กสทช. เชิญดีแทคชี้แจงปัญหาสัญญาณล่ม

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday August 28, 2012 17:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กสทช. จากกรณีที่สัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เกิดขัดข้องใช้งานไม่ได้ บริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 เวลาประมาณ 11.00 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวสำนักงาน กสทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ส่งเจ้าหน้าที่ และรถตรวจสอบไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโครงข่ายการให้บริการ 3จี ทั้งหมดใช้การไม่ได้ ส่วนการให้บริการโครงข่าย2จี ใช้การได้บางส่วน สำนักงาน กสทช. จึงได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอให้ตรวจสอบและรายงานเหตุขัดข้องในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยได้เชิญ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เช้าชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสำนักงาน กสทช. ในวันที่ 28 สิงหาคม 2555 เวลา 16.00 น. โดยที่ปรากฏว่า การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเครือข่ายดีแทคได้เกิดเหตุขัดข้องขึ้นหลายครั้ง สำนักงาน กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว เห็นว่า เหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการบริการประชาชนที่ต้องได้รับการบริการระบบโทรคมนาคมที่มีมาตรฐานและคุณภาพ ประกอบกับปัญหาในทำนองเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นหลายครั้ง และสำนักงาน กสทช. ได้มีการตักเตือนไปแล้ว ดังนั้น เพื่อกำกับการบริการประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยในส่วนของสำนักงาน กสทช. จะได้กำหนดมาตรการการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมีนายทศพร เกตุอดิศร รองเลขาธิการ กสทช. เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว และกำหนดค่าปรับตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ที่ระบุว่าผู้รับใบอนุญาตต้องบำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคม และอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจการโทรคมนาคมที่ผู้รับใบอนุญาตนำมาใช้ในการให้บริการโทรคมนาคมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีโทษกำหนดค่าปรับไว้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ทั้งนี้ในการพิจารณากำหนดค่าปรับนั้นคณะกรรมการฯ จะพิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น และความน่าเชื่อถือในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมด้วย โดยการดำเนินงานดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 — 10 วัน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายได้ทันที

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