กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--เวิรฟ
ด้วยปัจจุบันความต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวตามปัจจัยส่งเสริมทั้งในส่วนของตลาดบ้าน ตลาดอพาร์ทเม้นท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากจำนวนความต้องการในปัจจุบัน ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้ชีวิตในชุมชนเมือง อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบแมสทรานซิสที่สามารถเชื่อมโยงสถานที่ไลฟ์สไตล์หรือแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน จนเกิดเป็นกระแสเทรนด์ “Urban City Lifestyle - เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์”
นายฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวแนะนำว่า “จากที่เทรนด์การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความต้องการอสังหาริมรัพย์จากเดิมที่เน้นเลือกพื้นที่ในแนวราบมาเป็นอสังหาริมทรัพย์แนวสูง ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับได้รับปัจจัยส่งเสริมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง(Succeeders) ที่ต้องการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยเป็นเจ้าของซิตี้ไลฟ์สไตล์ และลงทุนเพื่อผลกำไรในอนาคต ทำให้เกิดเทรนด์ในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการใช้ชีวิตแบบ “Urban City Lifestyle —เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์”โดยมีปัจจัยชี้วัดการเติบโต ดังนี้
การเติบโตของ “ที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง”
ในปัจจุบันหากชี้วัดได้จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณกรุงเทพฯ ในปีที่ผ่านมา และในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 นั้น นับว่ามีการขยายตัวเพิ่มตัวสูงขึ้นประมาณ 93,593 ยูนิต โดยส่วนมากจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ใจกลางเมืองใกล้แหล่งช้อปปิ้ง และสะดวกสบายต่อการเดินทาง ซึ่งบริเวณที่มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องในขนาดพื้นที่ห้องประมาณห้องสตูดิโอ, ขนาด 1-2 ห้องนอน และขนาด 3 ห้องนอน ได้แก่ บริเวณย่านสุขุมวิท 31% หรือประมาณ 28,972 ยูนิต โดยเฉพาะย่านทองหล่อ-เอกมัย ถัดมาคือบริเวณย่านสีลมและสาทร 16% หรือประมาณ 15,091 ยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา 16% หรือประมาณ 14,576 ยูนิต และบริเวณถนนพระราม 3 ประมาณ 13% หรือ 12,577 ยูนิต นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่กำลังพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติม ได้แก่ บริเวณย่านปทุมวัน ลุมพินี และบริเวณพื้นที่สุขุมวิทรอบนอก อาทิ อุดมสุข และบางนาเป็นต้น”
แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่บริเวณย่านสุขุมวิทโดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เส้นทางไฟฟ้ายังคงเป็นพื้นที่ทองคำและเหมาะสมสำหรับการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยาว เพราะมีปัจจัยในการเติบโตที่เข้ามาส่งเสริมหลายด้าน อาทิ การเติบโตของสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบแมสทรานซิส สังคมและชุมชน เป็นต้น จึงทำให้พื้นที่เหล้านี้จัดอยู่ในกลุ่ม “เออเบิน แอเรีย — Urban Area” ที่น่าจับตามองที่สุด
สะดวกสบายด้วยไลฟ์สไตล์“คอมมูนิตี้ มอลล์”
นับว่าเทรนด์การซื้อของและใช้ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนมากจะอยู่บริเวณใจกลางเมือง และบริเวณใกล้ระบบแมสทรานซิสเป็นหลัก ทำให้เกิดกระแสการก่อสร้างและเติบโตของกลุ่มคอมมูนิตี้ มอลล์ เพื่อเป็นการรองรับต่อความต้องการใช้ไลฟสไตล์ที่หลากหลาย ทั้งเสริมความงาม ทานอาหาร สถาบันสอนภาษา ดนตรี ศิลปะ หรือร้านค้าสินค้าแฟชั่นและแอคเอสเซอรี่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 1-2ปีที่ผ่านมามีการเปิดคอมมูนิตี้ มอลล์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ เทอร์มินอล 21 บริเวณอโศก-พร้อมพงษ์ หรือเกตเวย์ — Gatewayบริเวณเอกมัย ประกอบกับคอมมูนิตี้ มอลล์เดิมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว อาทิ เจ อเวนิว ทองหล่อ,ฟิฟตี้ฟิฟท์ ทองหล่อ, พาร์คเลน สุขุมวิท 63 หรือเรนฮิลล์ สุขุมวิท 49ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์บริเวณตั้งแต่อโศกจนถึงเอกมัยมีมูลค่าสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 130,000 บาทต่อตารางเมตรและรูปแบบการใช้ชีวิตในบริเวณพื้นที่นี้มีความสะดวกสบายแบบครบวงจร
“ราคา” ที่สมเหตุสมผล
