กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ประกาศผลแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับการแข่งขัน ประกวดวงดนตรีสากลร่วมสมัยระดับมัธยมศึกษา บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน” ปี 2 ภายใต้แนวคิด: เสียงแห่งความจงรักภักดีจะยั่งยืน... ตลอดไป โดยกองทัพบก ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่คัดเลือกเยาวชน 5 ทีมสุดท้ายมาประชันความสามารถด้านดนตรีในรอบชิงชนะเลิศอย่างสนุกเร้าใจ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล พลาซ่า เมื่อวันก่อน โดยมีสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจเข้าชมอย่างเนืองแน่น พร้อมร่วมลุ้นระทึกไปกับผลการตัดสินเช่นกัน
ผลปรากฏว่าโรงเรียนที่คว้ารางวัลชนะเลิศในปีนี้คือ สตรีวิทยา 2 ร่วมกับโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย กรุงเทพฯ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์และเงินสดมูลค่า 300,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นของโรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) สงขลา แชมป์เก่าปีที่แล้ว ได้รับรางวัลเงินสด 150,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลเงินสด 75,000 บาทส่วนรางวัลชมเชยมี 2 โรงเรียนคือตาคลีประชาสรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ และ วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ที่ได้รับเงินสดโรงเรียนละ 30,000 บาทนอกจากนี้ยังมีรางวัลแต่งบทเพลงยอดเยี่ยม ซึ่งโรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูน คว้ารางวัลนี้ไปครองอย่างภาคภูมิใจ พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า โครงการ “บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน” มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านการประกวดแต่งเพลงและเล่นดนตรีสากลร่วมสมัยระดับมัธยมศึกษา ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 และได้รับผลตอบรับดีจากเยาวชนทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมมากมาย รู้สึกยินดีกับทุกทีมที่สามารถคว้าชัยชนะในวันนี้ จากความพยายามในการทุ่มเทฝึกซ้อม สร้างวินัยและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ และพัฒนาการด้านดนตรีที่มีมากขึ้น มาใช้ในแข่งขันได้เป็นอย่างดี สำหรับบทเพลงที่ชนะเลิศจะได้รับการปรับปรุงและเผยแพร่ออกสู่สาธารณะต่อไป เราคาดว่าจะจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกำลังใจและส่งเสริมเยาวชนที่มีความสามารถเหล่านี้ ที่สำคัญจะได้คือจะได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดีและบอกรักสองพระองค์ท่านผ่านบทเพลงอันไพเราะร่วมกันต่อไป สำหรับผู้สนใจติดตามดูข้อมูลต่าง ๆ ของโครงการได้ที่ www.thetreeofloves.com” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โชกุน- กฤต ศิริสวัสดิ์ (ร้องนำ) ตัวแทนวง “THE AVENGERS” จากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 และนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย จังหวัดกรุงเทพฯ รางวัลชนะเลิศจากการประกวดวงดนตรีฯ กล่าวว่า สำหรับวง THE AVENGERS ประกอบด้วยสมาชิก 20 คน เป็นวงผสมระหว่างสองโรงเรียน มีจุดเด่นที่สำคัญ คือความพร้อมเพรียงและความสามัคคีเรื่องทีมเวิร์ค ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนเอกลักษณ์การร้องเพลงแบบ Acapella ที่เน้นความสนุกสนานของโชว์บนเวทีได้อย่างน่าสนใจ
“สำหรับรางวัลชนะเลิศที่ได้รับ พวกเราไม่ได้คาดหวังมากนัก แต่เพราะได้ทำอย่างเต็มที่อย่างตั้งใจไว้ เพราะเราคิดว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ทำให้คนมีความสุข จึงเน้นเรื่องการโชว์ให้มีความตื่นเต้น ยิ่งใหญ่ ซึ่งอาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งคณะกรรมการอาจเล็งเห็นถึงความยากลำบากในการซ้อม เพราะเราอยู่ต่างโรงเรียนกัน แต่เมื่อรวมวงแล้วสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้และเล่นดนตรีอย่างลื่นไหล ประการสำคัญคือการนำดนตรีไทยมาเล่นคู่กับดนตรีสากล ซึ่งถือว่ายากมาก เพราะการจูนเสียงของตัวโน้ตมีสเกลที่ต่างกัน เป็นต้น สำหรับเพลงพระราชนิพนธ์วงเราเลือกร้องแบบออแคปเปร่า หรือการร้องแบบไม่ใช้เครื่องดนตรี แต่ใช้เสียงประสานมากกว่า ซึ่งเราใช้เวลาเตรียมตัวมาตั้งแต่รอบแรกแล้ว โดยพยายามหาเวลาว่างมาฝึกซ้อมร่วมกันให้มากที่สุด และนำสิ่งที่ได้รับจากค่ายอบรม อาทิความสามัคคี ความรู้ด้านดนตรี ฯลฯ มาใช้บนเวทีทั้งหมดในวันนี้ อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ว่า หากสนใจมาประกวด อันดับแรกต้องรักในเสียงดนตรีก่อน เพราะถ้าไม่รักจริง ๆ จะเบื่อกับการฝึกซ้อมมาก ที่สำคัญขอให้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ และคอยปรึกษาผู้ใหญ่และครูผู้รู้อยู่เสมอ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะคว้าชัยชนะได้ในที่สุด”
แฮม-ณัฐกิต ศรีทองสุข (กีต้าร์) และ พี-พีระพล ดวงจะนะ (ร้องนำ) สองหนุ่มตัวแทนวง “CKK” จากโรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูน ทีมชนะเลิศจากแต่งบทเพลงยอดเยี่ยม กล่าวว่า” สำหรับ “เพลงดวงใจประชา” พวกเราแต่งด้วยความรักที่มีให้ต่อพระองค์อย่างแท้จริง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระราชินีนาถ ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้อยู่ดีกินดีมาช้านาน เนื้อหาของเพลงสะท้อนถึงการที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือคนไทยมาตลอด จึงอยากให้พระองค์อยู่เป็นร่มโพธ์ร่มไทยให้เราตลอดไป เป็นแนวเพลงฟิวชั่น หรือการนำดนตรีหลายๆ แนวมารวมกัน ใช้เวลาแต่งประมาณ 1 เดือน สำหรับรางวัลที่ได้จะมอบให้โรงเรียนเพื่อนำไปซื้อเครื่องดนตรีให้กับรุ่นน้องต่อไป เวทีนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพราะได้มีโอกาสได้เล่นดนตรีที่เรารัก และยังมีโอกาสได้รับคำชี้แนะเพื่อปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีชั้นนำของเมืองไทย จึงอยากเชิญชวนให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้ามาร่วมแต่งเพลงให้พระองค์อีกในปีต่อ ๆ ไป รับรองเวทีนี้สนุกและคุ้มค่ามากๆ” สองหนุ่มวง CKK.กล่าว
หลังจากนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักเท่าใด “บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน” ก็ยังคงกึกก้องอยู่ในหัวใจน้องๆ เยาวชนเหล่านี้ ตลอดจนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ที่พร้อมจะขับขานความไพเราะและซาบซึ้งใจ เพื่อมอบแด่องค์พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง ผู้เปรียบเสมือนดั่งร่มโพธิ์ร่มไทร เพื่อให้เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป