กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--มจธ.
“ตัน ภาสกรนที” ร่วมสร้างแรงบันดาลใจ แชร์เทคนิค “บันไดก้าวสู่ความสำเร็จ” หนึ่งในกิจกรรมรับน้องสร้างสรรค์ ที่ มจธ. เน้นย้ำเพื่อสร้างบัณฑิตเก่ง ดี มีคุณภาพ ด้านรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาชี้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยต่างจากรั้วโรงเรียน แนะนักศึกษาปรับตัวสู่การเรียนรู้ เพื่อเป้าหมายที่ฝันไว้
แม้ปัจจุบันจะมีคนมากมายที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่ยังต้องไขว่คว้าเพื่อไปสู่ความสำเร็จ ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่มีพัฒนาการทางด้านความอดทนลดลง ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นสำคัญก่อนก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยเหตุนี้ รศ.ดร.เชาวลิต ลิ้มมณีวิจิตร รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จึงแนะเทคนิคพิชิตความสำเร็จ “รู้คิด ชีวิตสร้างได้” ให้แก่นักศึกษา มจธ.ปี 1 ในวันต้อนรับนักศึกษาใหม่
รศ.ดร.เชาวลิต กล่าวว่า เทคนิคง่ายๆ สำหรับนักศึกษาใหม่เพื่อพิชิตความสำเร็จในรั้วมหาวิทยาลัย ต้องมี Energetic คือมีพลังและกระตือรือร้น Passionate รักในสิ่งที่ทำ Optimistic มองโลกในแง่ดี ไม่ติดอยู่กับปมด้อยหรือความผิดพลาดของตัวเอง Self-directed ไปสู่จุดหมายด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครคอยบังคับ Wall-planned มีแผนหลัก และแผนรองให้ชีวิตเสมอ Focused มีจุดหมายและมีสติกับสิ่งที่ทำ Supportive ช่วยเหลือเพื่อนที่ด้อยกว่า Systematic ทำทุกอย่างอย่างมีระบบ Timely ทำงานให้สำเร็จตามเวลา Proactive ตื่นตัวตลอดเวลา
“สำหรับนักศึกษาใหม่ ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่รู้วิถีการเอาตัวรอด และไม่รู้ว่าจะปรับตัวอย่างไร ให้ลองนำเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ไปใช้ เพราะเหงื่อมักมาพร้อมกับความสำเร็จ เราจึงต้องเดินไปตามเป้าหมายชีวิตอย่างมีสติและทุ่มเท เพราะทุกจังหวะชีวิตมีความสำคัญ สิ่งที่เราทำในวันนี้จนอายุ 30 จะเป็นตัวเขียนอนาคตเรา แต่เมื่อเราอายุ 30 ขึ้นไป ชีวิตเราจะได้อะไรขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำมา เพราะฉะนั้นสำหรับนักศึกษาใหม่ อย่าคิดว่าการเรียนรู้มีแต่ในห้องเรียน จงหิวกระหายที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ”
นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญอย่าง คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ที่เป็น Idol ของหลายคนมาสร้างแรงบันดาลใจสู่เส้นทางความสำเร็จของวิถีชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยให้แก่นักศึกษาหน้าใหม่ด้วยอีกคน โดย คุณตัน กล่าวว่า ไม่ว่าจะเรียน เล่น หรือทำงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือ ความเชื่อและความฝัน เมื่อมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใด ต้องตั้งใจให้ลึกซึ้งและชำนาญ ตั้งเป้าหมายความสำเร็จให้ชีวิตและบอกกับตัวเองทุกวัน เดินตามเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ เชื่อมั่นและศรัทธาว่าตัวเองทำได้
“ชีวิตคนเราเหมือนธรรมชาติ มีขึ้นย่อมมีลง สิ่งที่ดีเก็บไว้ให้เป็นกำลังใจ สิ่งไม่ดีปล่อยมันไป อยู่กับชีวิตให้ได้ทุกสถานการณ์มองข้างหน้าให้มีกำลังใจ อย่ามองข้างหน้าให้ท้อแท้ ความฝันทำให้เรามีพลัง ทุกชีวิตคนเรามีพลังอยู่ข้างใน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาออกมาใช้ตอนไหน ทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิด ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับใจเราเอง แต่สิ่งที่เราเลือกจะเป็นในอนาคตจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้จักตัวเองดีพอหรือยัง” คุณตันกล่าว
ทั้งนี้ รศ.ดร.เชาวลิต ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า นักศึกษาที่เข้ามาในปี 1 มักมีปัญหาการปรับตัวไม่ทันซึ่งอาจส่งผลต่อการเรียน และการใช้ชีวิตในสังคม แต่เนื่องจาก มจธ.มีการเลื่อนเปิดเทอมทั้งมหาวิทยาลัยให้ตรงกับอาเซียนซึ่งจะล่าช้ากว่ามหาวิทยาลัยอื่นประมาณ 2 เดือน มจธ.จึงใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาปี 1 ทั้งในด้านทักษะชีวิต และทักษะวิชาการ ก่อนถึงช่วงเปิดเทอมในเดือนสิงหาคม เพื่อให้นักศึกษาปี 1 ที่เพิ่งเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้มีความตื่นตัวว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นมีความแตกต่างจากในรั้วโรงเรียนอย่างสิ้นเชิง