กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--สนพ.
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หนุนจัดตั้ง Call Center รวบรวมข้อมูลความต้องการว่าจ้างและความต้องการรับจ้างรถบรรทุกไว้ที่เดียว ลดการเดินรถบรรทุกเที่ยวเปล่า ช่วยประหยัดน้ำมันได้ปีละกว่า 1,600 ล้านลิตร คิดเป็นเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
นายพรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผย ได้อนุมัติให้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินโครงการลดการสูญเสียพลังงานจากการเดินรถบรรทุกเที่ยวเปล่า โดยจัดสร้างศูนย์ข้อมูล (Call Center) สำหรับกิจการขนส่งโดยรถบรรทุก เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ต้องการว่าจ้างรถบรรทุกสินค้า เนื่องจากพบว่าปัจจุบันมีปัญหาการเดินรถเที่ยวเปล่าสูงมาก สาเหตุสำคัญมาจากผู้ประกอบการไม่มีข้อมูลความต้องการว่าจ้างขนส่งสินค้าของตลาดปลายทาง ทำให้ไม่สามารถหาสินค้าบรรทุกในเที่ยวกลับได้ ซึ่งการมีศูนย์ข้อมูลจะเข้ามาช่วยเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลความต้องการว่าจ้าง และความต้องการรับจ้างไว้เป็นแหล่งเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากการเดินรถบรรทุกขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดการเดินรถบรรทุกเที่ยวเปล่าลงจากร้อยละ 46 ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 40 ภายใน 5 ปี อีกทั้งคาดว่าจะช่วยลดการสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดจากรถบรรทุกเที่ยวเปล่า 33 ล้านเที่ยวต่อปี จำนวนถึง 1,596 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 22,536 ล้านบาทต่อปี
คณะอนุกรรมการฯ ยังได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 122 ล้านบาท ให้กับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อดำเนินโครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม โดย พพ. ได้รับในวงเงิน 50 ล้านบาท จัดทำโครงการพัฒนาพลังงานลมเพื่อผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม ขนาด 900 กิโลวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้ 1,110 หน่วยต่อปี ติดตั้งที่อำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กฟภ. ได้รับในวงเงิน 31 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าจ่ายขนานเข้าระบบจำหน่าย ขนาด 600 กิโลวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้ 1,180 หน่วยต่อปี ติดตั้งที่ อ.สะทิงพระ จ.สงขลา และ กฟผ. ได้รับในวงเงิน 41 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการสาธิตระบบผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ ขนาด 600 กิโลวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้ 1,300 — 1,400 หน่วยต่อปีดำเนินการติดตั้งที่ แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังได้อนุมัติให้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จัดประชุมวิชาการนานาชาติ The Conference on Biofuel : Business Challenges for Asian Future และนิทรรศการด้าน Biofuel ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม — 1 กันยายน 2547 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อริเริ่มความร่วมมือในการพัฒนา Biofuel ในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาและส่งเสริมการผลิตและการใช้ Biofuel จากประเทศบราซิลและประเทศเยอรมนี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือด้านวิชาการและด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Biofuel ทั้งในระดับภาครัฐและภาคเอกชนระหว่างประเทศไทย บราซิล และเยอรมนี รวมถึงประเทศอื่น ๆ
โดยปัจจุบัน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น บราซิล เยอรมนี และออสเตรเลีย ตอบรับเข้าร่วมประชุมแล้ว 15 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายหน่วยงานส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม และจัดนิทรรศการ โดยประมาณการว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 400 คน--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--