กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--กระทรวงการคลัง
เดือนกรกฎาคมสรรพสามิตหารายได้เข้ารัฐกว่า 23,000 ล้านบาท เกินเป้ากว่า 3,000 ล้านบาท สินค้าน้ำมัน รถยนต์ เบียร์ ยาสูบ และสุรา จัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก
นางสิรินุช พิศลยบุตร รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษี เปิดเผยว่าในเดือนกรกฎาคม 2547 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวมทั้งสิ้น 23,302.44 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ(ตามเอกสารงบประมาณ) จำนวน 3,156.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.67 และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,819.57 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.47 (ปีก่อนเก็บได้ 21,482.87 ล้านบาท)
สำหรับในเดือนกรกฎาคม 2547 สินค้าที่มียอดรายได้ภาษีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้ 6,777 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 452.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.15 และสูงกว่ารายได้ภาษีน้ำมันฯในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 377.75 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.90 ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 5,912.05 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 1,306.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.36 โดยสูงกว่ารายได้ภาษีรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 735.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.20 ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 3,191.64 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 350.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.32 ซึ่งและสูงกว่ารายได้ภาษีเบียร์ในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 92.58 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.99 ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 2,949.16 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 432.93 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.21 และสูงกว่ารายได้ภาษียาสูบในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 31.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.10 ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 2,165.28 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 251.07 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.12 และสูงกว่ารายได้ภาษีสุราในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 299.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.04
รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษีกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่เดือนกรกฎาคม 2547 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ 15.67 นั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพและการปรับปรุงการบริหารการจัดเก็บภาษี โดยนำหลักการบริหารความเสี่ยง ( Risk Management) การบริหารงาน
แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Resources Base Management) และการควบคุมภายในมาใช้ ตลอดจนกิจกรรมทาง การตลาดของผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นยอดขายในรูปแบบต่างๆ มีผลให้ภารกิจในการจัดเก็บภาษีของ กรมสรรพสามิตบรรลุเป้าหมาย
“กรมสรรพสามิตจะรักษาความเป็นกรมจัดเก็บภาษีที่มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล และมีความโปร่งใสในการจัดเก็บภาษี โดยจะเน้นการบริหารการจัดเก็บภาษีในเชิงรุก พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ ตลอดจนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ในการจัดเก็บภาษีและการให้บริการประชาชน” รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษีกล่าวทิ้งท้าย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--