ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนของทั้งห้ารายเป็นเวลา 1 เดือน
สำหรับกรณีนายณัฐชาตและนางสาวอิ่มจิตต์ ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติ พบว่านายณัฐชาตและนางสาวอิ่มจิตต์ ไม่บันทึกเทปการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จำนวนหนึ่งให้ถูกต้องครบถ้วน ก.ล.ต. จึงเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุน และบันทึกพฤติกรรมไว้ประกอบการพิจารณาหากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนอีก
การกระทำของผู้แนะนำการลงทุนทั้งเจ็ดรายข้างต้น เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 20(3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “การรับคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าของผู้แนะนำการลงทุนจะต้องบันทึกเทปการรับคำสั่ง รวมถึงการสนทนากับลูกค้าไว้ทุกครั้ง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้แนะนำการลงทุนและลูกค้า หากมีการโต้แย้งหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการส่งคำสั่งซื้อขายซึ่ง ก.ล.ต. ไม่สนับสนุนให้ผู้แนะนำการลงทุนรับคำสั่งซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจากการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทย”