Scoop แดน + บีม D2B ใน ออสเตรเลีย

ข่าวทั่วไป Friday August 13, 2004 08:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
วันนี้มีภาพและเรื่องสนุก ๆ ของสองหนุ่มขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศมาฝาก รับรองได้หายคิดถึงกันแน่นอน เริ่มจากหนุ่มเข้มคนแรก “แดน - วรเวช ดานุวงศ์” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “แดน D2B” ที่หอบหิ้วสัมภาระไปพร้อมกับทีมงานรายการสัญญามหาชน ซึ่งนำทีมโดย “พี่ดู๋ — สัญญา คุณากร” พาชาวคณะไปเยี่ยมเยียนพี่ใหญ่ใจดี “บีม — กวี ตันจรารักษ์” หรือ “บีม D2B” ที่ไปเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่บริสเบน (Brisbane) เมืองหลวงของรัฐควีนแลนด์ (Queensland) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย (Australia)
ตั้งแต่เดือนมีนาคม ต้นปีที่ผ่านมานี้ แต่กว่าจะไปเจอกับบีม ก็ทำเอาขวัญเสีย เพราะเครื่องบินดีเลย์ไปเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งพอได้เจอหน้ากันก็ดีอกดีใจกันใหญ่ แต่ไม่วายมีแซวกัน โดยเฉพาะทรงผมของบีมที่สั้นขึ้น กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 5 กิโลกรัม
โดยเริ่มเดินทางเวลา 17.35 น. ในวันที่ 11 ก.ค. ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่นี่จะเร็วกว่าไทยเรา 3 ชั่วโมง อากาศก็กำลังเย็นได้ที่ต่ำสุด 10 องศา ซึ่งได้นัดหมายกับบีมให้มาเจอกันที่สนามบิน Brisbane เพื่อนั่งรถบัสต่อไปยังท่าเรือข้ามไปที่เกาะ Tangalooma ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองบริสเบนเพียง 40 กิโลเมตร ตอนที่อยู่ในเรือสองหนุ่มก็จับคู่สนทนากันอย่างออกรสออกชาติทีเดียว จากนั้นก็เข้าไปพักที่ Tangalooma Wild Dolpin Resort มีนักท่องเที่ยวจากหลาย ๆ ประเทศ มาพักกันเต็ม 1 ในหลาย ๆ ประเทศก็มีไทยเราด้วย เพราะมีเข้ามาถ่ายรูปกับสองหนุ่มด้วย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ไปศึกษาที่นั่น พอเก็บสัมภาระเข้าห้องกันแล้ว ก็เริ่มกิจกรรมผจญภัยกันเลย เริ่มจาก นั่งรถบัสคันใหญ่ขึ้นไปบนภูเขา เพื่อไปเล่น โทบ็อกเกน Toboggaing เลื่อนไม้ชนิดยาวที่ลื่นลงมาจากทะเลทราย หลังจากฟังวิธีการเล่นจากเจ้าหน้าที่แล้ว สองหนุ่มก็ขึ้นไปลุยทันที รอบเดียวไม่พอ ขอสองรอบ ปรากฏว่าเจอทรายเข้าปากไปเต็ม ๆ โดยเฉพาะบีม ส่วนแดนบอกยังไม่สะใจ เพราะความเร็วในการไหลลื่นลงมายังไม่เท่าไรว่าไปนั้น จากนั้นก็เตรียมตัวไปให้อาหารปลาโลมา ที่สะพานหน้ารีสอร์ท สองหนุ่มก็ค่อนข้างตื่นเต้นเพราะได้ให้อาหารกับมือเลย แต่กว่าจะได้ให้ ก็ออกอาการสั่น ไม่ใช่อะไร ก็น้ำทะเลตอนค่ำของที่นี่ เย็นได้ใจจริง ๆ แถมพอซักพักมีฝนตกลงมาอีก วิ่งหลบฝนกันแทบไม่ทัน
วันที่ 2 ของทริปนี้ สองหนุ่มได้ล่องเรือไปดูปลาวาฬ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รับรองว่าออกไปแล้วจะได้เห็นวาฬหรือเปล่า เอาละซิ แรก ๆ เรือก็แล่นเพลิน ๆ สบาย ๆ แต่พอไปไกลก็เริ่มมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง กระทั่งถึงรุนแรง ทำเอาเมาคลื่นเมาเรือกันไป แต่ก็โชคดีมาก ๆ เพราะทริปนี้
