กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม
กล้าพูดได้ว่า “ชัมบาลา” เป็นหนังไทยเรื่องแรก และเรื่องเดียวที่ต้องได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยที่ยกกองไปตะลุยถ่ายทำกันไกลถึงทิเบตดินแดนที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 4,000เมตร ท่ามกลางอุปสรรคทั้งสภาพอากาศหนาวสุดขั้วลบ 15 องศา ตามความตั้งใจและความฝันนานนับ10 ปีของผู้กำกับปี๊ด-ปัญจพงศ์ คงคาน้อย ที่เยือนดินแดนหลังคาโลกมาแล้วถึง 4 ครั้ง และนี่คือเบื้องหลังกว่าฉากเหตุการณ์สำคัญในภาพยนตร์ที่ 2 พี่น้อง ทิน (อนันดา) และวุฒิ (ซันนี่) ต้องฝ่าเส้นทางการผจญภัยที่แสนหฤโหดไปด้วยกันเพื่อตามหาดินแดนดังกล่าว ส่งผลให้ 2 พระเอกหนุ่มและทีมงานต้องร่วมเดินทางกว่า 16 ชั่วโมงด้วยรถยนต์ หลังจากลงจากเครื่องบินเพื่อมุ่งหน้าสู่ทิเบต และเดินทางไปยังโลเกชั่นพิเศษที่เป็นดั่งสรวงสวรรค์ที่แสนสงบของชัมบาลา ทั้งหมดต้องเปลี่ยนมาเป็นการเดินทางโดยใช้ม้าเป็นพาหนะ ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบที่ 3 จากหลายร้อยทะเลสาบ ซึ่งหิมะตกตลอดการเดินทาง ในท้ายที่สุดต้องเดินเท้าแทน เพราะม้าไม่สามารถไปต่อได้ แถมยังต้องค้างแรมด้วยอุณหภูมิความหนาวเหน็บทะลุขั้วกระดูก โดยได้รับความอนุเคราะห์จากชาวนอแมทพื้นเมืองให้นักแสดง และทีมงานคนไทยได้ร่วมนอนอยู่ในกระโจมเต็นท์บนพื้นหญ้าที่ไม่ต่างอะไรจากพื้นน้ำแข็งกลายๆ ขนาดผ่านประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวผจญภัยอย่างโชกโชน อนันดา เอเวอริงแฮมยังยอมรับว่าการผจญวิบากกรรมตลอดการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องชัมบาลาในทิเบตเป็นอะไรที่สุดขั้วจริงๆ
“พอนึกถึงวันที่เข้าไปถ่ายทำในดินแดนชัมบาลา โอ้โหก็ต้องขับรถเข้าไปถึงอุทยานมันมีทะเลสาบที่ไม่สามารถขับรถเข้าไปต่อได้ ทุกคนก็ต้องขี่ม้าเข้าไป และก็ต้องเข้าป่ากับชนเผ่าเร่ร่อนที่มาตั้งกระโจมเต็นท์และก็อยู่ไปเรื่อยๆ เราก็แบบสนุกสวยขี่ม้ากันเข้าไปตอนเย็น เฮ้ยเดี๋ยวเราค้างคืนและตื่นมาถ่ายตอนเช้าพวกฉากไคลแม็กซ์และฉากชัมบาลา ก็ไปกันผู้ชายประมาณสิบคน ได้ข่าวว่าเขาตั้งเต็นท์ให้ก่อไฟเป็นที่ทำอาหารเล็กๆ เป็นจุดๆ พอไปถึงเต็นท์ยังไม่มี มันเป็นเหมือนแค่กล่องเล็กๆและก็มีเหล็กทับอยู่มีทางออกของควันแค่นี้ พอหนาวมากเขาก็ลงมากางเต็นท์ที่รอบผิงไฟที่ทำอาหาร พวกเราต่างแต่งตัวกันเต็มเหนี่ยวเลย เพราะเดี๋ยวคืนนี้ต้องหนาว เอาผ้าห่มไป เอาเสื้อหนาวไป ตอนแรกคิดว่ามีหลายเต็นท์ปรากฎมีอันเดียว แล้วต้องนอนตัวติดกันเรียงกันเป็นตับอยู่ในเต้นท์ไม่มีพื้นที่ขยับได้ ถ้ากลิ้งก็ทับกันได้เลย แล้วพอมืดพวกพื้นเมืองเขาก็เตือนว่าพวกหมาที่เขาเลี้ยงกัน หมาชนเผ่าที่เอาไว้ล้อมแกะก็คือดุมากไม่จำเป็นอย่าออกไปเพ่นพ่านนอกเต็นท์ บอกได้เลยตรงนี้ว่าเกิดมายังไม่เคยเจอหมาที่ดุขนาดนี้มาก่อนในชีวิต พอตกดึกโอ้โหอุณหภูมิมันลบเท่าไรไม่รู้คือเขาไม่ได้ปูอะไรบนพื้นนะ มันก็คือแค่เต็นท์ล้อมแล้วก็แบบอยู่บนดินเลย พอดึกเข้าพื้นมันชื้นไม่มีทางที่จะห้ามความเย็นขึ้นมา หนาวแบบไม่มีใครนอนหลับ ไม่เคยทรมานอย่างนั้นมาก่อน”
เช่นเดียวกับหนุ่มซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ที่ตื่นตะลึงกับความหนาวเหน็บ และการเปลี่ยนผ่านฤดูเพียงข้ามคืน
“ที่บอกว่ามันหนาว คือมันหนาวจริงๆ แบบไม่มีจุดไหนเลยที่อุ่น ไม่มีที่ว่าจะใส่อะไรแล้วรู้สึกว่าอุ่นจังสบายใจร้อนเหงื่อท่วมไม่มีนะครับ มีทุกอย่างใส่เข้าไปเถอะ ยิ่งตอนอยู่ในป่าใกล้ชัมบาลา พื้นนี้แบบเย็นอย่างกับน้ำแข็ง ต้องนอนกันอย่างนั้น จุดไฟก็แล้ว อะไรก็แล้ว ตอนนั้นที่กินน่าจะมีเนื้อจามรีด้วย แต่จำอะไรไม่ค่อยได้ เพราะตอนนั้นผมป่วยด้วย ลิ้นมันจะไม่รู้รสอะไรเลย กินอะไรไม่ค่อยได้มาก แต่ต้องกินให้หายหิว อุปสรรคส่วนใหญ่มีแต่ความหนาว มันอยู่ในพื้นที่สูงด้วย แล้วช่วงเวลาที่เราไปด้วยคือในฤดูใบไม้ร่วงเข้าหน้าหนาว ใบไม้เปลี่ยนจากเขียวไปเหลืองแล้ว เราก็จะไปช่วงนั้นแล้วมันก็ข้ามวัน เราขึ้นไปนอนปุ๊บถ่ายเสร็จตื่นมาตอนเช้าก็แบบขาวโพลนไปหมดเลย เป็นช่วงหิมะตก เป็นช่วงที่ฤดูมันเปลี่ยนที่เราไม่รู้เห็นกับตาจากเมื่อวานไม่มียังแห้งๆ อยู่”
ฟังดูแล้วไม่ง่ายเลยที่เดียวกว่าจะได้ภาพสวยๆ ที่ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์โดยเฉพาะโลเกชั่นอย่างชัมบาลาและทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตาของทิเบต ไปพิสูจน์ความงามบนผืนโลกของชัมบาลาได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์