กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--เขตคันนายาว
นายหัสฎิณ ปิ่นประชาสรร ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กล่าวในงานเปิดเวทีประชาพิจารณ์จัดทำแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเอง ที่ชุมชนหมู่บ้านเปรมฤทัย 1 ซ.รามอินทรา 46 ถึงกรณีที่มีหลายชุมชนในพื้นที่เขตคันนายาวแสดงความเป็นกังวลที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกครั้งในปีนี้ โดยให้ความเชื่อมั่นว่าทางสำนักงานเขตและหลายๆ เขตพื้นที่ กทม. จะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ โดยหลังเกิดอุทกภัยทางเขตคันนายาวได้มีการเตรียมพร้อมรับมืออย่างเป็นระบบโดยมีการขุดลอกคูคลองไม่ให้ตื้นเขิน ที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุน อีกทั้งจากกรมราชทัณฑ์ ทหารที่มาทำงานร่วมกัน ขณะที่ส่วนหนึ่งได้ว่าจ้างการขุดลอกคลองด้วยงบประมาณของ กทม. รวมถึงยังเน้นมาตรการกำจัดผักตบชวาตามลำคลองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะจากการติดตามหลังการเก็บผักตบชวาอย่างคลองลำชะล่าขึ้นมาได้เพียง 2-3 สัปดาห์ ก็จะมีผักตบชวาไหลมาแออัดกีดขวางทางน้ำเหมือนเดิม
“อย่างไรก็ตาม อีกปัญหาที่แก้ไขได้ยากมากคือ ปัญหาการบุกรุกพื้นที่บริเวณริมคลอง ที่ผ่านมาทางเขตคันนายาวได้ใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ จะไม่มีการละเว้น แต่ในหลายครัวเรือนได้อยู่ในพื้นที่มาเป็นระยะเวลานานหลายรุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาทำความเข้าใจ เพื่อให้โอกาสในการปรับตัวและทำการเคลื่อนย้ายต่อไป”
ส่วนปัญหาในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมนั้น นายหัสฎิณ กล่าวว่า ในส่วนของเงิน 5 พันบาท ตามมติของ ครม. นั้น ไม่มีปัญหา แต่ยังมีปัญหาล่าช้าในส่วนของเงิน 20,000 บาท เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจสอบหลักฐานให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง จึงต้องมีความระวังและละเอียดรอบครอบ เพราะเมื่อมีความผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องจะต้องถูกเรียกเงินคืนและมีการตรวจสอบจาก สตง. ทั้งนี้ หากผู้ประสบภัยที่ยังมีปัญหาติดขัดเรื่องใดๆ ขอให้มาพูดคุยกันก่อนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ก่อนที่จะไปฟ้องร้อง