ได้เห็นปลาวาฬใกล้มาก ๆ ตัวใหญ่มาก ๆ แถมเห็นพร้อมกันหลายตัวด้วย เสร็จจากชมชีวิตธรรมชาติของปลาวาฬแล้ว ก็ขึ้นฝั่งเข้าไปพักกันที่ Watermark Hotel เมืองโกลด์โคส์ต Gold Coast แหล่งรวมความบันเทิงนานาชนิด นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวที่โกลด์โคสต์เป็นพิเศษ เข้าที่พักล้างหน้าล้างตากันแล้ว ก็พากันมาทานข้าวที่ ร้านเชียงใหม่ไทย คนแน่นมาก ๆเจ้าของร้านบอกว่าอาหารไทยเป็นที่นิยมของคนที่นี่มาก ๆ น่าดีใจจริง ๆ
วันที่ 3 ของการเดินทางเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมตัวไปยัง “ซี เวิล์ด” Sea World ที่รวมของสัตว์ทะเลในซีกโลกใต้ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ เช่น โชว์โลมา ซึ่งสองหนุ่มก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปชม
แถมยังได้รับการอนุญาตเข้าไปให้อาหารปลาโลมาอีกด้วย เรียกว่าเป็นทริปโลมาได้เลยนะเนี่ย จากนั้นก็เดินลัดเลาะชมสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมีขั้วโลกใต้ สีขาวตัวใหญ่ เป็นขวัญใจของเด็กตัวเล็ก ๆ / ฉลามทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก ก็กว่าจะเดินชมกันทั่ว Sea World ก็ทำเอาเมื่อยไปตาม ๆ กันแต่ดีที่อากาศเย็น ถึงจะเดินมากขนาดไหน เหงื่อก็ไม่ออก พอจบจาก Sea World ก็ได้ไปชมPalazzo Versace โรงแรมเวอร์ซาเซ่แห่งแรกแห่งเดียวในโลก ตกแต่งสไตล์อิตาลี ก็อลังการงานสร้างมาก ๆ สองหนุ่มก็ถือโอกาสเดินชม แต่ที่จะสนอกสนใจเป็นพิเศษ ก็คงเป็นบีมเพราะชอบเรื่องสถาปัตยกรรม การตกแต่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอตกเย็นท้องเริ่มร้อง ก็ไปทานอาหารกันที่ร้านไทยออคิค แล้วได้เจอะเจอกับพี่ติ๊ก ทีน่า เจ้าของร้าน ผู้หญิงไทยที่บุกเบิกเปิดร้านอาหารไทยในบริสเบน ดูแลต้อนรับอย่างดี อิ่มกันถ้วนหน้า
วันที่ 4 ของการเดินทางแล้ว ทุกคนเตรียมตัวกันแต่เช้า พร้อมแพ็คข้าวของไปบริสเบนเพื่อไปชมชีวิตประจำวันของบีมในออสเตรเลีย งานนี้บีมทำหน้าที่เป็นำไกด์นำทาง พูดภาษาอังกฤษฟุตฟิตฟอไฟบอกทางกับคนขับรถ เริ่มต้นที่โรงเรียนสอนภาษา Queensland College of English < QCE > บีมพาไปที่ห้องเรียนที่เรียนทุกวันจันทร์ — ศุกร์ ก็เจอกับคุณครูประจำชั้นและเพื่อนร่วมชั้นเรียน มีทั้งคนไทย, เกาหลี ,ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส ฯลฯ พอเพื่อน ๆ เห็นกองคาราวานของทีมงานสัญญามหาชนเข้าไป ก็แตกตื่นกันพอสมควร ส่วนบีมก็เขินอายไปตามระเบียบ แต่ดูท่าคุณครูจะเอ็นดูบีมเป็นพิเศษ พร้อมกับชมไม่ขาดปากว่า บีมตั้งใจเรียนมาก ๆ ส่วนหนุ่มแดนก็เก็บข้อมูลไว้สุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าจะมีแพลนอะไรในใจหรือเปล่าน่า จากโรงเรียนก็นั่งรถมาที่บ้านผู้ปกครอง
โฮมสเตย์ของบีม ซึ่งไกด์คนเก่งมาหลงจนได้ โดนแซวจนต้องรีบชี้แจงว่า ปกติผมขึ้นรถเมล์ไปเรียนคุ้นแต่เส้นทางที่รถเมล์วิ่ง ไม่คุ้นเส้นทางอื่นเลยครับ โอเค.