กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--IR PLUS
MFEC ไม่หวั่น ผลงาน Q2/55 กำไรอยู่ที่ 34 ลบ. ลดลง 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 61 ลบ. เนื่องจากลูกค้าเลื่อนส่งมอบงาน ส่งผลให้ผลงานครึ่งปีแรกมีกำไรอยู่ที่ 47 ลบ. ลดลง 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 82 ล้านบาท แต่ปัจจุบันตุน Backlog แล้วที่ 1.34 พันลบ. แถมจ่อประมูลงานรัฐวิสาหกิจมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท คาดมีโอกาสได้งานสูง จึงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 15% ได้สำเร็จ
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFECผู้ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา พัฒนาและวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังว่า มีทิศทางขยายตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ตามทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมไอทีที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายโครงการฟื้นตัวจากช่วงน้ำท่วม ประกอบกับรัฐบาลได้ออกนโยบายต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้หลายบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ตื่นตัวหันมาใช้ไอทีเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 1,340 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 60 - 70% ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีถัดไป
“มั่นใจว่าครึ่งปีหลังธุรกิจเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ทั้งจากการฟื้นตัวหลังน้ำท่วมของภาคอุตสาหกรรม และการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประการสำคัญเรามี Backlog ที่รอรับรู้รายได้อยู่แล้วกว่า 1,340ล้านบาท นอกจากนั้นยังได้เข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้เตรียมประมูลงานรัฐวิสาหกิจมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท และคาดว่ามีโอกาสได้งานสูง เนื่องจากงานดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นงานต่อเนื่องของ บริษัทฯ อยู่แล้ว ประกอบกับการควบรวมเป็น MFEC GROUP ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมรับมือกับการแข่งขันได้อย่างคล่องตัว จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 15% ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2555 (เมษายน-มิถุนายน 2555 ) บริษัทฯ มีรายได้รวม 768 ล้านบาท ทั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงลดลงจากไตรมาส 2/2554 ราว 308 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 29 และงวดครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 1,592 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 232 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 13 เนื่องจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการสั่งซื้อสินค้า ทำให้เกี่ยวเนื่องกับการรับรู้ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกปีนี้
โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2/2555 อยู่ที่ 34 ล้านบาท ลดลง 27 ล้านบาท หรือร้อยละ 45 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท โดยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2555 (มกราคม — มิถุนายน 2555) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 47 ล้านบาท ลดลง 35 ล้านบาท หรือร้อยละ 43 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท
“ผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ผ่านมาปรับตัวลดลง เนื่องจากลูกค้าเลื่อนรับรู้งาน ส่งผลให้มี Backlog เมื่อสิ้น Q2/55 อยู่ที่ 1,340 ล้านบาท ประกอบกับโปรเจ็คต่างๆ ที่บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลในช่วง Q2/55 ล่าช้ากว่าที่คาดไว้ จึงเลื่อนไปประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมีมูลค่าราว 2,600 ล้านบาท ประกอบกับความแข็งแกร่งของ MFEC GROUP จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และรองรับงานได้กว้างขวาง จึงเชื่อว่าเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโต 15% เป็นไปตามที่กำหนดไว้ได้” นายศิริวัฒน์ กล่าว
ข้อมูลบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน)
บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษา พัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าวิสาหกิจ (Enterprise) ขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีพนักงานรวมบริษัทในเครือ 4 บริษัททั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 80 เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างสูง มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 200 บริษัท และเมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมาได้ควบรวมกิจการกับ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีในนาม MFEC GROUP เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง รองรับการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก และก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม Software และ IT Services ของประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันมีพนักงานรวมบริษัทในเครือ 13 บริษัททั้งสิ้นกว่า 1,500 คน และกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 700 บริษัท ซึ่ง 3 บริษัทไอทีชั้นนำดังกล่าวที่ควบรวมประกอบด้วย
บริษัท บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น จำกัด หรือ BAC เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายของ IBM COGNOS ซอฟต์แวร์ด้าน Business intelligence (BI) รายเดียวในประเทศไทย
บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ Motif ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ โดยเป็นบริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติไทยผู้วิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ของตนเอง เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท Motif เอง ที่ใช้ในระบบงานโอเปอเรชั่นของสถาบันการเงินการธนาคาร งานกฎหมาย การบริหารองค์กรภาครัฐ มีวิศวกรทางด้านซอฟต์แวร์กว่า 100 คน และมีลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่กว่า 20 แห่ง
บริษัท ซอฟต์สแควร์ กรุ๊ป (Soft Square Group) ให้บริการด้านการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มีบุคลากรประมาณ 400 คน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครือ 8 บริษัท ถือเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เฮาส์คนไทยที่มีอายุงานยาวนานและมีการเติบโตยั่งยืนต่อเนื่องที่สุด ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ซอฟต์สแควร์ ได้รับความไว้วางใจในการจัดหาและติดตั้งระบบงานคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้กับองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอุตสาหกรรมการผลิตกว่า 300 ราย ทั้งในและต่างประเทศ