นับว่าปัจจัยด้านราคาของอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ โดยในปัจจุบันแนวโน้มราคาที่ดินเริ่มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมือง ซึ่งในปี 2555 มีแนวโน้มการขยับราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13% หรือประมาณ 140,851 บาทต่อตารางเมตร โดยพื้นที่บริเวณสีลมและสาทรมีราคาเฉลี่ยประมาณ 137,187 บาทต่อตารางเมตร และสุขุมวิทมีราคาเฉลี่ยประมาณ 130,054 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ทำให้พื้นที่ย่านสุขุมวิทมีมูลค่าเหมาะสมกับกลุ่มคนใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่รายล้อมพร้อมด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้เลือกมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่บริเวณสุขุมวิท 61 ที่นับว่าเป็นพื้นที่ทองคำ โดยได้รับรางวัลซอยดีเด่นของกรุงเทพมหานครเป็นเครื่องหมายที่การันตีถึงมาตรฐานความเป็นอยู่ของชุมชนที่สงบและเป็นมิตร และที่สำคัญห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเอกมัยเพียง 3 นาที
“สเปซกว้าง” ตกแต่งดีไซน์ได้ง่ายดั่งใจคิด
ต้องบอกว่าสิ่งสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยที่นอกเหนือจากพื้นที่ที่ดี ราคาที่เหมาะสม และใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกแล้ว คือ การดีไซน์ห้องสไตล์ “All SuiteBoutique Living” ที่เน้นความสบายและลงตัวของผู้อยู่อาศัยใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสูงสุด และพื้นที่ใช้สอยภายในห้องต้องรองรับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อยากเหมาะสม ลักษณะห้องที่ดีควรมีการวางผังห้องที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสมีความกว้างมากถึง 7-8 เมตร หรือแบบ “SpaciousLiving” เพื่อทำให้เกิดความง่ายในการจัดspace planning หรือการตกแต่งห้องเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ทั้งการวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว รวมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้องต้องสามารถปรับเปลี่ยน เพื่อให้เกิดความกว้างภายในตัวห้องเพิ่มขึ้น โดยลักษณะห้องที่สร้างความสมดุลได้มากที่สุดควรมีความลึกประมาณ 7 เมตรเพราะทำให้ห้องได้รับแสงจากธรรมชาติได้เกือบ 100% แถมช่วยในเรื่องการระบายอากาศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความสูงของเพดานฝาก็มีส่วนให้ห้องมีความสูงและกว้างเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สบายใจด้วยการบริหารแบบ “High International Standard Best Practice”
ปัจจัยไลฟ์สไตล์แบบ “Urban City Lifestyle - เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์”ที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสำหรับผู้ที่ต้องการชีวิตสะดวกสบายเพื่อสนับสนุนความพร้อมในชีวิตที่ประสบความสำเร็จสูงคือ การบริหารการจัดการของนิติบุคคลหลังการเข้าอยู่ในคอนโดมิเนียม ได้แก่ การสร้างคุณค่าในการบริการ “Value Service”ที่เน้นในเรื่องการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีการสื่อสารกับลูกค้าตลอดเวลา พร้อมทั้งต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวก “Best Practice Facility Management”ได้แก่ การบริหารจัดการทรัพย์สินและเครื่องจักรส่วนกลาง ที่มีการวางแผนและวางงบประมาณล่วงหน้าถึง 5 ปี เพื่อซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรและดูแลทรัพย์สินส่วนกลางต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งระบบประเมินผลการทำงาน และปัจจัยสำคัญสุดท้าย คือ การดูแลคุณภาพการบริการ “Quality Assurance”ที่มีทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าจากบริษัทฯ เป็นที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ภายใต้มาตรฐานความใส่ใจในแบบ Refined Quality Living อันเป็นหัวใจสำคัญของที่อยู่อาศัยเทรนด์ “Urban City Lifestyle - เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์”
โดย“เกษร พร็อพเพอร์ตี้” ได้เน้นยังในเรื่องเทรนด์ “Urban City Lifestyle - เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์”และโดดเด่นในเรื่อง “High International Standard Best Practice” โดยผ่านรูปแบบการบริหารโครงการคอนโดมิเนียม “MODE — โหมด” ที่มีฟังก์ชั่นเน้นการตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้ชีวิตแบบ “Low-rise, Low-density — โลว์-ไรส์, โลว-เดนซิตี้”อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์ของ “Urban City Lifestyle - เออเบิน ซิตี้ ไลฟ์สไตล์” โดยล่าสุดได้รับรางวัล “International Property Awards สาขา Apartment Thailand” ปี 2555 ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความโดดเด่นด้านการออกแบบดีไซน์และการตอบสนองรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่ศัยได้อย่างลงตัวเป็นอย่างดี
พบคอนโดมิเนียม “MODE — โหมด สุขุมวิท 61” ที่สุดแห่งเดสทิเนชั่นส์และการใช้ชีวิตแบบLow-rise, Low-density — โลว์-ไรส์, โลว-เดนซิตี้” ได้ที่โชว์รูม MODE — โหมด สุขุมวิท 61 คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้าเกษร ชั้น 3 และคอมมูนิตี้ มอลล์ พาร์คเลน สุขุมวิท 61 หรือโทร. 02-612-5959