เป็นอันเหตุผลฟังขึ้น ทุกคนยอมรับพอไปถึงที่บ้านก็ตกใจกันใหญ่ เพราะบ้านสวยมาก ๆ แล้วพอได้เจอกับ Jason เจสัน + Sharon ชารอน ผู้ปกครองของบีม ก็ยิ่งตกใจเป็นครั้งที่สอง เพราะยังหนุ่ม ยังสาวมาก แถมยังมีน้องชิสะ สาวน้อยชาวญี่ปุ่นวัย 15 ปี นักเรียนที่เจสัน+ชารอนเป็นผู้ปกครองด้วย หลังจากแนะนำตัวกันแล้ว บีมก็พาเดินชมบ้านที่พัก ที่หลาย ๆ คนแซวว่า เหมือนบ้านตัวอย่าง เพราะสวยมาก จนไม่มีใครกล้าแตะอะไร ยกเว้นหนุ่มแดนที่พอเห็นเปียโนก็เลยขออนุญาตเจ้าของบ้าน เจสัน+ชารอน ขอลองเล่นเสียหน่อย นอกจากจะพาเดินชมบ้านแล้ว บีมยังแสดงฝีมือทำอาหาร “Chicken คาบับ” ให้ทีมงานได้ลองทานด้วย เพราะตอนเช้าบีมมีหน้าที่ทำอาหารเช้าให้ที่บ้านทานกัน โดยมีเจสัน + ชารอน ยืนให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ ซึ่งตอนหลังทั้งคู่บอกว่า ภาพแรกที่คิดถึงบีมช่างแตกต่างจากความเป็นจริง คือเข้าใจว่านักร้องต้องดูโหด ๆ ผมยาว ๆ เป็นร็อกเกอร์อะไรประมาณนั้น แต่พอเห็นตัวจริงแล้ว ตกใจ เพราะเรียบร้อยมาก ๆ หลังจากเอร็ดอร่อยกับเมนูพิเศษของบีมแล้ว พวกเราก็ยกทีมกันไปในเมือง เพื่อไป “ร้าน Bow Thai” ร้านอาหารที่บีมมารับจ็อบเป็น “พนักงานเสิร์ฟ” ซึ่งปกติบีมจะมาทำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 — 23.00 น. ได้วันละ 50 เหรียญ ตกประมาณ 1,500 บาท ( 1 เหรียญ เท่ากับ 30 บาทบ้านเรา) ก่อนอื่นบีมก็ต้องเข้าไปเปลี่ยนชุดพนักงานเสริฟ์ก่อน ซึ่งทางเจ้าของร้าน “น้าแพท” ได้เล่าให้ฟังว่า ที่นี่ก่อนเสิร์ฟต้องแปรงฟันก่อน แล้วเวลาเสิร์ฟก็ห้ามรับประทานอาหาร เพื่อความสะอาด พอทำขั้นตอนดังกล่าวเสร็จ บีมก็ออกมาในชุดเสื้อลายดอกสีส้ม กับกางเกงขาก๊วย ทำเอาแดนอดยิ้มไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นพี่บีมในชุดแบบนี้มาก่อน เจ้าตัวเองก็ยังเขิน ๆ เหมือนกัน เพราะทั้งชีวิตก็เพิ่งจะได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ บีมก็ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ดูแลลูกค้า ซึ่งก็มีทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ เรียกว่าเป็นการฝึกภาษาได้อีกช่องทางหนึ่ง บีมบอกว่าเพิ่งมาทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว พอดีทางพี่โอ๋ที่เดินทางไปเรียนภาษาพร้อมบีมเค้าไปตีขิมที่ร้านนี้ ก็เลยมีการชัดชวนให้มาทำด้วยกัน เพราะอยู่ว่าง ๆ เสาร์-อาทิตย์ ตรงนี้ก็ถือเป็นรายได้พิเศษ ซึ่ง “น้าแพท” ก็ดูจะชอบบีมมาก ๆ ด้วยบุคลิกลักษณะเรียบร้อย ก็อิ่มกันเต็มที่กับอาหารมื้อใหญ่ที่ทางร้านแนะนำให้ได้ทานกัน สำหรับคืนสุดท้ายเรามาพักที่ Lexicon Apartments ซึ่งเดินจากร้านอาหารที่บีมทำงานประมาณ 10 นาทีได้ คนที่นี่นิยมเดินมากกว่าขึ้นรถ เพราะอากาศเย็น ไม่เหมือนกับบ้านเราถ้าเดินก็คงเหงื่อตก
และแล้ววันสุดท้ายของทริปนี้ก็มาถึง บีมรับหน้าที่เป็นไกด์พาแดนไปเดินเล่นย่านศูนย์การค้า
แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด ควีนสตรีทมอลล์ (Queen Street Mall) งานนี้สองหนุ่มก็เพลิดเพลินน่าดู แต่ก็มีเวลาจำกัดแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะต้องไปถึงสนามบินบริสเบนเวลา13.00 น. แต่ถึงเวลาจะน้อยแค่ไป ทุกคนก็มุ่งมั่นหาของฝากกันสุดฤทธิ์ นาทีสุดท้ายบีมก็ส่งพวกเราที่รถบัส อย่างว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่ไม่ต้องเสียอกเสียใจ เพ่ะก็อีก 2 เดือน บีมก็บินกลับมาเจาะเจอพวกเราที่เมืองไทยแล้วล่ะ
หมายเหตุ เขียนตามกำหนดการเดินทางที่ไป แต่ถ้าดูจากรายการจะเรียงเป็นว่าไปที่บ้านก่อนแล้วถึงจะเดินทางไปเที่ยว--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